ใคร ? คือ คนที่คุณจะเลือกใช้ชีวิตด้วย

สุภาษิต 30:18 , 19

18 มีสามสิ่งที่ประหลาดล้ำสำหรับข้า

สี่สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจ

19 คือ ท่าทางของนกอินทรีบนท้องฟ้า

ท่าทางของงูบนหิน ท่าทางของเรือในท้องทะเล

และท่าทางของชายหนุ่มต่อหญิงสาว

ฮีบรู 13:4

จงให้การสมรสเป็นที่นับถือแก่คนทั้งปวง

และให้เตียงสมรสปราศจากมลทิน

เพราะคนที่ประพฤติผิดทางเพศ

และคนที่ล่วงประเวณีนั้น

พระเจ้าจะทรงพิพากษา

ปฐมกาล 2:18

พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่า

“การที่ชายผู้นี้จะอยู่แต่ลำพังนั้นไม่ดี

เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ ที่เหมาะสมกับเขาขึ้น

ปัญญาจารย์ 4:9

"สองคนดีกว่าคนเดียว

เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับรางวัลดีสำหรับการตรากตรำของพวกเขา"

ทำไม ? จึงไม่สนับสนุนวัยรุ่นมัธยมคบกันเป็นแฟน

ชอบบอกว่า "ดูๆกันไปก่อน"

   1.อายุยังน้อย ควรให้เวลาสำหรับครอบครัว การเตรียมตัวสำหรับอนาคต การเรียน การเจริญเติบโต มัวไปเสียเวลากับคนที่ชอบจนหมด

   2.ควรสนุกสนานในวัยรุ่น กับเพื่อนๆและพี่น้องชายหญิงในคริสตจักร โดยไม่กลัวว่าคนที่ชอบจะหึงจะหวงแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ มนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนคนอื่น, กิจกรรม, งานเสียไปเพราะเอาเวลาไปกับเพื่อนหญิงหรือชายคนเดียวหมด

ทำไม ? จึงไม่สนับสนุนวัยรุ่นมัธยมคบกันเป็นแฟน ชอบบอกว่า ดูๆกันไปก่อนด้วย

   3.มีโอกาสที่อยู่ในการทดลองมาก เพราะมักจะอยู่กันเพียงสองต่อสองเท่านั้น

   4.ไม่มีโอกาสเปรียบเทียบ การไปไหนมาไหนด้วยกันและสนิทสนมกับคนเพียงคนเดียวมักไม่ประสบความสำเร็จใน ด้านชีวิตแต่งงานเท่ากับหนุ่มสาวที่คบเพื่อนหลายๆคนและดูกันไปอย่างธรรมชาติ การไม่มีโอกาสเปรียบเทียบชาย / หญิง อื่นหลายๆคน ดูทัศนคติ , เป้าหมายชีวิต, นิสัยต่างๆว่าใครที่มีเป้าหมายใกล้เคียงกับเรา ซึ่งแทนที่จะรู้จักคนอื่นในรสนิยม , พื้นเพ , ประสบการณ์กับเพื่อนคนอื่นๆบ้างแต่ต้องมาใช้เวลากับคนๆเดียวและส่วนใหญ่มัก เสียใจภายหลังว่ายังมีคนที่เหมาะสมกับเราและไม่น่ารีบสรุปตัดสินใจในการเร่ง รีบแต่งงาน

   การวางตัว เราเป็นคนไทยยึดมั่นในวัฒนธรรมไทย

รักนวลสงวนตัว นั่งด้วยกันให้แมวลอดได้ อย่าฉวยโอกาส

อย่าขี้หลี อย่าแตะอั๋ง มือไม้ถึงตัวเพศตรงข้าม

พระเจ้าทรงสถาปนาการสมรส เพศ ครอบครัว

   การแต่งงาน คือ พิธีที่ประกาศความเป็นสามี-ภรรยากัน ในงานพิธีนั้น ว่าที่สามีจะเรียกว่า เจ้าบ่าว ส่วนว่าที่ภรรยาเรียกว่า เจ้าสาว เรียกรวมกันเป็น คู่บ่าวสาว

