หัวใจของการทำพันธกิจของคริสตจักร

๑๑๑๑๑๑๑๑๑      ๑๑๑๑๑๑๑๑๑

คำเทศนาเรื่อง : หัวใจของการทำพันธกิจของคริสตจักร

               

ในเช้าวันนี้เราจะตื่นเต้นไปกับพระคำของพระเจ้าโดยผมจะอัญเชิญพระคำของพระเจ้า จากพระธรรม มธ.28:18-20 ซึ่งเป็นข้อพระคัมภีร์ที่พวกเราต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เมื่อพบแล้วเราจะอ่านพร้อมๆกันอย่างช้าๆด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ และผมจะให้ชื่อของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า หัวใจของการทำพันธกิจของคริสตจักร ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

พี่ - น้องที่รักครับ โบสถ์หรือคริสตจักรของพระเจ้าที่มีขนาดใหญ่หลายๆแห่งนี้ ผมมีความเชื่ออย่างมั่นใจว่าภายในคริสตจักรต่างๆเหล่านั้น เขาคงจะมีการทำพันธกิจอะไรต่อมิอะไรหลายๆอย่าง

ตัวอย่าง เช่น คริสตจักรหรือโบสถ์ของพระเจ้าที่มีขนาดใหญ่หลายๆคริสตจักร

1)เขาน่าจะมีพันธกิจในการเสริมสร้างผู้นำ

2)เขาน่าจะมีพันธกิจในการบุกเบิกคริสตจักร

3)เขาน่าจะมีพันธกิจในการทำงานต่างวัฒนธรรม

4)เขาน่าจะมีพันธกิจในการอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง

แต่คำถามที่สำคัญนั่นก็คือว่า แล้วพันธกิจใดเล่าที่มีความสำคัญมากที่สุด ในการที่พวกเราทั้งหลายนั้นต่างปรนนิบัติและรับใช้พระองค์อยู่ในเวลานี้

ถ้าพี่ - น้องได้อ่านและได้สังเกตพระคำของพระเจ้าโดยเฉพาะในหนังสือพระกิตติคุณทั้ง 4 เล่ม พี่ - น้องก็จะพบว่าเมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ได้ทรงเทศนาสั่งสอนประชาชน หรือเมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าได้ทรงรักษาคนเจ็บ คนป่วยเสร็จเรียบร้อยแล้ว และหรือเมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าได้ทรงให้อาหารแก่ประชาชนเรียบร้อยแล้ว

พระคัมภีร์ได้มีการบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้าก็มักที่จะ เสด็จพระราชดำเนินไปหรือพระองค์เสด็จข้ามไปฝั่งคะโน้น เป็นต้น ซึ่งนั่นหมายความว่า มันจะต้องมีพันธกิจอะไรสักอย่างหนึ่งที่สำคัญและต้องสำคัญมากๆด้วย ที่กำลังรอคอยพระองค์อยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน พี่ - น้องคิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ ?

พระคำของพระเจ้าในหนังสือ มก.10:45 ตรัสเอาไว้ดังนี้ว่า เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่ท่านมาเพื่อปรนนิบัติเขาและประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก และพระคำของพระเจ้าในหนังสือ ลก.19:10 ตรัสเอาไว้ดังนี้ว่า เพราะว่าบุตรมนุษย์ ได้มาเพื่อจะเที่ยวหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด

จากพระคำของพระเจ้าทั้ง 2 ข้อที่ผมได้อ่านให้กับพี่ - น้องได้รับฟังเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เราได้ทราบถึงสาเหตุของภารกิจสำคัญที่แท้จริงที่เป็นเหตุทำให้องค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นได้เสด็จเข้ามาในโลกนี้

นั่นก็คือ การที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้า เสด็จเข้ามาเที่ยวตามหาคนที่หลงหายให้ได้รับความรอดและเสด็จเข้ามาเพื่อแตะต้องสัมผัสชีวิตคน ดังนั้นภารกิจในการแตะต้องชีวิตและช่วยคนทั้งมวลให้รอดจากความบาปนี้ จึงเป็นพันธกิจที่สำคัญมากที่สุดอาจจะกล่าวได้ว่าภารกิจถือว่าเป็นหัวใจ ของการทำพันธกิจทั้งมวลก็ว่าได้

ดังนั้นคำถามเมื่อสักครู่นี้ที่ถามผมถามว่า แล้วพันธกิจใดเล่าที่มีความสำคัญมากที่สุดในการที่พระเจ้าทรงให้เราทั้งหลายนั้นได้ปรนนิบัติและรับใช้พระองค์

