ฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นจากความตาย

คำเทศนาเรื่อง ฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นจากความตาย

                              

สวัสดีครับพี่ - น้องที่รัก เช้าวันนี้เราพบกันในวันอะไรครับ ? อีสเตอร์ เป็นเช้าแห่งความชื่นชมยินดี เป็นเช้าแห่งความหวังและเป็นเช้าแห่งการมีชัยชนะ ให้ผู้ที่ได้รับพระพรตอบคำว่า ( อาเมน ) และในเช้าวันนี้ผมมีความเชื่ออย่างมั่นใจว่า ถ้อยคำของพระเจ้าที่จะมาถึงพี่ - น้องในเช้าวันนี้นั้น

เป็นถ้อยคำที่องค์พระผู้เป็นเจ้าต้องการที่จะพูดกับพี่ - น้องอย่างแท้จริง เหตุเพราะเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันศุกร์ประเสริฐพี่ใหม่ก็ได้พูดคำว่า สัญลักษณ์ ขึ้นมาในขณะที่แบ่งปัน ซึ่งในมิติของฝ่ายจิตวิญญาณแล้วนี่คือ Information Message

ที่พระเจ้าให้กับนักเทศน์ทุกคน คำถามก็คือว่าใครคือนักเทศน์ ? คำตอบก็คือพวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ “ เพราะฉะนั้นนักเทศน์ทั้งหลายเอ๋ย จงไวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเถิด ”อาเมน

และในเช้าวันนี้ผมจะอัญเชิญพระวจนะคำของพระเจ้า จากพระธรรม ยน. 20 : 1 - 18 ให้ที่ประชุมเปิดและอ่านพร้อมๆ กันอย่างช้าๆ ด้วยเสียงที่ดัง เชิญครับ และข้อพระคัมภีร์ที่ผมจะใช้เป็นกุญแจในการแบ่งปันกับพี่ - น้องในเช้าวันนี้ จะอยู่ในข้อที่ 5 - 10 ให้ที่ประชุมได้อ่านพร้อมๆ กันอย่างช้าๆ ด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า “ ฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นความตาย ”ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

            พี่ - น้องเคยสังเกตไหมครับว่า คนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้าที่เที่ยงแท้นั้น เขามีความต้องการหรือมีความปรารถนาที่จะแสวงหาพลังที่พิเศษอะไรบางอย่าง เอามาไว้ในชีวิตของเขา พี่ - น้องเคยสังเกตไหม ?

ด้วยเหตุนี้นี่เองพี่ - น้องที่รักครับ   หลายคนที่ไม่ได้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ( ซึ่งเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้ ) เขาจึงพากันไปหาพลังพิเศษจากไหนครับ ? ถ้าในฝ่ายจิตวิญญาณนะครับ เขาพากันไปหาพลังพิเศษจากเครื่องรางของขลัง พี่ - น้องว่าจริงหรือไม่จริงครับ ?

แต่ถ้าเป็นในฝ่ายร่างกายแล้วเขาพากันไปหาพลังที่พิเศษนี้จากที่ไหนพี่ - น้องทราบไหมครับ ? เขาพากันหาพลังที่พิเศษนี้จาก 1. อาหารชีวจิต 2. แบรนด์ยอดซุบไก่ 3. M 100 และ M 150 4. จากการ Up Speed หรือเพิ่มความเร็วของ Internet

มนุษย์บางคนต้องการหาพลังพิเศษจากการหาเงิน ดังนั้นเขาจึงทุ่มเทชีวิต จิตใจและจิตวิญญาณของเขาไปกับการหาเงิน เพราะเขาเชื่อว่าเงินสามารถที่จะบันดาลทุกสิ่งและทุกอย่างได้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเงินมันสามารถที่จะซื้อทุกสิ่งและทุกอย่างได้จริงไหมครับ ? ไม่ได้  

ผู้ชายบางคนชอบรถยนต์ พอจะซื้อรถสักคันหนึ่ง ก็อยากที่จะหาพลังพิเศษจากเครื่องยนต์ ให้ช่างเครื่องทำไมครับ ?Modify เครื่องยนต์ให้มันแรงๆ ผู้ชายบางคนช่างเครื่องแต่งเครื่องให้แรงแล้ว ( แต่ก็ยังไม่พอใจ ) กับขอให้ช่างใส่เทอร์โบเข้าไปอีก แรงม้ามันจะได้เยอะๆ พอตายจะได้ตายไวๆ

