วิถีชีวิตของผู้ชอบธรรม

คำเทศนาเรื่อง วิถีชีวิตของผู้ชอบธรรม

            สภษ.4:18 แต่วิถีของคนชอบธรรมเหมือนแสงอรุณ ซึ่งฉายสุกใสยิ่งขึ้นๆ จนเต็มวัน

            ถ้ามีคนถามพี่น้องว่า เราจะดูความสัตย์ซื่อของพระเจ้าได้จากที่ไหน พี่น้องจะตอบว่าอย่างไรครับ ? ดูได้จากวัน , เวลา , ฤดูกาล

            พระเจ้าทรงให้มีกลางวันและกลางคืนกับมนุษย์เท่าเทียมกัน  แม้ว่าในช่วงเวลากลางคืนที่เรามองไม่เห็นแสงอาทิตย์ แต่นั่นมิได้หมายความว่า แสงอาทิตย์จะดับไปหรือไม่ฉายแสง เพียงแต่ดวงอาทิตย์นั้นไปสว่างตอนเช้าให้กับอีกซีกหนึ่งของโลก นี่คือความยุติธรรมของพระเจ้า พี่น้องเชื่อเช่นนี้ไหมครับ

            พระเจ้าทรงให้ 24 ชั่วโมงต่อวันกับมนุษย์ทุกคนไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะเชื่อพระเจ้าหรือไม่ก็ตามอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน มีใครได้ 25 ชั่วโมงต่อวันบ้างไหมครับ ? นี่คือความยุติธรรมของพระเจ้า พี่น้องเชื่อเช่นนี้ไหมครับ

            มีฤดูกาลหรือวาระสำหรับทุกสิ่ง มีเกิดก็ต้องมีดับ มีใครเกิดแล้วไม่ดับมีไหมครับ ? นี่คือความยุติธรรมของพระเจ้า พี่น้องเชื่อเช่นนี้ไหมครับ

            รม.4:22-24 ด้วยเหตุนี้เอง พระเจ้าทรงถือว่า ความเชื่อของท่านเป็นความชอบธรรมของท่าน 23 แต่คำว่า "ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรมของท่าน" นั้น มิได้เขียนไว้สำหรับท่านแต่ผู้เดียว 24 แต่สำหรับพวกเราด้วย จะทรงถือว่าเราเป็นคนชอบธรรม คือเราที่เชื่อในพระองค์ ผู้ทรงให้พระเยซูเจ้าของเราให้ฟื้นขึ้นจากความตาย

            รม.4:22-24 บอกกับเราว่า พระเจ้าทรงนับหรือถือว่าเรานั้นเป็นผู้ชอบธรรมไม่ใช่ด้วยการทำดี แต่เป็นเพราะการที่เรานั้นมีความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า และพระเจ้าทรงสัญญาว่าวิถีชีวิตของผู้ชอบธรรมจะไม่มีวันตกต่ำลง จะมีแต่สูงขึ้นทางเดียวหรือแม้ว่าเขาล้มลงเขาก็จะลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ แต่เงื่อนไขหนึ่งที่เราต้องรักษาไว้เสมอนั่นคือ ความเชื่อในพระเยซูคริสต์

                “เชื่อวางใจ” ถึงแม้ว่าเราจะไม่เข้าใจอะไรทั้งหมด เชื่อและกระทำตาม สิ่งที่พระเจ้าสั่ง แม้ว่าเราไม่เห็นด้วยกับพระองค์สิ่งนี้จะทำให้เราได้รับพระพร

            ผู้เชื่อที่เพียงแต่เชื่อโดยไม่กระทำตาม ผู้นั้นได้รับความรอดแต่ขาดพระพร ขาดกำลัง เป็นลูกของพระเจ้าแต่ไม่ได้รับเกียรติให้เป็นทหารในกองทัพของพระคริสต์พี่น้องคิดอย่างไร ?