คำตอบก็คือ พันธกิจในการประกาศ การเป็นพยาน ถือว่าเป็นพันธกิจที่สำคัญมากที่สุด

พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อเราได้ทำการประกาศ เป็นพยาน และเมื่อเรามีจำนวนผู้เชื่อที่มากพอสมควร ขั้นตอนต่อไปนั่นก็คือ การตั้งคริสตจักร แต่นั่นก็มิได้หมายความว่า ภารกิจนี้จบสิ้นแล้ว ในทางตรงกันข้ามภารกิจนี้กับต้องดำเนินต่อไป

เหตุเพราะพระคำของพระเจ้าใน กจ.1:8 บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า พระมหาบัญชาขององค์พระเยซูเจ้านี้ไม่ใช่เพียงแค่คนในเขตฝั่งธนบุรีเท่านั้น และหรือไม่ใช่เพียงแค่คนในประเทศไทยเท่านั้นแต่จนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก

ดังนั้นงานของพระเจ้าจึงเป็นงานที่ใหญ่ เป็นงานใหญ่ระดับฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก และคนที่พระเจ้าทรงเลือกใช้ให้ทำงานระดับใหญ่อย่างนี้คือใครครับ ? คือคนที่เล็กน้อยอย่างพวกเรา ดังนั้นเมื่อพี่ - น้องมีโอกาส ผมขอหนุนใจพี่ - น้องว่าให้เราปรนนิบัติและรับใช้พระเจ้าร่วมกัน

โดยเริ่มจาก การรับใช้บุคคลภายในครอบครัวของตนเองให้ดีหรือให้เรียบร้อยเสียก่อน และพี่ - น้องค่อยๆที่จะขยายการรับใช้ของตนเองออกไปสู่ภายนอกหรือออกไปสู่ธารณะชนให้มากขึ้น และทั้งหลายทั้งปวงที่ได้กล่าวมานั้นเป็นเพียงการอารัมภาบทเท่านั้นนะครับ ยังไม่ได้เข้าสู่การเทศนาในเช้าวันนี้เลย

จากพระวจนะของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันใน มธ. 28:19-20 เราพบอะไร ?

เราพบคำว่า เจ้าทั้งหลาย เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไป สั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติสมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์

คำถามที่น่าสนใจนั่นก็คือว่า คำว่า เจ้าทั้งหลาย ในที่นี้หมายถึงใคร ?

พี่ - น้องที่รักครับ ในพระคัมภีร์ใหม่ เช่น ในหนังสือ อฟซ. 5:23 คริสตจักรถูกเรียกว่า เป็นพระกายของพระคริสต์ ดังนั้นคำว่า เจ้าทั้งหลาย ในที่นี้

ประการที่ 1 จึงหมายถึง คริสตจักรของพระเจ้า

พี่ - น้องที่รักครับ องค์พระเยซูคริสต์เจ้า ได้ทรงตรัสเอาไว้อย่างชัดเจนและหนักแน่นมั่นคงว่าให้คริสตจักรของพระเจ้านั้นจะต้องก้าวออกไปทำพันธกิจนี้ คริสตจักรแห่งนี้เป็นคริสตจักรของพระเจ้าไหมครับพี่ - น้อง

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คริสตจักรของพระเจ้าในทุกหนและในทุกแห่ง ต่างที่จะต้องให้ความสำคัญกับการทำพันธกิจนี้มากกว่าพันธกิจใดๆทั้งสิ้น

คริสตจักรจึงเป็นเครื่องมือของพระคริสต์ ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องหมาย

เครื่องหมายมันทำอะไรได้ไหมครับ ?

ดังนั้นเวลานี้ขอให้พี่ - น้องได้รู้และได้เข้าใจเถิดว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้ากำลังทำงานของพระองค์อยู่ในโลกใบนี้ผ่านทางคริสตจักรของพระองค์

มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นได้มีพลทหารเยอรมันนายหนึ่งถูกยิงบาดเจ็บในแนวหน้า ผู้บัญชาการจึงสั่งพลทหารนายนี้ให้กลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารในเมือง

เมื่อพลทหารนายนี้เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาล ซึ่งมีขนาดใหญ่ตึกสูงถึง 4 ชั้น และยาวติดต่อกันหลายช่วงตึก เขาก็ได้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถ พอเดินเข้ามาในโรงพยาบาลก็เห็นประตูทางเข้า 2 ประตู

