ฤทธิ์อำนาจของการอธิษฐาน

คำเทศนาเรื่อง ฤทธิ์อำนาจของการอธิษฐาน

    

สวัสดีครับพี่ - น้องในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าที่รักทุกท่าน ก่อนอื่นผมอยากที่จะขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับโอกาสและก็สิทธิพิเศษ ที่พระเจ้าได้ทรงอนุญาตและก็ได้ประทานมอบให้กับผมผ่านทาง อ. อ้อย ในค่ำคืนนี้

สิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า อยากที่จะหนุนใจพี่ - น้องในค่ำคืนนี้อยู่ในพระธรรมกิจการ 12:1-19 ให้ที่ประชุมเปิดไปที่ กิจการ 12 : 1 - 19 และอ่านพร้อมๆ กันอย่างช้าๆ ด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในค่ำคืนนี้ว่า ฤทธิ์อำนาจของการอธิษฐานให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐานครับ

            พี่ - น้องที่รักครับ ถ้าพี่ - น้องได้มีโอกาสศึกษาหรือค้นคว้าหาอ่านประวัติศาสตร์คริสตจักรของพระเจ้าที่ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาในโลกใบนี้ พี่ - น้องก็จะพบว่าคริสตจักรของพระเจ้าที่ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นในโลกใบนี้นั้น ไม่ได้ถือกำเนิดหรือเกิดขึ้นมาจากการประชุมสัมมนาทางวิชาการใดๆทั้งสิ้น แต่คริสตจักรขององค์พระเยซูพระเจ้านั้นได้ถือกำเนิดและเกิดขึ้นมา ระหว่างมีการประชุมหรือมีการนมัสการอธิษฐานของบรรดาผู้เชื่อทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้นี่เองพี่ - น้องที่รัก ที่เป็นเหตุทำให้คริสตจักรของพระเจ้านั้นได้มีการเจริญเติบโตและได้มีการขยายผลทวีคูณออกไปมากยิ่งขึ้น และโดยส่วนตัวของผมนั้นผมมีความเชื่ออย่างมั่นใจว่า ถ้าคริสตจักรขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ถูกกำเนิดหรือได้เกิดขึ้นมาจากการประชุมสัมมนาทางวิชาการแล้วไซร้ คริสตจักรขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าก็คงจะไม่ได้มีอายุยืนนานถึงขนาดนี้หรืออาจจะล้มหายตายจากไปแล้วก็ได้

จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 1        อยู่ใน กจ. 12 : 1 - 5 ขอเชิญผู้ที่เปิดพระคัมภีร์ไวที่สุดอ่านให้ที่ประชุมฟังอีกครั้งหนึ่งเชิญครับ

ฤทธิ์อำนาจประการแรก ที่พระคัมภีร์ในตอนนี้สอนเรานั่นก็คือ “ฤทธิ์อำนาจของมารซาตาน” พี่ - น้องที่รักครับ พระวจนะของพระเจ้าในตอนนี้สอนเราว่า มารซาตานนั้นมันใช้กษัตริย์เฮโรดให้ตกเป็นเครื่องมือของมัน กษัตริย์เฮโรดจึงเป็น Champion ไม่ใช่เพียงแค่ต่อต้านคริสเตียนเท่านั้นนะครับ แต่กษัตริย์เฮโรดเขายังเป็น Champion ในเรื่องของการฆ่าล้างทำลายคริสเตียนด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเราจึงไม่ต้องแปลกใจเลยพี่ - น้องที่รักว่า ทำไม K. เฮโรด พระองค์นี้ถึงได้ชอบฆ่าล้างทำลายคริสเตียน หรือทำไม K .เฮโรด พระองค์นี้ถึงชอบข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้าอยู่ตลอดเวลา เหตุเพราะเบื้องหลังของ K. เฮโรด นั้นมันมีอำนาจชั่วหรือมันมีอำนาจมืดบางอย่าง ซึ่งเป็นอำนาจของมาร ซาตาน ที่คอยครอบครองและครอบงำเขาอยู่

            พี่ - น้องที่รักครับ พระวจนะคำของพระเจ้าใน 2 พยางค์แรกของพระธรรมกจ. 12 : 1 กล่าวเอาไว้อย่างน่าสนใจมาก   พระวจนะคำของพระเจ้าใน 2 พยางค์แรกของพระธรรม กจ. 12 : 1 กล่าวเอาไว้ว่า“ คราวนั้น ”

