ลมหายใจแห่งความสุข

คำเทศนาเรื่อง ลมหายใจแห่งความสุข

 

สวัสดีครับพี่น้องที่รัก ในเช้าวันนี้จะอัญเชิญพระคำของพระเจ้าจากพระธรรมยอห์นใน 3 ข้อด้วยกัน ให้ที่ประชุมเปิด ยน.14:27 , ยน.16:33, ยน.4:13-14 และเราจะอ่านจากพระคำของพระเจ้าใน 3 ข้อนี้ร่วมกันอย่างช้าๆด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

ยน.14:27  “เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านแล้ว สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย” ยน.16:33 “เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว" ยน.4:13-14 “พระเยซูตรัสตอบนางว่า "ผู้ใดที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีกแต่ผู้ใดที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย แต่น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้นจะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร"และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า ลมหายใจแห่งความสุข ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

พี่น้องที่รักครับ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สถานการณ์ทางการค้า การขายในบ้านเราในหลายๆเดือนที่ผ่านมานั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก แต่เราก็มีความอย่างมั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้นี้มันจะดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะดีขึ้นหรือจะแย่ลง แท้ที่จริงแล้วมันเกี่ยวข้องกับเราด้วยไหมครับ ? เราเองก็คงจะต้องผ่านพบประสบเจอกับปัญหานั้นๆเหมือนกับคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้าด้วยเช่นกัน

ดังนั้นพี่น้องคนไหนก็ตามแต่ ที่เคยได้รับการประกาศหรือได้รับการเป็นพยานส่วนตัวในทำนองที่ว่า ถ้าพี่น้องมาเชื่อในพระเจ้าหรือมาเชื่อพระเยซูคริสต์แล้วพี่น้องจะไม่พบปัญหานั้น ผมขอตอบตรงนี้เลยนะครับว่า นั่นไม่เป็นความจริง แต่ความจริงก็คือว่า พี่ - น้องยังคงจะต้องพบกับปัญหานั้นๆเหมือนกับที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้าด้วยเช่นกัน

แต่สิ่งที่แตกต่างในการที่เราพบกับปัญหาระหว่างคนที่เชื่อกับคนที่ไม่เชื่อนั้นคืออะไรครับ ?แต่สิ่งที่แตกต่างในการที่เราพบกับปัญหาระหว่างคนที่เชื่อกับคนที่ไม่เชื่อนั้นคือคนที่เชื่อนั้นเขามีพระเจ้าซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากไหมครับพี่น้อง ? สำคัญมาก

ดังนั้นผู้ที่เชื่อในพระเจ้าเมื่อเขาพบกับ 1 ) ปัญหา เขาจะทำไมครับ ? เขาก็ยังคงยิ้มได้ 2 ) ความเสียใจ เขาก็จะทำไมครับ ? เขาก็ยังหัวเราะได้ 3 ) ความทุกข์ยากลำบาก เขาจะทำไมครับ ? เขาก็ยังมีความสุขได้

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสพาพี่น้องสมาชิกในคริสตจักรฯ ไปร่วมงานไว้อาลัยคุณแม่ของท่าน ผ.อ.ประวิท ที่ จ.ราชบุรี ทั้ง 3 คืน 4 วัน

คำถามก็คือว่า พี่น้องคิดว่าเขาเสียใจหรือเขาทุกข์ใจไหมครับ ? มนุษย์ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ตามก็มีความจำกัด แต่ถ้าเราพึ่งพาพระเจ้าที่ไม่จำกัด สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม เขาก็สามารถที่จะผ่านสิ่งนั้นไปได้ด้วยดีและนั่นเองจะทำให้เขาได้พบกับความสุข

ดังนั้นพี่ - น้องที่ไปร่วมงานดังกล่าวจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมท่าน ผ.อ.ประวิท ท่านยังคงยิ้มได้หรือหัวเราะได้และหรือทำไมท่านถึงมีความสุขได้ เพราะอะไรครับ ? เพราะเขารู้ที่มาที่ไปของปัญหาว่า เขานั้นเป็นมนุษย์ที่มีความจำกัด เขารู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะพาอาม่าเข้าแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้าได้ แต่เมื่ออาม่าได้มารู้จักกับพระเจ้า เขาจึงรู้ถึงจุดหมายปลายทางของอาม่าว่า แท้จริงแล้วนั้นอาม่าท่านจะไปอยู่ที่ไหน

จากพระวจะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 1 อยู่ในหนังสือ ยน.14:27  พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านแล้ว สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย”

จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกัน ประการที่ 1 เราพบคำว่า “สันติสุข” และสันติสุขที่ว่านี้มี 2 สันติสุขด้วยกัน พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า สันติสุขแรกนั้นพระเจ้าเป็นผู้มอบให้ ส่วนสันติสุขที่สองนั้นโลกนี้เป็นผู้มอบให้ ซึ่งผมขออนุญาตที่จะพูดถึงสันติสุขที่สองก่อนนะครับ

พี่น้องทีรักครับ สันติสุขที่สองหรือสันติสุขที่โลกนี้เป็นผู้มอบให้นั้น เกิดจากการที่มาร ซาตาน มันได้ออกแบบเอาไว้

คำถามคือว่า มาร ซาตานมันได้ออกแบบเอาไว้อย่างไร ? มาร ซาตาน มันได้ออกแบบเอาไว้โดยให้มนุษย์นั้นได้เข้าใจว่า การที่มนุษย์นั้นได้ครอบครองทรัพย์สิน เงิน ทองหรือได้เป็นผู้ครอบครองวัตถุสิ่งของต่างๆเหล่านั้นแล้วมันจะทำให้มนุษย์นั้นมีสันติสุขหรือมีความสุข

ประการที่สำคัญนั่นก็คือว่า สิ่งที่มาร ซาตานมันได้ออกแบบเอาไว้นั้น มันช่างตรงกับความต้องการหรือมันช่างตรงกับความปรารถนาของมนุษย์เสียจริงๆ ด้วยเหตุนี้นี่เองมนุษย์จึงต้องสร้างสันติสุขหรือสร้างความสุขนั้นขึ้นมาผ่านการแสวงหามูลค่า ราคาอยู่ตลอดเวลาเพื่อสนองตอบต่อการมีความสุขหรือมีสันติสุขของโลกนี้

แต่เมื่อทรัพย์สิน เงินทอง รวมทั้งสิ่งของที่มนุษย์เคยครอบครองอยู่นั้นได้หลุดมือไป ซึ่งจะหลุดมือไปด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ก็เป็นเหตุทำให้ความภาคภูมิใจ เป็นเหตุทำให้สันติสุขของมนุษย์ที่เคยมีนั้นหายไปด้วย ในขณะเดียวกันมันก็มีสิ่งใหม่ๆทีเข้ามาแทนที่ของสันติสุขที่หายไปนั่นคือ 1 ) ความวิตก 2 ) ความรู้สึกกังวล 3 ) ความกลัว บางคนถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับ บางคนถึงขนาดฝันร้ายและต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเลยในคืนนั้น ซึ่งความวิตก ความรู้สึกกังวลและความกลัวนั้นก็เป็นอาวุธชนิดหนึ่งที่มาร ซาตานนั้นมักจะใช้กับมนุษย์แล้วได้ผลเสมอด้วยเช่นเดียวกัน

แต่สันติสุขแรกที่พระเจ้าให้กับมนุษย์นั้นไม่ใช่อย่างที่โลกให้ สันติสุขที่พระเจ้าให้กับมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าเป็นผู้ประทานให้ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ดังนั้นใครก็ตามแต่ที่แสวงหาคุณค่าทางฝ่ายจิตวิญญาณก่อนสันติสุขที่แท้จริงจะเกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา

พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อจิตใจภายในของเขาดี มันก็จะส่งผลให้สันติสุขภายนอกของเขานั้นดูดีตามไปด้วย เหมือนดังพระคำของพระเจ้าที่ได้ตรัสไว้ใน มธ.6:33 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้แก่ท่าน”

