วันแห่งความรัก

                                                   เทศนาเรื่อง วันแห่งความรัก

ยน. 13 : 34 “เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลาย คือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น” ( อาเมน )

พี่ - น้องที่รักครับ เดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนแห่งความรักโดยเฉพาะวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น วันแห่งความรัก คู่รักหลายคู่ มีการฉลองวันแห่งความรักนี้

ด้วยการนิยมให้ดอกไม้กัน บางคู่ก็ให้เป็นช๊อคโกแลต บางคู่ก็ให้เป็น การ์ด วันแห่งความรัก และเขียนถ้อยคำพิเศษ ซึ่งเป็นความในใจให้แก่กัน

และในเทศกาลเดียวกันนี้เอง บางปีก็จะพบว่าบางคน ฉลองวันแห่งความรักนี้ โดยการกระโดดจากลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าบางแห่ง ลงมาเสียชีวิต   พร้อมกับจดหมายระบายความในใจ ถึงความรักที่ไม่สมหวังของเขาหรือเธอ

เนื่องจากเดือนกุมภาเป็นเดือนแห่งความรัก ก็จะมีคนพูดถึงความรักกันมากมาย รวมถึงสื่อต่างๆ ด้วย แต่ความรักที่พวกเขาได้ยินนั้น มันเป็นรักแท้แน่หรือ คำตอบก็คือ ไม่ใช่

พี่ - น้องครับ ผมขอบคุณพระเจ้า ที่พระคำของพระเจ้าในพระธรรม 1 ยน. 4 :7 ตรัสกับเราว่า“ พระเจ้าเป็นความรัก ” จึงทำให้เรารู้ว่าความรักมาจากไหนและทำให้เรารู้ว่าใครเป็นเจ้าของความรัก น่าเสียดายตรงที่ว่า…มีคนอีกมากมายที่อยากมีความรัก และหัวใจเรียกร้องอยากมีความรัก แต่เขาไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของความรัก  

ปฐก. 2 : 7 พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิตซึ่งนั่นหมายความว่า พระเจ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่“ ครู ” สอนให้เรารู้จักรักเท่านั้น

แต่พระองค์ทรงเป็นผู้ออกแบบความรัก และทรงบรรจุความรักของพระองค์ไว้ในจิตใจของมนุษย์ ดังนั้น พระองค์จึงเป็นเจ้าของความรัก เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ เป็นความรักที่สมบรูณ์แบบ เป็นความรักที่มีคุณค่า มีความหมายมาก และความรักแบบนี้ จะพบได้ในองค์พระเยซูตริสต์เท่านั้น

จากพระคัมภีร์ ยน. 13 : 34 เราพบอะไร เราพบว่าพระเยซูทรงตรัสแก่สาวกว่า

เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น ”

แปลความได้ว่า ถ้าจะรักให้รักอย่างที่พระองค์ทรงรัก หรือถ้าจะรักให้รักอย่างพระเยซู

คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า รักอย่างพระเยซูนั้นรักอย่างไร

ซึ่งโดยปกติแล้วมนุษย์มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง และได้รับคำสอนว่าให้รักตัวเอง รักอะไรที่เป็นสมบัติของตัวเอง แต่เมื่อมาเป็น C แล้ว พระเยซูทรงสอนให้เรา รักอย่างพระองค์

รักอย่างที่พระเยซูรักประการที่ 1 มธ. 9 : 36 “ และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน

ก็ทรงสงสารคือ รักด้วยใจเมตตาสงสาร

พี่ - น้องที่รักครับ จากพระกิตติคุณทั้ง 4 เล่ม ตั้งแต่วันแรกที่พระเยซูทรงเริ่มปรนนิบัติรับใช้มวลชน

มีใครบ้างมั้ยที่หิว แล้วพระองค์ไม่ให้เขาอิ่ม ( ลก. 9 : 10 )

มีใครบ้างมั้ยที่ทุกข์ใจ แล้วพระองค์ไม่ช่วยแก้ ( )  

มีใครบ้างมั้ยที่รู้สึกกลัว แล้วพระองค์ไม่หนุนใจเขา ( ลก.8 : 22 )

มีใครบ้างมั้ยที่สิ้นหวัง แล้วพระองค์ทรงละทิ้งเขาไป ()

มีใครบ้างมั้ยที่โศกเศร้าแล้วพระองค์ไม่ปลอบประโลม ( ยน.11 )