แต่พอพระเจ้าที่เที่ยงแท้ปรารถนาที่จะยกชีวิตของเขาขึ้นโดยให้ “ พลังชีวิต ” กับเขาฟรีๆมนุษย์หลายๆคนกับไม่เอา หลายคนกับกลัวพลังแห่งการเป็นขึ้นมาจากความตาย อันนี้เป็นสิ่งที่แปลกแต่จริง

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 1 อยู่ในข้อที่ 5 - 7 ให้ที่ประชุมอ่านอย่างช้าๆพร้อมๆกันด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

ประการที่ 1 เราพบความหวังซึ่งก่อให้เกิดพลัง

            พี่ - น้องที่รักครับ ถ้าพี่ - น้องอยู่ในสถานการณ์อย่างเดียวกันกับสาวกขององค์พระเยซูในตอนนี้ สมมตว่าเป็นน้องแขกก็แล้วกัน ถ้าน้องแขกอยู่ในสถานการณ์อย่างเดียวกันกับสาวกของพระเยซูในตอนนี้ กล่าวคือ น้องแขกได้วิ่งมาถึงที่อุโมงค์และก้มมองที่อุโมงค์ฝังศพและเห็นผ่าป่านวางอยู่

ในขณะเดียวกันนั้น เปโตร ซึ่งวิ่งมาถึงที่หลังน้องแขก ก็ได้เข้าไปข้างในพร้อมกับน้องแขก และทั้งสองคนก็ได้เห็นผ้าป่านวางอยู่และผ้าพันพระเศียรของพระองค์ไม่ได้วางอยู่กับผ้าอื่น น้องแขกจะรู้สึกอย่างไร ? น้องแขกอาจจะอุทานว่าเฮ้ยนี่เป็นไปได้อย่างไร

แต่พระคำของพระเจ้าไม่ได้บอกกับเราว่า ยอห์นกับเปโตร นั้นอุทานว่าอย่างไร แต่พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่าอย่างไรครับ ?“เมื่อเขาได้เห็นและเชื่อ” จึงทำให้เรารู้ว่า ทั้งสองคนนี้มีความหวังต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าเขาทั้งสองจะยังไม่เข้าใจพระวจนะคำของพระเจ้าในตอนนั้นก็ตาม

ดังนั้นผ้าป่านที่ถูกพับและถูกวางเอาไว้อย่างสวยงาม ที่อุโมงค์ฝังพระศพขององค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นจึงเปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์ของความหวังซึ่งไม่ใช่ความหวังของอัครทูตเพียงแค่สองคนนี้เท่านั้น พระคำของพระเจ้าในข้อที่10 บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า “ แล้วสาวกทั้งสองก็กลับไปยังบ้านของตน ”

พี่ - น้องคิดว่า เปโตรกับยอห์นเมื่อกลับไปถึงที่บ้านของพวกเขาแล้วเขาจะเฉยๆกับสิ่งที่เขาได้แลเห็นไหมครับ ? ไม่อย่างแน่นอน นอกจากจะไม่แล้วเฉยๆ แล้วเขาจะต้องทำไมเขาด้วยครับ ? เขาจะต้องแบ่งปันในสิ่งที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เขาได้เห็น

ซึ่งนั่นหมายความว่าอะไร ?ซึ่งนั่นหมายความว่า ผ้าป่านที่ถูกพับและได้ถูกวางเอาไว้อย่างสวยงามนั้น มันเป็นเสมือนกับสัญลักษณ์แห่งความหวังของผู้เชื่อทุกๆคนในเวลานั้น และรวมทั้งเป็นเสมือนกับสัญลักษณ์แห่งความหวังของพวกเราทุกๆ คนในเวลานี้ด้วยเช่นกัน ( อาเมน )

พี่ - น้องที่รักครับ ถ้าเราจะมองดูโลกใบนี้ในเชิงตรรกหรือมองในเชิงความเป็นจริงสักนิดหนึ่ง และถ้าเราจะพูดถึงระบบใดระบบหนึ่ง เช่น ถ้าเราจะพูดถึงระบบการศึกษา เราก็จะพบว่า โลกใบนี้นั้นมีการศึกษาที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นมาก ( พี่ - น้องว่าจริงหรือไม่จริง ) เรามีการพัฒนาระบบการศึกษาหลายระบบ เรามีการพัฒนาคุณภาพของครูผู้สอนอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาทางสังคมกับไม่ได้ลดลงอย่างที่เราปรารถนา