การแต่งงาน ถือเป็นการเริ่มต้นสำหรับการใช้ชีวิตคู่ที่ถูกต้องและสมบูรณ์ของหมู่มวลมนุษย์ชาติ

   การที่จะแต่งงานกันได้นั้น ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายต้องเห็นพ้องต้องกันและอยู่ในวัยอันพอเหมาะสมควร มีหน้าที่การงานที่ดีที่จะพาครอบครัวให้อยู่รอดได้

การ แต่งงานที่ถูกต้องตามกฎหมายคือต้องจดทะเบียนสมรสต่อหน้าเจ้าหน้าที่รัฐ ประเทศไทยสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตั้งแต่ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายอายุครบ 17 ปี บริบูรณ์แต่ต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอมด้วย

อายุ 20 ปี ขึ้นไป (บรรลุนิติภาวะ) ถึงจะสามารถจดทะเบียนสมรสโดยไม่ต้องรับการยินยอมใดๆ

มาลาคี 2:16

พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสว่า

"เพราะว่าเราเกลียดชังการหย่าร้าง

และความทารุณ"

พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ

เพราะฉะนั้น จงระวังตัวให้ดี

อย่าเป็นคนทรยศ

   จะแต่งงาน

1.เลือกแต่งกับคนที่เป็นเพศตรงข้ามกับเรา

2.เลือกคนที่เป็นคริสเตียน

3.เรารักเขา เขารักเรา

4.พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับทราบ

5.ครอบครัวคริสตจักรรับทราบ เห็นด้วย หรือ เห็นชอบ หรือ เห็นใจ

   จะแต่งงาน

   1.ดูจิตวิญญาณ

โรม 1:12 หมายความว่าจะได้

มีการหนุนใจซึ่งกันและกัน

โดยความเชื่อของเราทั้งสองฝ่าย

2 โครินธ์ 6:14 - 16

14 อย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ

เพราะว่าความชอบธรรมจะมีส่วนอะไรกับความอธรรม?

และความสว่างจะมีส่วนกับความมืดได้อย่างไร?

15 พระคริสต์กับเบลีอัลจะไปด้วยกันได้อย่างไร? หรือคนที่เชื่อจะมีส่วนอะไรกับคนที่ไม่เชื่อ?

16 วิหารของพระเจ้าจะตกลงอะไรกับรูปเคารพ? เพราะว่าเราเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า "เราจะอยู่ในเขาทั้งหลายและจะดำเนินในหมู่พวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา"

   เป็นคริสเตียนด้วยกัน เอกภาพฝ่ายจิตวิญญาณ

(ข้อมูลการสำรวจ 1/2 ของคู่แต่งงานในอเมริกาหย่าร้างกัน

   แต่คู่สมรสที่ทำ 3 สิ่งร่วมกัน

1.ไปโบสถ์(นมัสการพระเจ้า)ด้วยกัน

2.อธิษฐานด้วยกัน

3.อ่านพระคัมภีร์ด้วยกันสม่ำเสมอ มีสถิติการหย่าร้างกันน้อย

   หากแต่งกับคนที่ไม่ป็นคริสเตียนคู่ของเราจะไปโบสถ์ด้วยกัน

อธิษฐานด้วยกัน อ่านพระคัมภีร์ด้วยกันกับเราไหม ?

1/5 ของคนไทย หย่าร้างกัน

   เราต่างอยากให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข ความสำเร็จ

การอวยพรจากพระเจ้า ไม่อยากไปกันคนละทาง

พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกไปทาง

บางคนบอกว่าแต่งกันก่อนเดี๋ยวเขาหรือเธอจะเปลี่ยน

อันนี้ก็เสี่ยง ลองคิดดูสิว่ามีคนที่เรารู้จักที่แต่งกับคนที่ไม่เป็นคริสเตียนมีมากแค่ไหนที่คู่ครองเปลี่ยนแปลงอย่างที่ต้องการ

   2.ดูจิตใจ

จิตใจ (อารมณ์ ) เขาและเธอมีใจ หรืออารมณ์แบบไหน?