คำถามก็คือว่า “ คราวนั้น ” ที่พระคัมภีร์พูดถึงมันหมายถึงคือ “ คราวไหน ”

คำตอบอย่างง่ายๆ ก็คือ “ คราวนั้น ” ที่พระคัมภีร์พูดถึงนั่นก็คือ

1. คราวไหนก็ตามที่พระกิตติคุณของพระเจ้าได้ถูกแพร่ขยายออกไป ในแต่ละที่แต่ละแห่ง คราวนั้นแหละพี่ - น้องที่รักครับ ที่มาร ซาตานมันจะข่มเหงคริสเตียนมากเป็นพิเศษ

2. คราวไหนก็ตามที่มีการประกาศพระวจนะของพระเจ้า ออกไปอย่างกว้างขวางหรืออย่างเอาจริงเอาจัง คราวนั้นแหละครับพี่ - น้องที่รัก ที่มาร ซาตานมันพยายามที่จะทำลายล้างคริสเตียนที่รักพระเจ้า ซึ่งในเวลานี้ผมไม่แน่ใจนะครับว่า อ.อ้อย และพี่ - น้อง

ที่ได้เข้ามาบุกเบิกพันธกิจของพระเจ้าที่ อัมพวา ได้พบกับการข่มเหงนี้บ้างแล้วหรือยังหรือพบมากน้อยแค่ไหนอันนี้ผมไม่ทราบ

ถ้ายังไม่พบก็ให้เราขอบพระคุณพระเจ้า หรือถ้าท่านพบแล้วก็ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าด้วยเช่นกัน คำถามคือว่าเพราะอะไร ? คำตอบก็คือ เพราะนั่นหมายความว่า งานของท่านที่ อัมพวา นั้นกำลังเกิดผล อาเมน

ขอให้ที่ประชุม เปิดไปที่พระวจนะคำของพระเจ้าในหนังสือ 1 คร. 16 : 9 ด้วยกันพระคำของพระเจ้าตรัสว่าอย่างไรครับ พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “เพราะว่าที่นี่มีประตูเปิดให้ข้าพเจ้าอย่างกว้างขวางน่าจะเกิดผล ทั้งคนขัดขวางก็มีเป็นอันมากด้วย”

เพราะฉะนั้นถ้าพี่ - น้องพบกับการข่มเหง ก็ขอให้ท่านได้เชื่อตามพระคำของพระเจ้าในข้อนี้เถิดว่าพันธกิจของท่านที่ “ อัมพวา ” นั้นกำลังเกิดผล

3. คราวไหนก็ตามที่คริสตจักรของพระเจ้า ทำงานอย่างเกิดมรรคเกิดผล หรือรุดไปข้างหน้าอย่างมีชัย คราวนั้นแหละครับพี่ - น้องที่รัก ที่มาร ซาตานมันจะใช้ใครบางคนที่จะขัดขวางงานของพระเจ้า

4. คราวไหนก็ตาม ที่พี่ - น้องและผม เริ่มที่จะมีชีวิตที่จะเติบโตขึ้นในทางของพระเจ้า คราวนั้นแหละครับที่ มาร ซาตานมันพยายามจะใช้บางสิ่งบางอย่างเข้ามาข่มเหงหรือทำลายล้างชีวิตในความเชื่อของท่าน เพราะฉะนั้นขอให้พี่ - น้องได้รู้หรือได้เข้าใจเถิดว่า ถ้าหากชีวิตคริสเตียนของพี่ - น้องมันยังไม่ไปถึงไหนเลยกับพระเจ้า มันยังกึกๆ กั๊กๆ อยู่เหมือนกับมีอะไรขัดขวางพี่ - น้องอยู่ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าพี่ - น้องอาจจะกำลังเผชิญกับฤทธิ์อำนาจของมาร ซาตานอยู่ก็เป็นได้

ด้วยเหตุนี้เองพี่ - น้องที่รัก จึงมีคำกล่าวเอาไว้ดังนี้ว่า “ เมื่อพระเจ้าเหยียดพระหัตถ์ของพระองค์ออกมาอวยพรคริสตจักรหรืออวยพรเรา มารซาตานมันก็เหยียดมือของมันออกมาทำร้ายคริสตจักรหรือบางคนในคริสตจักรด้วยเช่นกัน ”

            กจ. 12 : 2 พระคำของพระเจ้าสอนให้เรารู้ว่า เมื่อเวลามารซาตาน มันต้องการที่จะจัดการกับใครนั้น มันเลือกที่จะจัดการกับใครก่อนครับพี่ - น้อง ?