นอกจากจะไม่ลดลงแล้ว แถมความบาปชั่วและความเลวทรามต่างๆนาๆนั้นมันยังทำไมด้วยครับพี่ - น้อง ? กับยังมีให้เราเห็นมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียด้วยซ้ำ ( พี่ - น้องว่าจริงหรือไม่จริง )

สิ่งต่างๆ เหล่านี้พี่ - น้องที่รักครับ ชี้ให้เราเห็นว่า คนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้าหรือคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเยซูนั้น เขาอยู่ในโลกที่ไม่มีความหวังใดๆเลย อาจจะกล่าวได้ว่าคนที่ไม่ได้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นอยู่อย่างคนสิ้นหวังก็ว่าได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เขาจะต้องจากโลกนี้ไป โดยที่เขาเองนั้นไม่ได้ต้อนรับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าเข้ามาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดในชีวิตของเขาด้วยแล้ว เขายิ่งสิ้นหวังถาวรเลยพี่ - น้องที่รัก

คำถามคือว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? คำตอบก็คือว่า เพราะคนที่เฝ้าประตูแห่งฟ้าสวรรค์ จะบอกกับคนที่ไม่ได้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าว่า “ ไม่มีสวรรค์สำหรับคุณ สำหรับคุณสวรรค์ไม่มี ”

แต่สำหรับคริสตชนแล้วเราขอบพระคุณพระเจ้าได้ เพราะอะไรครับพี่ - น้อง ? เพราะอีสเตอร์นั้นเป็นความหวังและเป็นคำตอบมาสู่โลกที่ไม่มีความหวัง ทำให้เรานั้นมีพลังในการที่จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างคนไม่สิ้นหวัง อาเมน และเมื่อเราจะต้องจากโลกนี้ไปในคราใดก็ตาม

สำหรับคริสเตียนแล้วขอให้พี่ - น้องได้รู้และได้เข้าใจเถิดว่า ความตายนั้นมันเป็นเพียง 1. ผ้าม่านบางๆที่เราจะเดินผ่านไปเท่านั้น 2. ดั่งแม่น้ำที่เราจะเดินข้ามไป 3. อุโมงค์ที่เราจะทะลุและรอดไปอีกด้านหนึ่งและที่นั่นคือแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้าและทุกๆคืนก่อนนอนพระองค์จะพูดกับเราว่า Good Night My Son และบางคืนพระองค์อาจจะพูดกับเราว่า Sweet Dream Baby ฮาเลลูยา

นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาแล้ว และถ้าพี่ - น้องได้อ่านพระวจนะของพระเจ้าอย่างกลั่นกรอง ใคร่ครวญและพิจารณาให้ดีๆ พี่ - น้องก็จะพบว่าภายหลังจากที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าได้เสด็จขึ้นไปอยู่ร่วมกับพระบิดาของพระองค์บนสวรรค์แล้วนั้น เรายังพบคำว่า “ ความหวัง ” นี้ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ใหม่สูงถึง 49 ครั้ง

            สิ่งนี้ทำให้เราทราบอะไร ? สิ่งนี้ทำให้เราทราบว่า พระคำของพระเจ้านั้นก็เป็นพลัง เป็นความหวังในการที่จะขับเคลื่อนชีวิตของเราในแต่ละวันด้วยเช่นกัน ( อาเมน )  

เพราะฉะนั้น อย่าให้ความหวังของเราในแต่ละวันนั้น ไปตั้งอยู่กับสิ่งที่ไม่สมควร เหมือนอย่างกับคนที่ไม่มีพระเจ้าเขาทำกัน เช่น อย่าให้ความหวังของเรานั้นไปตั้งอยู่กับ 1. ต้นไม้ + กับผ้าสามสี 2. สัตว์ประหลาด ซึ่งมันจะมีสักกี่หัว มันจะสักกี่เท้าหรือมันจะมีสักกี่หางก็เรื่องของมันแต่ผมก็มักจะเห็นคนเข้าไปข้องเกี่ยวกับมันทุกทีไป 3. การทำนายทายทัก 4. ลูกค้ารายแรก เพราะพ่อค้า แม่ขายบางคนบอกกับผมว่า ถ้าลูกค้ารายแรกซื้อของและไม่ต่อราคาเขาจะขายดี ขอพระเจ้าเมตตาที่ความหวัง ที่จะก่อให้เกิดพลังในชีวิตของเรานั้น จะอยู่ที่พระคำของพระเจ้ามากกว่าความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 2 อยู่ในข้อที่ 9 ให้ที่ประชุมอ่านอย่างช้าๆ พร้อมๆ กันด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