โกรธจนควบคุมไม่ได้ไหม? เราคงไม่อยากแต่งงานกับคนเลือดร้อนอันธพาลหรือนักเลง หรือต้องกลายเป็นกระสอบทราย

ขมขื่นไหม ? หดหู่ไหม ?

80 เปอร์เซนต์ของคู่สมรสที่แยกทางกัน

เพราะคู่สมรสมีปัญหาทางอารมณ์ EQ ไม่ดี

ติดเหล้าไหม ? ติดบุหรี่ ติดยาไหม?

ติดการพนัน ?

เหล่านี้ต้องพิจารณา อย่าให้ความรักทำให้ตาบอด

มิฉะนั้นคุณก็จะต้องมีรักที่ต้องอดทนนาน

หรือรู้ว่านรกมีจริง

   3.ดูความคิด

ดูความคิด (เป้าหมายชีวิต)

อาโมส 3:3

สองคนจะเดินไปด้วยกันได้หรือ

นอกจากทั้งสองจะได้ตกลงกันไว้ก่อน?

ให้พระเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางชีวิต มีวัตถุประสงค์ในชีวิต

รักพระเจ้า

รักคนอื่น

รักคนหลงหาย

รักพี่น้องในคริสตจักร

รักพระคำ เป็นเหมือนพระคริสต์

   4.ดูกำลัง ดูรูปร่างหน้าตา สูงต่ำ ดำขาว

อายุ เชื้อชาติ ความขยัน เอาการเอางาน

ความรักคือการเลือก และอุทิศตัว เลือกแล้วเปลี่ยนไม่ได้

รักไใ่ใช่อารมณความรู้สึกเท่านั้นแต่เป็นเรื่องของการอุทิศตัว

สุภาษิต 31:10 – 31

10 ภรรยาที่เลิศประเสริฐใครเล่าจะหาพบ?

คุณค่าของเธอเลิศล้ำกว่าทับทิม

11 สามีของเธอก็ไว้ใจเธอ และเขาจะไม่ขาดประโยชน์ใดๆ

12 เธอนำสิ่งดีมาให้เขา ไม่นำสิ่งร้าย ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของเธอ

13 เธอแสวงหาขนแกะและป่าน และทำงานด้วยมืออย่างเต็มใจ

14 เธอเป็นเหมือนเรือของพ่อค้า เธอนำอาหารของเธอมาจากที่ไกล

15 เธอลุกขึ้นตั้งแต่ยังมืดอยู่ และจัดอาหารให้ครอบครัวของเธอ และจัดงานให้แก่สาวใช้ของเธอ

16 เธอพิเคราะห์ดูไร่นาแล้วซื้อไว้ ด้วยรายได้ของเธอ เธอปลูกสวนองุ่น

17 เธอคาดเอวของเธอด้วยกำลัง และทำให้แขนของเธอแข็งแรง

18 เธอรู้ว่าสินค้าของเธอจะได้กำไร กลางคืนตะเกียงของเธอก็ไม่ดับ

19 เธอยื่นมือออกจับไน และมือของเธอจับเครื่องปั่นฝ้าย

20 เธอหยิบยื่นให้คนยากจน เธอยื่นมือออกช่วยคนขัดสน

21 เธอไม่กลัวหิมะมาทำให้ครอบครัวของเธอหนาว เพราะทุกคนในครอบครัวสวมเสื้อสองชั้น

22 เธอทำผ้าปูเตียงสำหรับเธอ เสื้อผ้าของเธอทำด้วยผ้าลินินเนื้อละเอียดและผ้าสีม่วง

23 สามีของเธอเป็นที่รู้จักที่ประตูเมือง เมื่อเขานั่งอยู่ในหมู่พวกผู้ใหญ่ของแผ่นดิน