คำตอบอย่างง่ายๆ ก็คือ มันเลือกที่จะจัดการกับผู้รับใช้ของพระเจ้าหรือผู้นำในฝ่ายจิตวิญญาณก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งในที่นี้ก็คงจะหมายถึง อ. อ้อย และคณะผู้นำของคริสตจักร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า มาร ซาตานมันจะไม่จัดการกับพี่ - น้องและผมน๊ะครับ ( มาร ซาตาน มันจะต้องหาทางในการที่จะจัดการพี่ - น้องและผมด้วยอย่างแน่นอน )

พระคำของพระเจ้าในหนังสือ ยน. 10 : 10 พระคำของพระเจ้าตรัสเอาไว้ดังนี้ว่า“ ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักฆ่าและทำลายเสีย ” ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกที่ กจ. 12 : 2 ได้มีการบันทึกเอาไว้ว่า มาร ซาตานได้ฆ่ายากอบทิ้งเสียด้วยดาบและจับเปโตรขังเอาไว้ในคุก

คำถามก็คือว่าทำไม มาร ซาตานถึงทำอย่างนี้ ? คำตอบอย่างง่ายๆ ก็คือว่า……..

1 ) ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นบุคคลที่สำคัญ 2 ) ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นผู้เทศนาพระกิตติคุณของพระเจ้าเพื่อให้คนบาปนั้นได้กลับใจใหม่ เพราะฉะนั้นมาร ซาตาน มันจึงต้องการที่จะหยุดกิจกรรมในฝ่ายจิตวิญญาณของอัครทูตทั้ง 2 ท่านนี้เอาไว้ให้ได้

พี่ - น้องลองคิดดูนะครับว่า ถ้าคริสตจักรของพระเจ้าไม่มีผู้เทศนาเรื่องพระกิตติคุณของพระเจ้าแล้วจะเป็นอย่างไร ? มันก็ย่อมส่งผลกระทบต่อคริสตจักรและมวลหมู่สมาชิกอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น มาร ซาตานมันจึงต้องการที่จะจัดการกับเปโตร - ยากอบ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณระดับหัวกระทิในเวลานั้นก่อน และเมื่อมาร ซาตานมันสามารถที่จะผูกมัดผู้รับใช้ของพระเจ้าเอาไว้ได้แล้ว มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าจะหลุดจากการผูกมัดนั้นได้ด้วยกำลังของตนเอง

ให้เรามาดูสภาพของอ. เปโตรด้วยกันว่าในขณะนั้น อ. เปโตรต้องตกอยู่ในสภาพเช่นใด พระวจนะของพระเจ้าได้บันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนว่า อ. เปโตร อยู่ในสภาพที่มีโซ่พันธนาการที่มือของเขาอยู่ 2 เส้น ที่ขาทั้ง 2 ข้างของ อ. เปโตร ก็คงจะถูกเข้าขื่อเอาไว้

ในคุกนั้นมีทหาร 2 คนคอยที่จะอยู่ข้างกายของเขาตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีทหารอีก 4 หมู่ๆ ละ 4 คนรวม 16 คน คอยคุมเขาอยู่ตลอดเวลาในแต่ละประตูเพื่อไม่ให้เขาหนีออกไปได้ อย่างไรก็ตามพี่ - น้องที่รัก ถ้าเราสมมติว่า อ. เปโตร เขาอาจจะหนีออกไปจากประตูในแต่ละชั้นได้ แต่เขาก็มีสิทธิที่จะออกไปเจอกับดาบของ K. เฮโรด อีกก็เป็นได้

และนี่คืออำนาจของมาร ซาตาน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ามาร ซาตานมันพยายามที่จะใช้อำนาจของมันเป็นอย่างมาก มันใช้ทั้งการพันธนาการ ใช้กำลังทหาร ใช้ยาม ใช้ดาบ ใช้กรงขัง ใช้โซ่และอาวุธ และมันอาจจะใช้อะไรต่อมิอะไรอีกหลายๆ อย่างก็ตาม