มีใครบ้างมั้ยที่เจ็บไข้ได้ป่วย แล้วพระเยซูไม่รักษาเขาให้หาย ( ลก.4 : 38 )

นี่เป็นความรักที่มีความหมายมาก ให้พี่ - น้องเราทุกคนรักอย่างพระองค์รัก คือรักด้วยใจเมตตาสงสาร สำแดงออกอย่างที่พระองค์ทรงสำแดงแก่เรา

วันนี้       ถ้าเพื่อนบ้านของเราหิว เราจะช่วยให้เขาอิ่ม

ถ้าเพื่อนบ้านของเราทุกข์ใจ เราจะช่วยเขาแก้ไข

ถ้าเพื่อนบ้านของเราสิ้นหวัง เราจะไม่ละทิ้งเขาไป

ถ้าเพื่อนบ้านของเรารู้สึกกลัว เราจะอยู่เป็นเพื่อนเขา

ถ้าเพื่อนบ้านของเราไม่สบาย เราจะช่วยกันเยียวยารักษา

ถ้าเพื่อนบ้านของเราเศร้าใจ เราจะช่วยเช็ดน้ำตาให้กับเขา

รักอย่างที่พระเยซูรักประการที่ 2 1 ปต. 4 : 8 “ เพราะว่าความรักลบล้างความผิดมากมายได้ ”

คือ รักอภัย ให้โอกาสเริ่มต้นใหม่เสมอ

พระธรรมยน. 8 : 1 - 11 พบว่าพวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริสี ได้จับหญิงล่วงประเวณีคนหนึ่งมาหาพระองค์ และได้อ้างธรรมบัญญัติ ซึ่งเป็นกฏเกณฑ์หรือกฏหมายสมัยของโมเสสด้วยว่า จะต้องเอาหินขว้างคนเช่นนี้ให้ตาย แต่พระเยซูทรงรักเขา พระองค์อภัยให้กับเขาและทรงตรัสสั่งกับหญิงนั้นว่า ทีหลังอย่าทำอีก

ยูดาสอิสคาริโอท สาวกของพระเยซู ได้พาพวกทหาร พวกปุโรหิตย์ และได้พาพวกผู้

ใหญ่แห่งประชาชนไปจับกุมพระองค์ พระเยซูทรงตรัสถ้อยคำที่เป็นมิตรกับสาวกของพระองค์ว่า สหายเอ๋ยมาที่นี่ทำไม

พี่ - น้องที่รักครับ พระเยซูรู้จักยูดาส ทรงรู้ถึงความคิดของเขา พระองค์ทรงรู้ถึงภายในจิตใจของเขาในบรรดาสาวก 12 คนนั้น พระองค์ทรงรู้ว่า ยูดาส เป็นเพียงคนเดียวเท่า

นั้นที่ไม่ได้กลับใจใหม่อย่างแท้จริง และพระองค์ทรงรู้ด้วยว่าสาวกคนนี้แหละที่จะนำเหตุการณ์ร้ายมาถึงพระองค์ แต่พระเยซูทรงรักเขา พระองค์ทรงอดทน ต่อความอยาก

ได้ใคร่มีของ ยูดาส ครั้งแล้ว ครั้งเล่า และพร้อมที่จะอภัย และให้โอกาสกับเขาเสมอแต่

ยูดาส ได้ปฏิเสธโอกาสนี้จากพระองค์

เปโตร ผู้ซึ่ง ยน. 6 : 68 ได้บันทึกไว้ว่า เขาได้สัญญากับพระเยซูว่า แม้สาวกคนอื่นๆจะท้อถอย แต่เขาจะไม่ทอดทิ้งพระเยซูอย่างเด็ดขาด และใน ยน. 13 : 37 ข้าพระองค์จะตายแทนพระองค์ซึ่งนั่นหมายความว่า เปโตร พร้อมที่จะสละชีวิตของตนโดยการยอมตายแทนพระเยซูคริสต์ แต่….