คำถามของผมก็คือว่า สันติสุขของพระเจ้าที่ผมได้กล่าวไปเมื่อสักครู่นี้นั้นได้มีการพูดถึงเรื่องทรัพย์สิน เงินทอง บ้างไหมครับ ? สันติสุขของพระเจ้านั้นไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องของทรัพย์สิน สิ่งของหรือไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องเงินทองแต่อย่างใด พูดอย่างเดียวนั่นก็คือ “แสวงหาความชอบธรรมของพระเจ้า” และนี่คือการออกแบบของพระเจ้าในการที่จะให้มนุษย์นั้นมีสันติสุข

ง่ายไหมครับพี่น้อง ? ซึ่งถ้าเราเข้าใจรากฐานหรือ Concept ที่พระเจ้าได้วางเอาไว้ให้กับเรา ต่อให้เรามีความทุกข์ยากลำบากขนาดไหนก็ตาม เราก็ยังสามารถที่จะยิ้มและหัวเราะได้ และนี่คือความแตกต่างระหว่างของคนที่เชื่อพระเจ้ากับคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 2 อยู่ ยน.16:33พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว"

จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกัน ประการที่ 2 เราพบสันติสุขที่ชนะโลก

พี่น้องเคยคิดบ้างไหมครับว่า โลกใบนี้ที่มันกำลังวุ่นวายหรือวายวุ่นกันอยู่ทุกวันนี้เพราะอะไร ?

โลกใบนี้ที่มันกำลังวุ่นวายหรือวายวุ่นกันอยู่ทุกวันนี้เพราะมนุษย์กำลังทำตัวเป็นพระเจ้า

คำว่า “มนุษย์กำลังทำตัวเป็นพระเจ้า” หมายความว่าอย่างไร ?

คำว่า “มนุษย์กำลังทำตัวเป็นพระเจ้า” หมายความว่า สิ่งที่พระเจ้าทรงตรัสสอนนั้นเราไม่เอา

คำว่า “มนุษย์กำลังทำตัวเป็นพระเจ้า” หมายความว่าสิ่งที่พระเจ้าได้วางรากฐานเอาไว้ให้กับมนุษย์นั้นเราตอบปฎิเสธพระองค์อย่างสิ้นเชิง

พระเจ้าตรัสว่าสันติสุขแท้ที่พระองค์ทรงมอบให้กับเรานั้น มันจะต้องเริ่มต้นจากที่จิตวิญญาณก่อน ดังนั้นเราจะต้องเริ่มต้นของเช้าวันใหม่ด้วยการ 1 ) เฝ้าไลน์หรือเฝ้าเดี่ยวกับพระเจ้าก่อน 2 ) คุยกับพระเจ้าก่อนหรือคุยกับเพื่อนก่อน

การที่มนุษย์นั้นต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบาก ขาดสันติสุข ขาดความชื่นชมยินดีนั้นเป็นเพราะพระเจ้าใช่ไหม ? แล้วเป็นเพราะใคร ? เป็นเพราะมนุษย์ได้

1 ) ละเลยคุณค่าในฝ่ายจิตวิญญาณ

2 ) เลือกที่จะเอาเปลือกนอกไม่เอาแก่นแท้นั่นก็คือแสวงหาการให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน วัตถุและสิ่งของ

3 ) ไปติดบ่วงแล้วของมาร ที่มาร ซาตานมันได้ออกแบบเอาไว้ โดยให้มนุษย์นั้นได้เข้าใจว่า การที่มนุษย์นั้นได้ครอบครองทรัพย์สิน เงิน ทองหรือได้เป็นผู้ครอบครองวัตถุสิ่งของต่างๆเหล่านั้นแล้วจะทำให้มนุษย์นั้นมีสันติสุข

และด้วยเหตุนี้เองกระมังพี่ - น้องที่รักครับ จึงทำให้มนุษย์นั้นต้องวิ่งกันขาขวิดเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน วัตถุสิ่งของ เกียรติยศ ตำแหน่ง รวมถึงได้ในสิ่งต่างๆที่มนุษย์ต้องการแม้กระทั่งทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มนุษย์หลายคนไม่เว้นแม้กระทั่งผู้รับใช้ของพระเจ้าก็ยังทำ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นความบาป คำถามคือว่า บาปอย่างไร ?