            ดังนั้นผู้ชอบธรรมต้องมีความเชื่อในพระเจ้าพระเยซูคริสต์อีกทั้งต้องรักษาความชอบธรรมนั้นไว้ในชีวิตเพื่อพลังแห่งความชอบธรรมของพระเจ้านั้นจะอยู่กับเราเสมอไป

            จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

            เราพบการเปรียบเทียบชีวิตของคนชอบธรรมกับดวงอาทิตย์

            พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า วิถีของคนชอบธรรมนั้นเหมือน “แสงอรุณ” คือ มันจะค่อยๆเปล่งประกายออกมา

            ถ้าพี่น้องเคยไปเที่ยวต่างจังหวัด พี่น้องจะคงเคยถูกเพื่อนๆชวนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าบ้างไหมครับ ? ทำไมเขาถึงชวนเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ? เพราะตอนรุ่งอรุณพระอาทิตย์มันจะค่อยๆสว่างอย่างอ่อนโยน อบอุ่น

            พอสายขึ้นมาอีกนิดก็เริ่มที่จะเปล่งประกายความสว่างและความร้อนออกมาก และจะส่องสว่างและให้ความร้อนอย่างเต็มที่เมื่อตอนเที่ยงวันมาถึง

            ชีวิตคริสเตียนก็เช่นเดียวกันพี่น้องที่รัก เมื่อเราได้รับความรอดในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าแล้ว พระเจ้าทรงถือหรือทรงนับว่าเรานั้นเป็นผู้ชอบธรรมแล้ว และวิถีชีวิตของผู้ชอบธรรมต้องเป็นเหมือน สภษ.4:18 คือ ส่องสว่างแก่คนทั้งโลก

            คำถามคือว่า เราสามารถที่จะส่องสว่างหรือฉายแสงที่สุกใสตามเจตนารมณ์ของพระเจ้าได้ด้วยตัวของเราเองได้หรือไม่ ? เราจะต้องเข้าสู่ขบวนการสร้างของพระเจ้า

            ซึ่งได้บอกกับพี่น้องไปแล้วว่า วิถีของคนชอบธรรมเหมือนแสงอรุณ คือ มันจะค่อยๆเปล่งประกายออกมา ตอนรุ่งอรุณก็ค่อยๆสว่างอย่างอ่อนโยน อบอุ่น พอสายขึ้นมาอีกนิดก็เริ่มที่จะเปล่งประกายความสว่างและความร้อนออกมาก และจะส่องสว่างและให้ความร้อนอย่างเต็มที่เมื่อตอนเที่ยงวันมาถึง

            ดวงอาทิตย์ คือ พระเจ้า , แสงอาทิตย์ คือ ความชอบธรรม

พระเจ้าต้องการที่จะฉายแสงส่องสกาวผ่านคนชอบธรรมหรือผ่านผู้เชื่อ เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการให้พระเจ้าใช้เราในแผ่นดินของพระเจ้าและในอาณาจักรของพระองค์ เราจะต้องได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาด้วย

            การที่คริสเตียนไทยไปไม่ถึงไหนสาเหตุเพราะอะไรครับ ? คริสเตียนไทยโดยส่วนมาก ยังชอบอยู่ในการเลี้ยงดู , ยังชอบให้ผู้เลี้ยงอุ้มอยู่ตลอดเวลา , ยังชอบเป็นทารกในฝ่ายวิญญาณกันอยู่ , ยังชอบกินอาหารอ่อนกันอยู่ ไม่พร้อมที่รับอาหารแข็ง , โดนดุ , โดนว่า ก็ออกอาการไม่พึงพอใจ ด้วยเหตุนี้คริสเตียนไทยเรายังไม่ไปถึงไหนกันสักที

            คำถามคือว่า การที่ผู้เชื่อจะต้องให้ผู้รับใช้หรืออาจารย์และหรือศิษยาภิบาลต้องเลี้ยงดูฝ่ายจิตวิญญาณเราตลอดเวลาเราจะโตไหมครับ ? การเลี้ยงดูอาจทำให้บางคนเติบโตขึ้นในความเชื่อ แต่เราจะเป็นผู้เชื่อที่มีประโยชน์ต่อเมื่อเราได้รับการสร้าง

            เพื่อ “ผู้สร้าง” จะเอาส่วนที่ไม่ดีหรือส่วนที่มันบดบังแสงออกไปจากชีวิตของเรา เพื่อที่เรานั้นจะได้ส่องแสงหรือฉายแสงได้อย่างเต็มที่

            ดวงอาทิตย์ คือ พระเจ้า , แสงอาทิตย์ คือ ความชอบธรรม

            เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อน แสงอาทิตย์เคลื่อนไปด้วยไหมครับ ?