ประตูแรกเขียนว่าสำหรับทหาร อีกประตูหนึ่งเขียนว่า สำหรับพลเรือน

เขาก็เลือกใช้ประตูแรก พอเดินมาอีกสักหน่อยหนึ่ง ก็พบประตูทางเข้า 2 ประตู

ประตูแรกเขียนว่า สำหรับชั้นประทวน อีกประตูหนึ่งเขียนว่า สำหรับสัญญาบัตร เขาก็เลือกใช้ประตูแรก

พอเดินไปได้อีกสักเล็กน้อย เขาก็พบประตูทางเข้าอีก 2 ประตู

ประตูแรกเขียนว่า บาดเจ็บเล็กน้อย อีกประตูหนึ่งเขียนว่า บาดเจ็บสาหัส   เขาก็เลือกใช้ประตูแรก

พอเดินไปได้อีกสักหน่อยเขาก็พบประตูทางเข้าอีก 2 ประตู ประตูแรกเขียนคำว่า

มีญาติ อีกประตูเขียนคำว่าว่า ไม่มีญาติ พลทหารคนนี้ก็เลือกใช้ประตูแรก

พอเปิดไปอีกที่ ก็เจอลานจอดรถที่ตนเองได้จอดเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปที่โรงพยาบาลนั่นเอง และเมื่อพลทหารคนนี้กลับถึงบ้านแล้ว

คุณแม่ก็ได้ถามเขาว่า ลูกไปโรงพยาบาลมาเป็นอย่างไรบ้าง ?

พลทหารตอบว่า…..แม่ครับ ความจริงที่ผมอยากจะบอกก็คือว่า โรงพยาบาลนั้นมีระบบระเบียบที่ดีมากๆ แม่ลองไปดูด้วยตนเองก็ได้นะครับ แต่โรงพยาบาลนั้นกลับไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย

พี่ - น้องที่รักครับ เรื่องที่ผมเล่าให้พี่ - น้องได้ฟังนี้ อาจจะเปรียบได้กับคริสตจักรของพระเจ้าในเวลานี้ ที่บางที่บางแห่งนั้น อาจจะมีการสร้างคริสตจักรให้มีขนาดที่ใหญ่ ภายในอาคารของคริสตจักรอาจจะมีห้องหับมากมายหลายห้อง และอาจจะมีกิจกรรมต่างๆอยู่อย่างมากมายในคริสตจักร

ทั้งการสอน ภ.จีน ภ. อังกฤษ มีการฝึกสอนดนตรี มีการฝึกร้องเพลงประสานเสียง มีการจัดประชุม - สัมนาในแต่ละเดือน   ซึ่งแต่ละกิจกรรมนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดีๆทั้งนั้นเลย และเมื่อมีคนมองเข้าไปก็จะเห็นว่าคริสตจักรแห่งนี้เขากำลังรับใช้พระเจ้ากันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหรือเขากำลังปรนนิบัติรับใช้พระเจ้ากันอย่างเข้มแข็ง

แต่สิ่งที่เราจะต้องถามตัวเองนั่นก็คือว่า      คริสตจักรกำลังทำหัวใจของพันธกิจ นั่นคือ การออกไปปลดปล่อยคน ที่กำลังอยู่ในความมืดบอดในฝ่ายจิตวิญญาณ ให้มารู้จักกับพระเจ้าที่เที่ยงแท้มากน้อยแค่ไหน

แต่สิ่งที่เราจะต้องถามตัวเองนั่นก็คือว่า       คริสตจักรกำลังทำหัวใจของพันธกิจ นั่นคือ การช่วยคนหลงหายให้มารู้จักกับพระเจ้า ซี่งนั่นเป็นสิ่งที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้า ได้ทรงมอบหมายให้คริสตจักรกระทำอย่างแท้จริงหรือไม่ พี่ - น้องที่รักครับ

ถ้าเรากำลังยุ่งอยู่ในการทำงานของพระเจ้า แต่ในที่สุดเราก็พบว่ามันไม่ได้ไปไหนเลย

ถ้าเรากำลังยุ่งอยู่ในการทำงานของพระเจ้า แต่ในที่สุดเราก็พบว่ามันไม่ได้นำมาซึ่งการเก็บเกี่ยวนำดวงวิญญาณเลย ซึ่งนั่นหมายความว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้น มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากโรงพยาบาลเมื่อสักครู่นี้ที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