1 ) บาปจากการที่เขานั้นไม่ได้เรียนรู้ในการที่จะเติบโตจากเล็กไปหาใหญ่

Ex.1 ลูกชายนักการเมืองคนหนึ่ง

2 ) บาปจากการที่เขานั้นใช้วิธีในทางลัดซึ่งทำให้เขานั้นได้มาซึ่งตำแหน่งแห่งหนอย่างไม่สมควร

Ex.2 ผรช.ขอตำแหน่ง ศจ.

สิ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า คริสเตียนก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องกิน ต้องนอน ต้องทำงาน ต้องคบค้าสมาคมกับคนอื่นๆ ซึ่งเราก็จะต้องมีซึ่งทรัพย์สิน สิ่งของหรือเงินทองเอาไว้ในการครอบครองตามคุณค่าความสามารถของตน แต่มันต้องไม่ทำให้เราถึงขนาดต้องวิ่งกันขาขวิดหรือทำให้พระวิหารของพระเจ้า นั่นก็คือร่างกายของเรานั้น ต้องมีการเสื่อมโทรมลงหรือเจ็บป่วยได้ง่ายอย่างไม่สมควรและหรือกระทำแม้กระทั่งในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปที่อำเภอเพื่อขอ มพช. ( มาตรฐานพัฒนาชุมชน ) เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชุดน้ำยาล้างจานมีคนมาบอกผมว่าถ้าอยากได้เร็วต้องจ่าย

ผมสนใจเรื่องที่จะจัดตั้งมูลนิธิ มีคนบอกผมว่าถ้าอาจารย์จะขอรับใบอนุญาตในการจัดตั้งมูลนิธิถ้าเวลาตามปกติก็ต้องใช้เวลาประมาณ 3 - 6 เดือนแต่ถ้าอาจารย์จ่ายสัก 35,000 อาทิตย์เดียวก็ได้ใบอนุญาตแล้ว พี่น้องได้ยินได้ฟังอย่างนี้แล้วพี่น้องคิดอย่างไรครับ ? เหนื่อยไหมครับกับระบบแบบไทยแบบนี่

ผมอยากที่จะบอกกับพี่น้องว่า เราอยู่ในโลกแห่งความบาปแต่ลูกของพระเจ้าต้องไม่เปื้อนบาป

คริสเตียนต้องเป็นเหมือนใบบัวที่อยู่กับน้ำแต่ไม่เปื้อนน้ำ

ดังนั้นเราผู้ซึ่งมีพระเจ้าจะทำอะไรต้องมีสติ ถามตัวเองทุกครั้งเสมอว่า สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราจะตัดสินใจหรือลงมือทำนั้นพระเจ้าได้รับเกียรติไหม ? ถ้าพระเจ้าได้รับเกียรติ ทำเลย แต่ถ้าพระเจ้าเสื่อมเกียรติ อย่าทำ

สรุปแล้วเหนื่อยไหมครับกับระบบแบบไทยแบบนี่ ? พระคำของพระเจ้าตรัสว่า ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยากแต่จงชื่นใจเถิดเพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า ในโลกใบนี้เราจะต้องเจออะไรอีกเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าเราเข้าใจรากฐานที่พระเจ้าได้วางเอาไว้ให้กับเรา ไม่ว่าอุปสรรคปัญหานั้นจะเล็กหรือใหญ่ และไม่ว่าอุปสรรคปัญหานั้นจะเป็นอะไรก็ตาม 1 ) พี่น้องก็จะสามารถผ่านปัญหานั้นได้ 2 ) หัวเราะและยิ้มได้เสมอ ให้เราบอกกับคนข้างซ้ายข้างขวาว่า “ปัญหามีไว้แก้ มารมีไว้ให้ชนะ”

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 3 อยู่ใน ยน.4:13-14 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า พระเยซูตรัสตอบนางว่า "ผู้ใดที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีกแต่ผู้ใดที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย แต่น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้นจะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร"

จากพระคำของพระเจ้าในข้อที่ 3 นี้เราพบคำว่า น้ำ

คำถามก็คือว่า “น้ำที่ทุกคนดื่มนี้จะกระหายอีก” นั้นนั่นคือน้ำอะไร ?