            แสงเทียนนั้นดับง่าย แต่แสงอาทิตย์ไม่มีวันดับ เมื่อพระเจ้าทรงนำพี่น้องในเรื่องใด อย่าให้ใครมาดับความคิดพี่น้อง แต่ให้พี่น้องได้เคลื่อนไปกับการทรงนำของพระเจ้า

            ดวงอาทิตย์ คือ พระเจ้า , แสงอาทิตย์คือ ความชอบธรรม

            ทุกเช้าวันใหม่ ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นเช่นไร ดวงอาทิตย์ก็ยังปรากฏขึ้นมาและพร้อมที่จะเผชิญกับทุกๆสิ่ง

แสงอาทิตย์ คือ ความชอบธรรม , ผู้เชื่อ , เรา

            เราเองก็ต้องกล้าที่จะเผชิญ 1) กับทุกสถานการณ์ในชีวิต 2) หน้า 3) เราต้องกล้าที่จะไม่หลบสายตา 4) เราต้องกล้าที่จะก้าวข้ามความล้มเหลวในอดีตและลุกขึ้นใหม่ 5) เราต้องกล้าที่จะเป็นปลาที่ว่ายทวนกระแส 6) เราต้องกล้าที่จะเผชิญกับการถูกด่า 7) เราต้องกล้าที่จะเผชิญกับทุกๆสถานการณ์ของชีวิต

            ดวงอาทิตย์ คือ พระเจ้า , แสงอาทิตย์คือ ความชอบธรรม

            ดวงอาทิตย์หนักแน่นมั่นคง มีใครจูงจมูกพระเจ้าได้ไหมครับ

            แสงอาทิตย์ คือ ผู้ชอบธรรม คือ ผู้เชื่อ คือ เรา เราเองก็ต้องหนักแน่นมั่นคงด้วย ให้เราเป็นอย่างที่พระเจ้าให้เราเป็น ไม่ใช่ให้เราเป็นอย่างที่คนอื่นบอกให้เราเป็น

            อฟซ.4:14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง

            ดวงอาทิตย์ คือ พระเจ้า , แสงอาทิตย์คือ ความชอบธรรม

            คนที่ไม่เชื่อพระเจ้ามักจะพูดว่า “ชีวิตมีขึ้นมีลง” คนที่ไม่เชื่อบางคนเขาไปหาหมอดู หมอดูก็จะบอกว่า เส้นกราฟของคุณช่วงนี้มันขึ้นและมันจะลงช่วงนี้

            แต่พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความชอบธรรม ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในมรรคาของพระเจ้า ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่บนพระคำของพระเจ้า “จะสูงขึ้นทางเดียว” “จะมีชัยชนะในทุกๆด้าน”

            อพยพ.3:14 พระเจ้าทรงตรัสว่า “เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น”

            เมื่อพระเจ้าทรงเป็นดวงอาทิตย์ พระองค์ทรงทำหน้าที่ของพระองค์อย่างสัตย์ซื่อและดีที่สุดและทรงกระทำโดยการขึ้นและตกลงอย่างนี้มานานกว่า 5,600 กว่าปี

            แสงอาทิตย์ คือ ผู้เชื่อ เราได้ทำหน้าที่ของเราในฐานะคนของพระเจ้าได้อย่างสัตย์ซื่อและชอบธรรมหรือยัง

            ถ้ายัง...ให้เราเป็นอย่างที่พระเจ้าให้เราเป็นและเป็นให้ดีที่สุด

Green City