ประการที่ 2 เราพบฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า

            พี่ - น้องที่รักครับ 2 คืนในอุโมงค์ฝังศพนั้นมาร ซาตาน มันคิดว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นทรงแพ้มันแล้ว ( ซึ่ง 2 วันนั้นมาร ซาตาน มันอาจจะคิดถูกก็ได้ ) แต่การฟื้นและการเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า เป็นเหตุทำให้มาร ซาตาน นั้นมันจะต้องพ่ายแพ้พระองค์ไปตลอดชั่วนิจนิรันดร

คำถามคือว่าเพราะอะไร ? คำตอบก็คือว่า การฟื้นและการเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้น เป็นการประกาศชัยชนะเหนือมาร ซาตาน ซึ่งถ้าเราจะเปรียบเป็นอาวุธสงคราม การฟื้นและการเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้น นั่นก็คือ การทิ้งระเบิดปรมาณูให้กับมัน

พี่ - น้องเคยดูสารคดีเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ไหมครับ ? ที่ชาติพันธมิตได้ขนระเบิดนิวเคลียร์จำนวนเพียงไม่กี่ลูก ไป Boomb ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 16 ส.ค. ในปีค.ศ.1945 ที่เมืองฮิโรชิมาและเมืองนางาซากิ คำถามคือว่า ผู้คนในสองเมืองนี้เหลืออะไรไหมครับ ? ไม่เหลืออะไรเลย

เช่นเดียวกันพี่ - น้องที่รักครับ การฟื้นและการเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้น เป็นเหตุทำให้ มาร ซาตาน นั้นมันไม่เหลืออะไรเลยทั้งกางเกงคนและกางเกงไม่ใช่ของคนก็ไม่เหลือให้กับมาร ซาตานด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้มาร ซาตานมันจึงโกรธพระเจ้า แต่มันทำอะไรพระเจ้าได้ไหมครับ ? ( ไม่ได้ ) แต่มาร ซาตานมันสามารถที่จะทำอะไรกับพี่ - น้องและผมได้ไหมครับพี่ - น้อง ? ( ไม่ได้เช่นเดียวกัน ) ถ้าพี่ - น้องและผมยังดำเนินชีวิตอยู่ในทางของพระเจ้า

นอกจากที่มาร ซาตาน มันจะทำอะไรพี่ - น้องและผมไม่ได้แล้ว เรายังสามารถที่จะจะแซว มาร ซาตานมันด้วย ให้ที่ประชุมเปิดไปที่พระคำของพระเจ้าในหนังสือ 1 คร.15 : 55 และอ่านพร้อมๆ กันอย่างช้าๆ ด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

นอกเหนือจากที่มาร ซาตาน มันจะทำอะไรพี่ - น้องและผมไม่ได้แล้ว เรายังสามารถที่จะแซวมันได้ด้วยว่า “ เฮ้ย…....ไอ้มาร เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหน หรือเฮ้ย.........ไอ้ซาตานเอ๋ย ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน ” เราสามารถที่จะแซวมันได้ด้วยพี่ - น้อง

แต่เมื่อใดก็ตามที่พี่ - น้องและผมเดินออกจากทางของพระเจ้าเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละมาร ซาตานมันก็จะพูดคำว่า Bingo แปลเป็นภาษาในเกมส์การแข่งขันว่า “ เสร็จเรา ” เพราะฉะนั้นถ้าพี่ - น้องไม่อยากให้มาร ซาตานมันพูดคำว่า Bingo กับพี่ - น้อง ก็ขอให้พี่ - น้องดำเนินชีวิตอยู่ในหนทางของพระเจ้าตลอดเวลาเสมอ หรือให้พี่ - น้องได้ยึดพระเจ้าเอาไว้แน่นๆ

สิ่งที่พระวจนะคำของพระเจ้าต้องการที่จะสื่อกับพี่ - น้องในเช้าวันนี้นั่นก็คือว่าการที่เรามาเป็นคริสเตียนนั้น ไม่ใช่เราเพียงแค่รู้ว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นทรงฟื้นและทรงเป็นขึ้นมาจากความตายเฉยๆเท่านั้น หรือเราไม่ใช่เพียงแค่รู้ในเรื่องนี้เพียงเพราะมันเป็นหลักข้อเชื่อข้อหนึ่งของคริสเตียนเท่านั้น