คำตอบก็คือว่า “น้ำที่ทุกคนดื่มนี้จะกระหายอีก” นั้นคือ “น้ำแห่งโลกียวิสัย” “น้ำเงิน”

ปญจ. 5:10 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงินและคนรักสมบัติไม่รู้จักอิ่มกำไรนี่ก็อนิจจังด้วย และเมื่อผมได้นำเอาพระคำของพระเจ้าในข้อนี้มาพินิจพิเคราะห์ อย่างกลั่นกรอง ใคร่ครวญและพิจารณา ผมก็พบว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆพี่น้องที่รัก

เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาคุณเจริญ เพิ่งซื้อ Macro ไปด้วยดีลประมาณ 100,000ล้านบาท และไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณตัน ก็เพิ่งซื้อไบเล่ใน South East Asia ไปด้วยราคา 80 MB และถ้าพี่น้องติดตามข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ พี่น้องก็จะพบว่าจะมีคนประมาณ 300 - 400 ตระกูลในบ้านเราที่จะมีการซื้อขายกันอยู่ในลักษณะอย่างนี้อยู่โดยตลอด

ดังนั้นเราจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมคนที่มีเงินมากแล้วแต่เขาก็ยังไม่รู้สึกอิ่ม ทำไมคนที่มีเกียรติมากแล้วแต่เขาถึงไม่เคยที่จะอิ่มเกียรติ และเหตุผลที่เขาไม่รู้สึกอิ่มนั้นนั่นก็เพระว่าเขาดื่มน้ำเงินแห่งโลกีย์วิสัยยังไม่พอนั่นเอง

แต่น้ำที่พระเจ้าให้กับมนุษย์นั้นเป็นน้ำฝ่ายจิตวิญญาณ ซึ่งมันอาจจะเป็นเพียงแค่น้ำเพียงอึกเดียว แต่ถ้าเรารักษาน้ำนี้เอาไว้ในชีวิตของเราได้ มันก็จะขยายผลกลายเป็นบ่อน้ำหรือกลายเป็นแม่น้ำแห่งชีวิตที่อยู่ภายในชีวิตของเราได้

แต่กระบวนการในการพัฒนาจากน้ำเพียงอึกเดียวไปสู่การเป็นบ่อน้ำและแม่เป็นน้ำแห่งชีวิตที่ทำให้เรานั้นรู้สึกที่จะไม่กระหายอีกเลยได้นั้น ไม่ใช่อยู่ๆมันจะเกิดขึ้นเองได้โดยที่เรานั้นไม่ต้องลงมือที่จะทำอะไรเลย...ไม่ใช่

พี่ - น้องที่รักครับ เด็กคนหนึ่งกว่าที่เขาจะเจริญและเติบโตขึ้นมาอย่างสมวัยได้นั้น อยู่ๆไม่ใช่เดือน 2 สองเดือนแล้วมันจะโตขึ้นมาได้เลย....ไม่ใช่ แต่เด็กจะต้องผ่านขบวนการการกินการดื่ม การหลับการนอน การเล่น อีกทั้งได้รับการเสริมสร้างอย่างมีคุณภาพเด็กนั้นก็จะเจริญและเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ

เช่นเดียวกันพี่ - น้องที่รักครับ น้ำที่พระเจ้าให้กับเรา และพระองค์ทรงสัญญาเอาไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่ได้ดื่มน้ำนี้จะไม่กระหายอีกเลย   มันจะกลายจะเป็นบ่อน้ำและมันจะกลายเป็นแม่น้ำแห่งชีวิตในชีวิตของเราได้นั้น มันจะต้องเริ่มจากการที่เรานั้นจะต้องบำรุงเลี้ยงน้ำซึ่งนั่นก็คือจิตวิญญาณของเราในแต่ละวันด้วยพระวจนะของพระเจ้า