พี่ - น้องที่รักครับ ถ้าคริสตจักรของพระเจ้าในประเทศไทย กำลังจดจ่ออยู่ที่หัวใจของการทำพันธกิจ ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงมอบหมายให้คริสตจักรของพระองค์กระทำ นั่นคือ การช่วยคนหลงหายให้มารู้จักกับพระเจ้าเราก็จะพบว่าคริสตจักรนั้นจะเป็นตักไม่ใช่เป็นตึกเป็นตักที่รองรับผู้คนที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าให้เขานั้นได้รับการหนุนนอน

ถ้าคริสตจักรของพระเจ้าในประเทศไทยกำลังจดจ่ออยู่ที่หัวใจของการทำพันธกิจ ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงมอบหมายให้คริสตจักรของพระองค์กระทำ นั่นคือ การออกไปปลดปล่อยคน ออกจากความมืดบอดในฝ่ายจิตวิญญาณเราก็จะพบว่าคริสตจักรนั้นจะเป็นคานที่ค้ำชูชีวิตของคน ไม่ใช่ค้ำอาคาร

ถ้าคริสตจักรของพระเจ้าในประเทศไทยกำลังจดจ่ออยู่ที่หัวใจของการทำพันธกิจ ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงมอบหมายให้คริสตจักรของพระองค์กระทำ นั่นคือ การที่คริสตจักร ออกไปพันแผลให้แก่คนที่บาดเจ็บ ทั้งในฝ่ายร่างกายและในฝ่ายจิตวิญญาณเราก็จะพบว่าคริสตจักรนั้น จะเป็นอุปกรณ์ของพระเจ้าไม่ใช่เป็นอุปสรรค แต่อย่างใด

ถ้าคริสตจักรของพระเจ้าในประเทศไทยกำลังจดจ่ออยู่ที่หัวใจของการทำพันธกิจ ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงมอบหมายให้คริสตจักรของพระองค์กระทำ นั่นคือ การออกไปแสดงความรัก ความเมตตากับคนที่ขาดโอกาสที่ดีในสังคมเราก็จะพบว่าคริสตจักรนั้นไม่ใช่องค์กรคริสเตียนแต่เป็นอ้อมกอดของคริสเตียนต่างหาก

เพราะฉะนั้น ถ้าคริสตจักรของพระเจ้าไม่ได้จดจ่ออยู่ที่ หัวใจ ของการทำพันธกิจของพระเป็นเจ้า เหมือนดังที่ผมได้กล่าวมาเมื่อสักครู่นี้ ก็ไม่น่าจะเรียกว่า เป็นคริสตจักรของพระเจ้าได้อีกต่อไป

ผมขอบพระคุณพระเจ้าที่คริสตจักรแห่งนี้จดจ่ออยู่ที่ หัวใจ ของการทำพันธกิจนี้ ดังนั้นคริสตจักรแห่งนี้จึงเป็นคริสตจักรของพระเจ้า และเป็นคริสตจักรที่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้านั้นทรงสถิตและอยู่ด้วย

ดังนั้นคำว่าเจ้าทั้งหลาย ในที่นี้หมายถึงใคร

ประการที่ 2 อยู่ในหนังสือ ยน.17:18 พระคำของพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า พระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มาในโลกฉันใด ข้าพระองค์ก็ใช้เขาไปในโลกฉันนั้น

พี่ - น้องที่รักครับ พระคำของพระเจ้าในข้อนี้ได้ตรัสเอาไว้อย่างชัดเจนว่า พระองค์ทรงใช้พี่ - น้องและผมและทรงใช้พวกเราทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้เชื่อที่สวย รูปหล่อและหน้าตาดี ที่จะเป็นผู้ก้าวออกไปในการทำพันธกิจนี้ พี่ - น้อง ชื่นชมยินดีไหมครับ ? ที่พี่ - น้องได้รับสิทธิพิเศษที่ได้ร่วมงานกับพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่สูงสุด

ดังนั้นคำว่าเจ้าทั้งหลายในที่นี้ประการที่ 2 จึงหมายถึงคนของพระเจ้า

พี่ - น้องเป็นคนของพระเจ้าไหมครับ / เป็นผู้เชื่อไหมครับ ?