24 เธอทำเครื่องนุ่งห่มด้วยผ้าลินินไว้ขาย เธอส่งผ้าคาดเอวให้แก่พ่อค้า

25 กำลังและความสง่าผ่าเผยเป็นอาภรณ์ของเธอ เธอหัวเราะให้แก่เหตุการณ์ที่จะมาถึง

26 เธออ้าปากกล่าวด้วยปัญญา และคำสอนเจือความเอ็นดูอยู่ที่ลิ้นของเธอ 27 เธอดูแลความเป็นอยู่ในครอบครัวอย่างดี และไม่เคยเกียจคร้าน

28 ลูกๆ ของเธอตื่นขึ้นมาก็ชมเชยเธอ สามีของเธอก็สรรเสริญเธอว่า

29 "สตรีมากมายทำได้ดีเลิศ แต่เธอเลิศยิ่งกว่าเขาทั้งหมด"

30 เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็ไม่จีรัง แต่สตรีที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ สมควรได้รับคำสรรเสริญ

31 จงให้เธอรับผลแห่งน้ำมือของเธอ และให้การงานของเธอสรรเสริญเธอที่ประตูเมือง

   สิ่งที่ต้องทำ

1.อธิษฐาน

2.เตรียมตัว

3.พระสัญญา

4.เสาะหา

   1.อธิษฐาน

ฟิลิปปี 4:6 อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย

แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ

โดยการอธิษฐานและการวิงวอน

พร้อมกับการขอบพระคุณ

เยเรมีย์ 29 :11 - 13

11 พระยาห์เวห์ตรัสว่า

‘เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับพวกเจ้า

เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า

เพื่อจะให้อนาคตและความหวังแก่เจ้า

12 แล้วเจ้าจะร้องทูลเรา

และมาอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า

13 เจ้าจะแสวงหาเราและพบเรา

เมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสิ้นสุดใจของเจ้า

บอกพระเจ้าในสิ่งที่เราต้องการให้พระเจ้าช่วยเรา

พระเจ้าทรงห่วงใยเราในทุกด้าน

เราต้องการให้พระเจ้าอวยพรเรื่องคู่ครอง

เราบอกพระเจ้าในเรื่องคู่ครองของเรา

อธิษฐาน

"... ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอ" ยากอบ 4:2

“จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน"

มัทธิว 7:7

"จนบัดนี้พวกท่านก็ยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา

จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม"

ยอห์น 16:24

ตัวอย่าง

Susan Dunn เล่าว่า หลังจากอกหักกับคนที่คบมา 5 ปี

เธอมีโอกาสไปยังคริสตจักร ภายในแตกสลายและเหน็ดเหนื่อย

อายุที่เริ่มมากขึ้น เธอกลัวว่าจะได้พบกับคนพิเศษได้อีกไหม

เธอได้ฟังเทศน์เรื่องเรเบคาห์

เธออ่านเรื่องราวของนางรูธ

เธอรู้ว่าพระเจ้ายังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ วันนี้ และสีบๆไปเป็นนิจกาล