ให้ที่ประชุมอ่านพระคำของพระเจ้าใน กจ.17:11,สดด.1:2 ร่วมกันอย่างช้าๆด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

กจ.17:11พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “ ชาวเมืองนั้นสุภาพกว่าชาวเมืองเธสะโลนิกา ด้วยเขาได้รับพระวจนะด้วยความเต็มใจ และค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่าข้อความเหล่านั้นจะจริงดังกล่าวหรือไม่ ”

สดด.1:2 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระราชบัญญัติของพระเยโฮวาห์ เขาไตร่ตรองถึงพระราชบัญญัติของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน”

พี่ - น้องที่รักครับ น้ำซึ่งเปรียบได้ดังพระคำของพระเจ้าซึ่งเราอาจจะมีสะสมเอาไว้เพียงข้อเดียวที่มันฝังอยู่ภายในชีวิตของเรา มันจะกลายเป็นบ่อน้ำและจะกลายเป็นแม่น้ำแห่งชีวิตที่จะโพยพุ่งทำให้ชีวิตของเรานั้นมีสันติสุขขึ้นมาได้ในวันที่พี่น้องทุกข์ยากลำบาก

ถ้าพี่ - น้องและผมเป็นเหมือนกับชาวเมืองเบโรอาหรือเป็นเหมือนกับผู้เขียนพระธรรมสดุดีในตอนนี้ พี่ - น้องลองพิจารณาดูสักนิดหนึ่งว่า พี่ - น้องจะมีความสุขมากสักเท่าไหร่ในเวลาที่พี่ - น้องต้องพบกับความยากลำบาก

และความสุขที่เรามีในความยากลำบากนั้นเป็นเพราะข้างในของเรานั้น 1) มีพระคำของพระเจ้า 2 ) มีน้ำแห่งชีวิตมากกว่าหนึ่งอึก บางคนอาจจะเป็นหลายร้อยอึก

ดังนั้นเมื่อเวลาที่พี่น้องทุกข์ยากลำบากนั้น พระคำของพระเจ้าก็จะผุดขึ้นมาในความคิดของพี่น้อง ทำให้เรารู้ว่าในยามยากลำบากนั้น ไม่ใช่เราคิดแบบนี้ แต่พระเจ้าอยากให้เรานั้นคิดแบบนี้ อยากให้เราทำแบบนี้และพระคำของพระเจ้าอยากให้เราที่จะตัดสินใจแบบนี้

ซึ่งนั่นหมายความว่า เรากำลังให้พระคำของพระเจ้าที่ไม่มีความผดพลาดเลยนั้นได้เป็นผู้นำชีวิตของเรา ถึงแม้ว่าพี่น้องจะต้องเผชิญกับความยากลำบากแต่พี่ - น้องก็จะสามารถที่จะยิ้มและหัวเราะได้และหรือแม้กระทั่งหายใจพี่น้องก็จะหายใจอย่างทั่วท้องและมีความสุข

ถ้าพี่ - น้องและผมเป็นเหมือนกับชาวเมืองเบโรอาหรือเป็นเหมือนกับผู้เขียนพระธรรมสดุดีในตอนนี้พี่น้องจะมีความสุขมากสักเท่าไหร่ในความยากลำบาก

และความสุขที่เรามีในความยากลำบากนั้นเป็นเพราะข้างในของเรานั้น 1) มีพระคำของพระเจ้า 2 ) มีน้ำแห่งชีวิตมากกว่าหนึ่งอึก บางคนอาจจะเป็นหลายร้อยอึก

ดังนั้นเมื่อเวลาที่พี่น้องจะต้องพบกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์บางอย่างในชีวิต เรื่องราวบางบทบางตอนที่พระคัมภีร์ได้มีการบันทึกเอาไว้นั้น มันจะพวยพุ่งขึ้นมาในความคิดของพี่ - น้องเพื่อหนุนจิตชูใจพี่ - น้องเพื่อให้พี่น้องนั้นมีความเชื่อและเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้ามากขึ้น