ถ้าพี่ - น้องเป็นคนของพระเจ้าอย่างแท้จริง พี่ - น้องจะต้องไม่ปล่อยให้ศิษยาภิบาลเป็นผู้ทำพันธกิจนี้เพียงลำพัง แต่พี่ - น้องจะต้องทำพันธกิจนี้ร่วมกับคริสตจักร

ประการที่สำคัญพี่ - น้องจะต้องทำพันธกิจนี้เป็นการส่วนตัวด้วย อาจจะกล่าวอีกนัยยะหนึ่งก็ได้ว่า พันธกิจนี้หรือนิมิตนี้และหรือพระมหาบัญชานี้จะต้องติดตัวพี่ - น้องอยู่ตลอดเวลาเสมอ

มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีระเบิดลูกหนึ่งของทหารเยอรมันตกเข้าไปในคริสตจักรแห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ สะเก็ดระเบิดนั้นได้ตัดมือรูปปั้นของพระเยซูข้างหนึ่งขาดหายไป คณะผู้ปกครองของคริสตจักรก็ได้ปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรกันดีกับรูปของพระเยซูที่แตกหักไปนี้

ผู้ปกครองบางคนก็แนะนำว่า ให้ทิ้งเสียดีกว่า ผู้ปกครองบางคนก็บอกว่าให้ซ่อมดีกว่า แต่สุดท้าย…ท้ายสุดต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า ควรตั้งเอาไว้ที่เดิมเนี่ยแหละ ส่วนมือที่ขาดหายไปข้างหนึ่งก็ให้เขียนคำว่าพระเยซูไม่มีมือ และพระองค์ต้องการใช้มือของท่าน

น่าเสียดายตรงที่ว่าในเวลานี้ มีคริสเตียนไทยหลายคนมาประชุมกันในวันอาทิตย์ที่คริสตจักรเพื่อมานมัสการ อธิษฐาน ถวายทรัพย์ ฟังคำเทศนา กินข้าวและก็กลับบ้าน จะว่าไปแล้วก็มีผู้เชื่อหรือมีคริสเตียนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวพี่ - น้องที่รัก ที่จะต้องมาทำอะไรซ้ำๆซากๆอยู่อย่างนี้ในทุกๆวันอาทิตย์ที่คริสตจักร

พี่ - น้องฟังสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ให้ดีๆ สิ่งที่ผมจะพูดก็คือว่า การที่เรามาประชุมกลุ่มเซลล์ร่วมกันในระหว่างสัปดาห์เพื่อสามัคคีธรรมหรือการที่เราการมาอธิษฐานร่วมกันในทุกต้นเดือนหรือปลายเดือน และหรือการที่เรามานมัสการพระเจ้า และฟังพระคำของพระองค์ในวันอาทิตย์นั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำ เหตุเพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ต้องการจะให้เราทั้งหลายนั้นเติบโต และให้เรานั้นได้ช่วยให้คนอื่นนั้นได้เติบโตด้วย เหมือนกับพระคำของพระเจ้าที่ได้ทรงตรัสเอาไว้ใน สภษ.17:27 ว่า เหล็กลับเหล็กได้คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนได้

แต่สิ่งที่พี่ - น้องต้องรู้และต้องเข้าใจนั่นก็คือว่าผู้เชื่อหรือคริสเตียนทุกคน ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการชุมนุมในวันอาทิตย์เฉยๆ มีอะไรบ้างไหมครับในโลกนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วโดยมีวัตถุประสงค์ที่เฉยๆมีไหมครับ

รถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมา ก็เพื่อให้มันวิ่ง ไป - มา บนท้องถนน ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อให้มันมาจอดเฉยๆ และเมื่อมันวิ่งไป - วิ่งมามันก็ต้องมีการแวะเขาปั๊มบ้าง เพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เติมเสร็จแล้วมันก็ต้องวิ่งออกไป

เรือเดินสมุทรก็เช่นเดียวกันพี่ - น้องที่รัก ที่มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้จอดเทียบท่าเอาไว้เฉยๆ แต่มันถูกสร้างขึ้นมา ก็เพื่อให้มันวิ่งฝ่าฝน ฝ่าลมและโต้คลื่นในทะเล เมื่อมันเทียบท่าเพื่อเติมเชื้อเพลิงและได้สิ่งของที่จำเป็นเรียบร้อยแล้วมันก็จะต้องถูกแล่นออกไป