เปโตร คนเดียวกันนี้ ที่ได้ปฏิเสธพระเยซู ต่อหน้าคนทั้งปวงว่า ที่เจ้าว่านั้นข้าไม่รู้เรื่อง

แต่พระเยซูก็ทรงรัก เปโตร หลังจากที่พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ยน. 21

พระเยซูทรงปรากฏแก่สาวกเจ็ดคน รวมทั้งพระองค์ได้ปรากฏแก่ เปโตร ด้วย

และที่สำคัญ ในข้อที่ 15 -19 เราพบว่า พระเยซู ได้ใช้เวลากับ เปโตร เป็นการส่วนตัว

พระเยซูถาม เปโตร ว่า เปโตร เจ้ารักเราหรือ ผิดมั้ยที่เจ้าปฏิเสธเรา เปโตร กลับใจและเริ่มต้นใหม่มั้ยที่จะรับใช้เรา เปโตร ตอบว่าพระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์รักพระองค์ ข้าพระองค์ผิดต่อพระองค์ ข้าพระองค์ขอกลับใจใหม่ ข้าพระองค์จะรับใช้พระองค์

พี่ - น้อง คิดว่าพระเยซู จะพูดว่าอย่างไรกับเปโตร เริ่มต้นใหม่ได้เดี๋ยวนี้เลย เปโตร หลังจากนั้น เปโตร ตั้งใจรับใช้พระเจ้าอย่างเข้มแข็ง งานของ เปโตร เกิดผลอย่างมาก

มีคนรับเชื่อหลายพันคน ผ่านการเทศนาของเขา

ให้เราทุกคนรักอภัย และให้โอกาสกับพ่อ แม่ พี่ - น้อง วงศ์ศาคณาญาติของเรา หรือเพื่อนบ้านของเรา เพื่อนที่ทำงานของเรา ในการเริ่มต้นใหม่เสมอ ( อาเมน )

แม้ว่าบางคนจะอยู่ในความมืด แม้ว่าบางคนจะไม่น่ารักกับเรา แม้ว่าบางคนจะยังไม่รู้จักพระเจ้า แม้ว่าบางคนจะไม่ถูกสเปกกับเราเท่าไหร่ ก็ให้พี่ - น้องรักอภัยและให้โอกาสกับคนเหล่านั้นเสมอ เหมือนที่พระเยซูคริสต์ทรงให้กับเราและพระองค์ไม่เคยสิ้นหวังกับเรา

มีใครบางคนพูดได้อย่างน่ารับฟังมาก เขาพูดอย่างนี้ ความรัก จะงอกงามขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้ง ความขมขื่น ความเกลียดชังได้ไหม มีใครคนหนึ่งตอบว่า ได้ซิ ถ้านั่นคือความรักจากพระเจ้า

รักอย่างที่พระเยซูรักประการที่ 3 คือ รักที่เสียสละ

พี่ - น้องที่รักครับ ในการทรงเนรมิตสร้างของพระเจ้าทั้งหมดภายในหกวัน มนุษย์เป็นปฏิมากรรมในการทรงสร้าง ที่พระเจ้าทรงพอพระทัยมากที่สุด

เป็นไปได้มั้ยครับ ที่พระเจ้าจะทรงให้สิ่งที่พระองค์ทรงรักมากที่สุด ต้องถูกทำลายลง เป็นไปได้มั้ยครับ วันนี้น้องอาร์ท เป็นดั่งแก้วตา ดวงใจ ของครอบครัวพี่อ๊อด

พี่อ๊อดจะยอมมั้ยครับ ที่จะให้ใครมาพรากน้องอาร์ทไปจากพี่อ๊อด คำตอบคือ ไม่ยอม

ถ้ายอมก็คือ ต้องแลกกันด้วยชีวิต พระเจ้า พระบิดา ก็ไม่ยอมเช่นกัน ที่จะให้ใครมาพรากเราไปจากพระองค์

แต่เนื่องจากมนุษย์คู่แรกที่พระเจ้าทรงสร้างคืออาดัม - เอวาซึ่งเปรียบเสมือนพ่อ - แม่ของมวลมนุษย์โลกได้ทำบาป ดังนั้นเราทุกคนที่เกิดมาจึงเป็นลูกของคนบาป

พระดำรัสของพระเจ้าตรัสว่า ค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่พระองค์ทรงให้เราตายไม่ได้ เพราะเราเป็น แก้วตา ดวงใจ ของพระองค์ ดังนั้นพระเจ้า พระบิดา จึงได้ทรงประทานพระเยซูคริสต์ให้เสด็จลงมา เพื่อที่เราจะไม่ได้ชื่อว่าเป็นลูกของคนบาป เพื่อที่เราจะไม่ต้องถูกพิพากษา และที่สำคัญเพื่อที่เราจะได้กลับไปอยู่กับพระองค์