มีบางคนบอกกับผมว่า อาจารย์ขบวนการในการที่เราจะนำพระคำของพระเจ้าเข้ามาอยู่ในใจนั้นก็ยากขบวนการในการภาวนาก็ยิ่งยากกว่า แต่ขบวนการที่จะนำไปปฎิบัตินั้นยิ่งยากที่สุด ซึ่งเมื่อเราฟังดูแบบผิวเผินก็น่าจะเห็นด้วยกับพี่น้องของเรา แต่ถ้าพี่น้องเข้าใจในธรรมชาติของพระเจ้า พี่น้องก็จะพบว่า พระเจ้าปรารถนาที่จะอวยพรลูกๆของพระองค์ ดังนั้นถ้าพี่ - น้องคนไหนก็ตามที่มีความต้องการที่จะพัฒนาการมีถ้อยคำ รู้จักกับพระคำที่ลึกและนำไปปฎิบัติ พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าทรงช่วยท่านในเรื่องนี้อย่างแน่นอน

สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า เราไม่เพียงแต่เราจะบำรุงจิตวิญญาณของเราด้วยการอ่านพระคำของพระเจ้าอย่างพินิจพิเคราะห์เท่านั้น แต่เราจะต้องบำรุงจิตวิญญาณของเราด้วยการนมัสการ อธิษฐานรวมถึงการที่พี่ - น้องได้มีส่วนร่วมในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าเป็นการส่วนตัวด้วย

พี่น้องที่รักครับ การนมัสการ การอธิษฐานรวมถึงการที่พี่ - น้องได้มีส่วนร่วมในการรับใช้พระเจ้าเป็นการส่วนตัวนั้น สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเหมือนกับการเพิ่มปริมาณน้ำในฝ่ายวิญญาณของพี่ - น้องเองจากการที่พี่น้องมีเพียงไม่กี่อึก พี่น้องก็จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นบ่อน้ำและเป็นแม่น้ำที่ธำรงอยู่ในชีวิตของพี่น้องในที่สุด

เมื่อผมรับใช้อยู่ที่ภาคอีสานและผมได้พาตัวเองเข้าสู่การรับใช้ในระดังจังหวัด มีเพื่อนผู้รับใช้ท่านหนึ่งได้อธิษฐานกับพระเจ้า ในเช้าวันนี้แม้ว่าภูเขาทั้งหลาย..........น้ำที่ธำรงอยู่ในชีวิตของเพื่อนผู้รับใช้ท่านนี้พวยพุ่งมาถึงผม ทำให้ผมต้องไปค้นหาว่าคำอธิษฐานนี้มันอยู่ในพระคำของพระเจ้าที่ตรงไหน มันทำให้ปริมาณน้ำในฝ่ายจิตวิญญาณของผมนั้นมีมากขึ้น

แต่น้ำเพียงอึกหนึ่งในชีวิตของพี่ - น้องจะไม่สามารถที่จะกลายเป็นบ่อน้ำหรือกลายเป็นแม่น้ำแห่งสันติสุขในชีวิตของพี่ - น้องได้เลย ถ้าพี่ - น้องเอาแต่วางพระคัมภีร์ของพี่ - น้องไว้บนโต๊ะทำงานหรือเอาพระคัมภีร์วางไว้อยู่ที่หัวเตียงหรือเอาพระคัมภีร์หนีบเอาไว้ที่ใต้รักแร้ ถึงเวลาก็พามาที่คริสตจักร ถึงเวลาก็พากลับบ้านไปด้วย

อีกทั้งปริมาณน้ำฝ่ายจิตวิญญาณในชีวิตของพี่น้องก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มพูนได้ ถ้าพี่น้องไม่พาตัวของพี่น้องเองเข้ามาสู่การนมัสการ อธิษฐานกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัวรวมถึงการที่พี่ - น้องไม่ได้พาตัวเองเข้ามามีส่วนร่วมในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าเป็นการส่วนตัวด้วยและคริสเตียนแบบนี้มีเยอะมากในประเทศไทยก็ขอพระเจ้าเมตตา ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

Green City