แต่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงมีความปรารถนา ที่จะให้พี่ - น้องและผมรวมทั้งผู้เชื่อในพระองค์ทุกๆคนนั้น ได้เข้ามาสัมผัสกับฤทธิ์อำนาจหรือได้เข้ามาสัมผัสกับ DNA แห่งการมีชัยชนะนี้ร่วมกับพระองค์ด้วยเช่นเดียวกัน

และเมื่อสาวกขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ได้เข้ามาสัมผัสกับฤทธิ์อำนาจในการฟื้นและการเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า พระคำของพระเจ้าในหนังสือ กจ. 2 : 14 บอกกับเราอย่างชัดเจนว่าอย่างไร ให้ที่ประชุมเปิดและอ่านพร้อมๆกันอย่างช้าๆ ด้วยเสียงที่ดัง เชิญครับ

พี่ - น้องที่รักครับ สาวกขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ที่มาจากอาชีพประมงหลายคน ที่ดูแล้ว ก็ไม่น่าที่จะเป็นเสาหลักให้กับพระกิตติคุณของพระเจ้าได้ แต่เมื่อพวกเขาได้มาสัมผัสกับฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าโดยเฉพาะ สัมผัสกับฤทธิ์อำนาจในการฟื้นและเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า

พระคำของพระเจ้าในหนังสือ กจ. 2 : 14 บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า อ. เปโตรและคณะนั้นมีชีวิตที่เปลี่ยนไปจาก “ กลัวเป็นกล้า ” กล้ามากขนาดไหนให้ที่ประชุมเปิดไปที่พระคำของพระเจ้าจากหนังสือ กจ. 2 : 41

พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า อัครทูต เปโตร นั้นได้เปลี่ยนจาก นักประมงเป็นนักประกาศพระกิตติคุณของพระเจ้า   ด้วยจิตใจที่กล้าหาญและร้อนรน ผมขอบพระคุณพระเจ้าเสมอที่ฤทธานุภาพ ที่ทำให้พระเยซูทรงฟื้นและทรงเป็นขึ้นมาจากความตายนั้นยังคงอยู่ มันไม่ได้หมดไปตามกาลเวลา และปริมาณของฤทธิ์อำนาจนี้ก็ยังเต็มและล้นอยู่

ประการที่สำคัญนั่นก็คือว่า ฤทธิ์อำนาจเดียวกันนี้ไม่เพียงแต่จะชุบให้พี่ - น้องและผมซึ่งสวย รูปหล่อและหน้าตาดี ได้เป็นขึ้นมาจากความตายเท่านั้น แต่จะประกอบกิจอยู่ภายในเราด้วยเช่นกัน พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะเข้ามาในชีวิตและในจิตใจของเราและจะให้อำนาจนั้นแก่เราในการที่เราจะมีชัยชนะเหนืออุปสรรคและปัญหา

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกที่ 1. คริสเตียนจะยิ้มได้ทั้งน้ำตา 2. คริสเตียนจะรู้สึกลึกๆว่าพระเจ้าจะช่วยเราในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ 3. คริสเตียนจะรู้สึกเบาตัวแม้ว้ากำลังเผชิญกับภาระหนัก และนี่คือฤทธิ์อำนาจ แห่งการฟื้นและการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเจ้า

เพราะฉะนั้นพี่ - น้องที่รักครับ อย่าให้เราเป็นคริสเตียนที่เพียงแค่มาโบสถ์ในวันอาทิตย์เท่านั้น แต่ให้เราเป็นคริสเตียนที่มาโบสถ์และได้รับการสัมผัสกับฤทธิ์อำนาจหรือฤทธานุภาพของพระเจ้าด้วย อาเมน ไหมครับ

โดยเฉพาะใครก็ตามที่ได้เข้ามาหาองค์พระเยซูคริสต์เจ้า และมีความปรารถนาที่จะให้ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้านั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาอย่างแท้จริง พี่ - น้องฟังสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ให้ดีๆ สิ่งที่ผมจะพูดก็คือว่า ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าก็จะออกฤทธิ์ในการที่จะเปลี่ยนแปลงผู้นั้นหรือคนๆนั้นในทันที

เหมือนดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังสือ มธ. 9 ที่คนง่อยที่นอนอยู่บนที่นอนมาหาพระองค์ พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า คนง่อยคนนี้เขามีความเชื่อว่าฤทธานุภาพของพระเยซูนั้นจะช่วยเขาให้หายได้ เขาจึงมีความปรารถนาที่จะมาหาพระเยซู และเมื่อพระเยซูตรัสว่า “ลูกเอ๋ย จงชื่นใจเถิด บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว ” เขาจึงลุกขึ้นเดินในทันที ซึ่งนั่นหมายความว่า ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้านั้นออกฤทธิ์ในทันที    

     เมื่อกล่าวพระวจนะของพระเจ้ามาถึงตรงนี้ผมก็รู้สึกขอบพระคุณพระเจ้าที่ได้เห็น

1.คนที่มีชีวิตแต่ไร้ชีวิตอย่างคุณแขก แต่เมื่อเขาปรารถนาที่จะให้ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ฤทธานุภาพของพระเจ้าออกฤทธิ์ภายในเขาทันทีจึงทำให้แขกเป็นผู้มีชีวิต

2.คนที่พ่ายแพ้ต่อเนื้อหนังอย่างคุณดาวิด แต่เมื่อเขาปรารถนาที่จะให้ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ฤทธานุภาพของพระเจ้าก็ออกฤทธิ์ภายในเขาทันที ทำให้คุณดาวิดเป็นผู้ที่ถูกสร้างใหม่ในพระเจ้า

3.คนที่พ่ายแพ้ต่อการถูกล่อชวนอย่างคุณโก๋ แต่เมื่อเขาปรารถนาที่จะให้ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ฤทธานุภาพของพระเจ้าก็ออกฤทธิ์ภายในเขาทันที ทำให้คุณโก๋ดำรงชีวิตอย่างผู้มีชัยชนะได้ในเวลานี้

4.คนที่พ่ายแพ้ต่อการทดลองอย่างคุณต้น แต่เมื่อเขาปรารถนาที่จะให้ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ฤทธานุภาพของพระเจ้าก็ออกฤทธิ์ภายในเขาทันทีทำให้ต้นเป็นผู้ที่พระเจ้าใช้การได้ใหม่อีกครั้ง ขอบพระคุณพระเจ้า

อย่างไรก็ตามพี่ - น้องที่รักครับพระคำของพระเจ้าใน 1 คร. 15 : 1 - 11ให้ที่ประชุมได้เปิดและอ่านพร้อมๆ กันอย่างช้าๆ ด้วยเสียงที่ดัง เชิญครับ พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจน ผ่านทางผู้รับใช้ของพระองค์นั่นก็คือท่าน อ. เปาโล พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า เรื่องที่พระคริสต์ทรงวายพระชนม์และทรงถูกฝังไว้ และทรงฟื้นและเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดและเป็นเรื่องที่จะต้องมีการประกาศให้แก่คนทั้งหลายได้รับทราบ

ด้วยเหตุนี้พี่ - น้องจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมอีสเตอร์ในแต่ละปีนั้นคริสตจักรของพระเจ้าในแต่ละที่ ในแต่ละแห่ง ถึงจะต้องเทศนาในเรื่องนี้หรือทำไมถึงจะต้องมีการจัดกิจกรรมอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้นในเทศกาลนี้

เพราะอีสเตอร์เป็นเทศกาลแห่งการมีชัยชนะ เป็นเทศกาลแห่งความชื่นชมยินดี เป็นวันที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงฟื้นและเป็นขึ้นมาจากความตายพระคำของพระเจ้าใน มธ. 28 : 20 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้าเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค” ซึ่งนั่นหมายความว่า พระองค์ทรงไม่ตายอีกเลย อาเมน

ดังนั้นคริสตชนทั่วโลก จึงนมัสการพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ หรือพระเจ้าที่ตายไปแล้วครับพี่ - น้อง ? ให้เราบอกกับคนข้างซ้าย ข้างขวาว่า เรานมัสการพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่

            เมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่พี่ - น้องที่รัก 1. พระองค์จะเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ท้อใจ 2. พระองค์จะเป็นความหวังให้กับคนที่สิ้นหวัง 3. พระองค์จะเป็นความช่วยเหลือให้กับคนที่ไม่มีใครช่วยเหลือ 4. พระองค์จะเป็นพลังให้กับคนที่หมดแรง เพียงแต่คนๆนั้นจะต้องเปิดใจและต้อนรับพระองค์เข้ามาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดในชีวิต ไม่ทราบว่าวันนี้มีใครไหมที่มาคริสตจักรเป็นครั้งแรก           

           

Green City