ดังนั้นเหตุและผล ที่ผู้เชื่อมาประชุมกันในวันอาทิตย์นั้นก็เพื่อที่จะให้เราทั้งหลายนั้นได้รับพระพร , ได้รับการเสริมกำลังเสริมเรี่ยวแรง , ได้รับการหนุนน้ำใจ , ได้รับข้อแนะแนวคิดในการดำเนินชีวิต ผ่านทางพระคำของพระเจ้าเพื่อที่พี่ - น้องจะกลับออกไปปรนนิบัติและรับใช้พระเจ้า   เพื่อที่จะให้พี่ - น้องที่จะกลับออกไปเป็นปาก เป็นเสียง เป็นแขน เป็นขา เป็นมือ เป็นเท้าให้กับพระองค์

พี่ - น้องที่รักครับ เวลานี้พระเยซูปรารถนาที่จะประเล้า ประโลมจิตใจ คนที่เจ็บกายปวดใจ แต่ในเวลานี้พระองค์ไม่มีปาก พระองค์ต้องการที่จะใช้ปากของท่าน ท่านจะยอมมั้ย

เวลานี้พระเยซูปรารถนาที่จะเห็นคนที่อยู่ในชุดคลุมหน้าให้ได้รับความรอด แต่ในเวลานี้พระองค์ไม่มีปาก ไม่มีเสียง พระเยซูคริสต์ต้องการที่จะใช้ปาก ใช้เสียงของท่าน ท่านจะยอมมั้ย

เวลานี้พระเยซูปรารถนาที่จะช่วยคนยากจน แต่ในเวลานี้พระองค์ไม่มือ ไม่มีแขน พระองค์ต้องการที่จะใช้มือและใช้แขนของท่าน ที่จะเหยียดออกแทนพระหัตถ์พระองค์ ท่านจะยอมไหม

เวลานี้พระเยซูปรารถนาที่จะเข้าไปหาคนที่อยู่ในคุก หรือคนที่อยู่ในสลัมแต่ในเวลานี้พระองค์ไม่มีขา พระองค์ต้องการที่จะใช้ขาของท่าน เพื่อที่ก้าวเดินออกไปเยี่ยมเยียนและหนุนจิต ชูใจ คนเหล่านี้ ท่านจะยอมไหม

พี่ - น้องที่รักครับ   ถ้าวันนี้ พี่ - น้องบอกว่าพี่ - น้องรักพระเจ้า แต่ถ้าพี่ - น้องไม่ยอมที่จะให้สิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้แด่พระเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมเจ้านายในชีวิตของพี่ - น้องได้แล้ว และนับประสาอะไรกับการที่เราจะมอบทุกสิ่งให้แด่พระองค์หรือมอบทั้งชีวิตนี้ให้แด่พระองค์ได้

ผมอยากที่จะบอกกับพี่ - น้องอย่างสัตย์ซื่อว่า การที่คริสเตียนนั้นมาประชุมกันในทุกๆวันอาทิตย์โดยไม่มีจุดประสงค์ในชีวิตของตน ที่จะก้าวออกไปปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าหรือไม่ได้มีจุดประสงค์ในการที่จะก้าวออกไปเป็นปาก เป็นเสียง เป็นมือ เป็นแขน เป็นขา เป็นเท้า หรือไม่ได้มี หัวใจ ที่จดจ่ออยู่กับการทำพันธกิจของพระเจ้า นั่นคือ การช่วยคนหลงหาย หรือช่วยคนที่มืดบอดในฝ่ายจิตวิญญาณให้มารู้จักกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว เราก็ไม่อาจจะเรียกผู้เชื่อคนนั้นว่าเป็นคริสเตียนโดยสมบูรณ์ได้

เพราะการเป็นคริสเตียนโดยสมบูรณ์นั้น จะต้องมีหัวใจในการทำพันธกิจนี้อยู่ตลอดเวลา  

เพราะการเป็นคริสเตียนโดยสมบูรณ์นั้น จะต้องมีนิมิตส่วนตัวนี้ติดตามตัวของเขาไปในทุกหนและทุกแห่ง

จะมีผู้เชื่อหรือคริสเตียนบางคนเท่านั้นพี่ - น้องที่รัก ที่เขานั้นไม่สามารถที่จะเป็นปาก เป็นเสียง เป็นแขนเป็นขา เป็นมือหรือเป็นเท้าให้กับพระเยซูได้ นั่นก็คือผู้เชื่อหรือคริสเตียนที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงรับเขาไปอยู่กับพระองค์เรียบร้อยแล้วหรือคนที่ตายไปแล้วเท่านั้น