ข้าพเจ้ามีเรื่อง รักเสียสละ ของมนุษย์มาเล่าให้พี่ - น้องฟังเรื่องหนึ่ง

เรื่องมีอยู่ว่าไฟกำลังโหม และลุกไหม้บ้านหลังหนึ่งอยู่ สักครู่หนึ่ง ก็มีเสียงเด็กร้องออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยเสียงดัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็มองหน้า มองตากันว่าใครจะเข้าไป ทันใดนั้นเอง ก็มีชายคนหนึ่งตัดสินใจ ปีนเสาเหล็กและฝ่าดงเพลิง เข้าไปช่วยเด็กคนนั้นออกมา ส่วนพ่อและแม่ของเด็กเสียชีวิตในกองเพลิง หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ก็ได้ประกาศหาผู้อุปถัมภ์เด็กคนนี้ มีผู้ชาย 3 คนยื่นความจำนงเข้ามาที่จะดูแลเด็กคนนี้ จนท.สังคมสงเคราะห์

ถามผู้ชายคนแรกว่า คุณมีอะไรที่จะดูแลเด็กคนนี้ เขาตอบว่า มีธุรกิจและมีทรัพย์สมบัติ

ถามผู้ชายคนที่ 2 ว่า คุณมีอะไรที่จะดูแลเด็กคนนี้คนที่ 2 ตอบว่า ข้าพเจ้า มียศ มีตำแหน่ง

ถามผู้ชายคนที่ 3 ซึ่งเป็นคนยากจนว่า คุณมีอะไรที่จะดูแลเด็กคนนี้

คนที่ 3 ตอบว่า มีความรัก จนท. ถามต่อไปว่าและคุณมีอะไรมาพิสูจน์

ชายคนที่ 3 ไม่ตอบ แต่ถอดเสื้อผ้าออกและบอกกับ จนท.ว่าให้ดูที่หน้าอก ดูที่มือและที่ดูเท้าทั้งสองข้างของผม นี่เป็นรอยแผลที่ได้รับจาก ความรัก ที่ผมมีให้กับเด็กคนนี้ในวันที่ พายุเพลิง โหมกระหน่ำ ผมได้ฝ่า พายุเพลิง ไปช่วยเด็กคนนี้

   พี่ - น้องที่รักครับ ความรัก ความเสียสละของพระเยซูยิ่งใหญ่ขนาดไหน

ให้เราดูที่พระเศียร ให้เราดูที่พระวรกายของพระองค์ ให้เราดูที่พระหัตถ์ของพระองค์ ให้เราดูที่พระบาทของพระองค์บนไม้กางเขน รอยแผลเฆี่ยนบนพระวรกาย รอยตะปูที่พระหัตถ์และที่พระบาททั้งสองข้างของพระองค์นั้น มาจากความรักที่พระองค์ทรงเสีย

สละเพื่อเรา

ยน. 15 : 13 “ ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือ การที่ผู้หนึ่งผู้ใด จะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน ” ซึ่งนั่นหมายความว่า พระองค์ให้เราได้แม้กระทั่งชีวิตของพระองค์ และพระองค์ได้ให้แล้ว มีสำนวนฝรั่งคำหนึ่งที่พูดว่า คุณรักผมเท่าไหร่ ผมรักคุณเท่านั้น

เช้าวันนี้ข้าพเจ้า ขอวิงวอนต่อพี่ - น้องทุกคนให้มีความรัก ความเสียสละมากเหมือนกับ

ที่พระองค์ทรงมีความรัก ความเสียสละต่อเรามากด้วยเช่นกัน ( อาเมน )

เพื่อที่พระองค์จะไม่มาถามเราเป็นการส่วนตัว เหมือนที่ทรงถามเปโตรว่า เจ้ารักเราหรือ

สรุปคำเทศนาวันนี้ รักอย่างที่พระองค์รัก คือ รักด้วยใจเมตตาสงสาร รักอภัยให้โอกาส รักและเสียสละ

     ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

ขอความรักจากพระเจ้าในเช้าวันนี้ ที่จะไหลล้นลงมาในชีวิตของเราอย่างเต็มขนาด

ขอในเช้าวันนี้ที่เราจะมีความรักอย่างพระองค์ไหลเข้ามาสู่ชีวิตของเรา และไหลผ่านจากชีวิตของเรา ไปยังคนอีกมากมาย ไหลผ่านไปถึงผู้อื่นด้วย

Green City