เธอเริ่มอธิษฐานขอพระเจ้าทรงจัดเตรียมคนที่เธอจะเลือกใช้ชีวิตด้วย

ก่อนที่เธอจะพบกับคนที่ใช่ราว 5 ปี

เธอใช้เวลาในการดำเนินไปกับพระเจ้า

ให้พระเจ้ามาก่อน พระเจ้าสำคัญ อดอาหารอธิษฐาน

เธอขอพระวิญญาณพระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงตัวเธอ

   2.เตรียมตัว ดูแลตัวเอง

Susan Dunn เล่าว่า

การเตรียมตัวคือกุญแจสู่ความสำเร็จในทุกเรื่อง

ขณะที่เรามองหาคนที่ใช่ เราก็เตรียมตัวเป็นคนที่ใช่สำหรับคู่ของเรา

และมากกว่านั้นเราเป็นคนที่ใช่สำหรับพระคริสต์

พระคัมภีร์สอนว่าเราคือเจ้าสาวของพระคริสต์

Susan Dunn ขอพระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงจิตใจเธอ

ให้รู้ถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเธอ

รู้ว่าตัวเธอคือใคร

รู้จักคุณค่าการแต่งงานอย่างที่พระเจ้าทรงพอพระทัย

และฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในชีวิต

เมื่อเธอยอมให้พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงตัวเธอ

เธอเริ่มเห็นประโยชน์ในการเลือกเดินในน้ำพระทัยพระเจ้า

เธอต้องการเห็นชีวิตรักของเธอแตกต่าง

เธอต้องการน้ำพระทัยที่สมบูรณ์จากพระเจ้าในชีวิต

(ต่อมา Susan ได้แต่งงานกับคนที่เหมาะสมกับเธอ)

คนโสดไม่ได้หมายความว่าอารมณ์ของเราจะพร้อม

ในการมีสัมพันธภาพกับคนอื่น

หนุ่มสาวพร้อมในเรื่องกำลัง แต่ในด้านอื่นเราต้องดูแลด้วย

จิตใจ(อารมณ์) จิตวิญญาณ ความคิด

เพราะว่าเราอาจจะมีความผิดบาป (จิตวิญญาณ)

การรู้สึกผิด เห็นแก่ตัว ฉุนเฉียว เจ้าอารมณ์ ไม่ให้อภัย ขมขื่นใจในบางสิ่ง (อารมณ์)

ขาดจุดหมาย (ความคิด)

เราไม่สมบูรณ์เจอคนไม่สมบูรณ์จะเกิดอะไรขึ้น

เราต้องการคนมาเดินเคียงข้างเรา

ใช่ เราต้องการชีวิตที่ดี

แต่เราก็ต้องให้พระเจ้าทรงจัดการชีวิตของเราด้วย

เพื่อเราจะประกาศได้ว่าพระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงเรา

ทรงสร้างเราใหม่ เรามีชีวิตที่แตกต่าง

และพร้อมสำหรับสำหรับน้ำพระทัยอันดีเลิศของพระเจ้าในชีวิตคู่

   3.พระสัญญา

คริสเตียนแท้ต้องใกล้ชิดพระเจ้า

รู้น้ำพระทัย กฏเกณฑ์ของพระเจ้า

และรับการสำแดงจากพระเจ้าในคำทรงสัญญาที่มีต่อเรา

เปาโล : "ข้าพเจ้าต้องการให้ทุกนเป็นเหมือนข้าพเจ้า

แต่ว่าแต่ละคนก็ได้รับของประทานของตัวเองจากพระเจ้า

คนหนึ่งได้รับอย่างนี้ และอีกคนหนึ่งได้รับอย่างนั้น"

1 โครินธ์ 7:7

   4.เสาะหา

จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ

อายุยังน้อย คบเพื่อน มีเพื่อน ไม่ใช่แฟน

เมื่อเรามีงานทำ มีรายได้จากการทำงาน

ดูแลตัวเองได้ จะมีแฟน

เราดูๆคนรอบข้างได้ คนที่เรารู้จัก

คนที่รักพระเจ้า คนที่เคยร่วมกันรับใช้

การนั่งอยู่ที่บ้าน นอนอยู่ที่บ้าน อยู่หน้าคอม

หน้าทีวี คงจะไม่พบคนที่เราจะเลือกใช้ชีวิตด้วย

เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราต้องออกไปเสาะหา (พบปะผู้คน)

เมื่อเรารู้ว่าต้องดูจิตวิญญาณ ดูจิตใจ ดูความคิด ดูกำลัง

เราคงไม่ไปหาคนร่วมเส้นทางชีวิตใน ผับ ในบ่อน ในที่อโคจร

แต่เราจะไปหาที่สามัคคีธรรมของคริสเตียน

     สิ่งที่ต้องทำ

1.อธิษฐาน

2.เตรียมตัว

3.พระสัญญา

4.เสาะหา

ขอขอบคุณ บทความของ ศาสนาจารย์อิทธิชัย ไชยสุขทักษิณ ที่ให้ข้อคิดดีๆ กับเราทุกคน

Green City