เพราะฉะนั้นผมจึงเรียกร้องจากพี่ - น้องผู้ซึ่งมีชีวิตและลมหายใจอยู่ในเวลานี้โดยไม่มีแม้ ไม่มีแต่หรือโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นว่าให้เราทั้งหลายได้เป็น

1.เครื่องไม้ เครื่องมือ เป็นภาชนะ เป็นอุปกรณ์ขององค์พระเยซูคริสต์ที่จะทำงานผ่านเราในโลกนี้

2.เอเย่นต์ส่งความรักของพระเยซู ให้กับผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนท้องถนนในเวลานี้ให้มารู้จักกับพระเจ้า ( เปิดคลิปยางซอนคโย )

พี่ - น้องทราบมั้ยครับว่า มีเพียง 2 สิ่งเท่านั้น ที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรานั้น ปรารถนาที่จะให้พี่ - น้องได้ทำกันมากที่สุดในแผ่นดินโลกนี้ และ 2 สิ่งที่ว่านี้นั่นก็คือ การประกาศกับการสร้างสาวก และ 2 สิ่งที่ว่านี้พี่ - น้องทราบไหมครับว่าที่ไหนไม่มีความต้องการเลย ?

บนแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้านั้น ไม่ต้องการประกาศและไม่ต้องการการสร้างสาวกอีกต่อไป เพราะบนแผ่นดินสวรรค์นั้นทุกคนได้รับความรอดหมดแล้ว

ส่วนพี่ - น้องบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่และยังไม่ได้จากไปอยู่กับพระเจ้า แต่ไม่สามารถที่จะเป็นปาก เป็นเสียง เป็นแขน เป็นมือ เป็นขา เป็นเท้า ไม่สามารถที่จะเป็นเครื่องไม้ เครื่องมือหรือเป็นอุปกรณ์ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าได้ สาเหตุอันเนื่องจากสภาพของร่างกายที่เสื่อมโทรมลง หรือเนื่องจากติดภารกิจจากหน้าที่การงานอย่างแท้จริง พี่ - น้องก็สามารถที่จะมีส่วนทำให้ หัวใจของพันธกิจขององค์พระเยซูคริสตเจ้านี้สำเร็จได้ด้วยเช่นกัน

คำถามคือว่า ด้วยอะไรครับ ?

หลายปีมาแล้ว..มีเด็กนักเรียนชั้นประถมของอินเดียคนหนึ่ง อายุ 12 ปี ได้ถูกเชิญให้อธิษฐานในพิธีปิดงานฉลอง ประจำปีของโรงเรียนแห่งหนึ่ง หลังจากที่กินข้าว ฟังเพลง และเสร็จจากกิจกรรมต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมก็ขอให้เด็กคนดังกล่าวได้อธิษฐาน ปิดงาน

เด็กคนนั้นก็ได้อธิษฐานตามภาษาของเด็กๆคือ ให้พระเจ้าอวยพรทุกคนที่มาร่วมงานและรวมทั้งผู้ที่มีส่วนในงาน แต่ทันใดนั้นเอง เด็กคนนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าอีก 2 วันข้างหน้าใกล้จะถึงวันสอบไล่ของพวกเขา

เด็กคนนี้จึงอธิษฐานว่าขอพระเจ้าให้ผมสอบไล่ได้ด้วยพอรู้ตัวว่าอธิษฐานอย่างนี้มันเห็นแก่ตัวเกินไป เด็กคนนี้ก็ได้อธิษฐานเพิ่มเติมว่า ขอให้เพื่อนในชั้นเรียนสอบผ่านด้วย

สักครู่หนึ่งเด็กคนนี้ก็นึกขึ้นได้ว่า ยังมีนักเรียนอีกหลายชั้นในโรงเรียน เขาจึงอธิษฐานเพิ่มว่า ขอให้ทุกคนในโรงเรียนสอบผ่านหมด

สักครู่หนึ่งเด็กคนนี้ก็นึกขึ้นได้อีก ก็อธิษฐานเพิ่มว่า พระเจ้าลูกขอให้เด็กนักเรียนทุกคนในทุกโรงเรียนของประเทศนี้สอบผ่านให้หมดเลยแล้วก็หยุดไปอีกสักครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ได้อธิษฐานต่อไปอีกว่าพระเจ้าขอให้นักเรียนทุกโรงเรียนทั่วโลกสอบผ่านให้หมดเลย

พี่ - น้องที่รักครับ แม้ว่าพี่ - น้องบางคนของเรา อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของสภาพร่างกายหรืออาจจะด้วยหน้าที่การงานก็ตาม แต่ท่านสามารถที่จะทำ หัวใจ ของพันธกิจ ขององค์พระเยซูคริสตเจ้า นั่นคือ การปลดปล่อยคนออกจากความมืดบอดในฝ่ายจิตวิญญาณนี้ได้ด้วยการอธิษฐาน

เพราะฉะนั้นถ้าพี่ - น้องท่านใดที่มีข้อจำกัดในเรื่องของสภาพร่างกาย หรือในเรื่องของหน้าที่การงานอย่างแท้จริงแล้ว ผมขอหนุนใจให้ท่านได้เทคำอธิษฐานของท่านออกมา

1.แทนแขน แทนมือของท่านที่ไม่สามารถออกไปแจกใบปลิวได้

2.แทนขา แทนเท้าของท่านที่ไม่สามารถออกไปประกาศหรือเป็นพยานได้

พี่ - น้องที่รักครับ 2 ปีที่ผ่านมา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจัดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี มีผู้สมัครท่านหนึ่งชื่อว่า บารัค โอบามา ซึ่งเป็นมุสลิมที่กลับใจมาเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า

บารัค โอบามา ใช้ ธีม หรือ หัวข้อในการหาเสียงของเขาว่า Change ซึ่งแปลว่า เปลี่ยน ซึ่งหัวข้อนี้ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างมากและเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ บารัค โอบามา ได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐในที่สุด

สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อกับพี่ - น้องนั่นก็คือว่าถ้าพี่ - น้องอยากจะเห็นคนใหม่ๆเข้ามาในคริสตจักรแห่งนี้มากขึ้นพี่ - น้องจะต้อง ? เปลี่ยน

เปลี่ยน จากการที่พี่ - น้องให้ความสนใจต่อพระมหาบัญชาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าไม่มาก เปลี่ยน มาเป็นให้สนใจต่อพระมหาบัญชาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าให้มากยิ่งขึ้น โดยพี่ - น้องจะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจว่าพี่ - น้อง จะเป็น 1 คนใน 100,000 คนที่จะนำ 1,000,000 คนมารู้จักพระเจ้าให้ได้ในปี 2015

และถ้าพี่ - น้องต้องการที่จะเห็นคนในอาณาบริเวณนี้กลับใจมาเชื่อพระเจ้า และไหลเข้าสู่คริสตจักรนี้มากขึ้นพี่ - น้องก็จะต้อง เปลี่ยน

เปลี่ยน โดยที่พี่ - น้องจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมส่วนในการออกทีมประกาศร่วมกับพี่ - น้องหรือร่วมกับผู้นำในคริสตจักรให้มากยิ่งขึ้น และถ้าคริสเตียนในประเทศไทย ต้องการที่จะเห็นคนไทยมารู้จักกับพระเจ้ามากขึ้น คริสเตียนในประเทศไทย ทุกคณะ นิกาย ทุกองค์การ องค์กรและทุกหน่วยงานก็จะต้อง เปลี่ยน

เปลี่ยน จากการที่เรามีหัวใจแบบมนุษย์ให้มีหัวใจแบบพระเยซูมากขึ้น

เปลี่ยน จากการถวายเพียงแค่สิบลดให้กับพระเจ้า เปลี่ยน มาเป็นถวายสิบลด + การถวายพิเศษเพื่อพระราชกิจของพระเจ้าให้มากขึ้น

                ผมอยากบอกกับพี่ - น้องด้วยใจที่สัตย์ซื่อว่า เงินทองนั้นหาใช่มีไว้เพื่อใช้จ่ายสำหรับสิ่งที่จำเป็นสำหรับตัวเราเอง หรือหาไว้เพื่อให้ตนมีความสุขเท่านั้นไม่ แต่มันมีไว้เพื่อการลงทุนในการนำคนมารู้จักกับพระผู้ช่วยให้รอดของเราด้วย และทั้งหลายทั้งปวงที่ผมได้กล่าวมาขอสรุปว่า หัวใจของการทำพันธกิจขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าในโลกนี้ นั่นก็คือ ให้เราประกาศและสร้างสาวก โดยองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรานั้นทรงมีใจปรารถนา ที่จะใช้เราทั้งหลายให้เป็นปาก เป็นเสียง เป็นแขน เป็นขา เป็นมือ เป็นเท้าให้กับพระองค์ เพื่อพันธกิจของพระองค์นั้นจะสำเร็จในโลกนี้ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

Green City