แต่ขอให้พี่ - น้องได้รู้และได้เข้าใจเถิดว่า “อำนาจของมารซาตานนั้นมันก็มีขีดจำกัด” อาเมน ขอให้เราบอกกับคนข้างซ้าย ข้างขวาว่า มารซาตาน มันมีฤทธิ์อำนาจก็จริงแต่มันมีขีดจำกัด ที่เราพูดอย่างนี้ได้ก็เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้าในตอนนี้ได้มีการบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนว่า สุดท้าย ท้ายสุด อ. เปโตร สามารถที่จะออกมาจากคุกได้ไหมครับ ? เพราะฉะนั้นอำนาจของมารซาตานมันมีขีดจำกัดจริงๆ พี่ - น้องที่รัก

จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 2        อยู่ในข้อที่ 5 ให้เราอ่านพร้อมกันด้วยเสียงดังเชิญครับ

ฤทธิ์อำนาจประการที่ 2 ที่พระคัมภีร์ตอนนี้สอนเรานั่นก็คือ ฤทธิ์อำนาจของการอธิษฐาน

พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อมีอะไรบางสิ่ง บางอย่าง เกิดขึ้นกับคริสตจักรของพระเจ้าหรือมีอะไรบางสิ่ง บางอย่าง เกิดขึ้นกับคนของพระเจ้าซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณและหรือมีอะไรบางสิ่ง บางอย่างเกิดขึ้นกับพี่ - น้องสมาชิกของเราก็ตาม ในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อ ในฐานะที่เราเป็นคนของพระเจ้า เราจะต้องรู้นะครับว่า เราควรที่จะทำอะไรและเรานั้นไม่ควรที่จะทำอะไร

จากเหตุการณ์ตอนนี้เราพบว่าผู้เชื่อหรือคริสเตียนในยุคแรกนั้นเขาได้ทำจดหมายไปถึง K. เฮโรดให้ปล่อยตัว อ. เปโตรไหมครับ ? หรือพวกเขาพากันเดินประท้วงหรือก่อให้เกิดความวุ่นวายไหมครับ ? ผู้เชื่อในยุคแรกไม่ได้ทำเช่นนั้นเลย

จากเหตุการณ์ในตอนนี้ พระวจนะของพระเจ้าได้บันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนนั่นก็คือ พวกเขาเข้ามาหาพระที่นั่งแห่งพระคุณและพวกเขาได้ถวายชีวิตของพวกเขา เพื่อที่จะอธิษฐานต่อพระเจ้า เช่นเดียวกันพี่ - น้องที่รักครับ

1 ) ถ้าพี่ - น้อง คจ. นิมิใหม่ต้องการที่จะเข้ามาบุกเบิกคริสตจักรของพระเจ้าให้มาตั้งอยู่ที่ อ. อัมพวา จ. สมุทรสงคราม ซึ่งได้ชื่อว่ามีวัดมากที่สุดในประเทศไทยเมื่อเทียบกับจำนวนของประชากรที่มีอยู่ไม่ถึง 140 , 000 คน ซึ่งเราจะต้องยอมรับอย่างสัตย์ซื่อว่ามันเป็นเรื่องที่เกินสติปัญญา เกินกำลังและความสามารถของเรา พี่ - น้องก็จะต้องพากันเข้ามาหาพระที่นั่งแห่งพระคุณของพระเจ้า

2 ) ถ้าพี่ - น้องต้องการที่จะให้พระเจ้าช่วยพลิกสถานการณ์บางสิ่ง บางอย่างในการที่จะเข้ามาบุกเบิกพระราชกิจของพระเจ้าที่นี่ โดยเฉพาะในด้านของมิติในฝ่ายจิตวิญญาณพี่ - น้องก็จะต้องถวายชีวิตของพี่ - น้องในการที่จะอธิษฐานต่อพระเจ้า

พี่ - น้องที่รักครับ ผู้เชื่อในยุคแรกรู้ว่าพวกเขานั้นไม่มีอาวุธอะไรเลย ที่จะไปต่อสู้กับมารซาตานได้ หรือไม่มีอาวุธอะไรเลยที่จะไปต่อสู้กับทหารของกษัตริย์เฮโรดได้แต่สิ่งที่ผู้เชื่อในยุคแรกนั้นมีนั่นก็คือ การอธิษฐาน อาจจะกล่าวได้ว่า การอธิษฐานเป็นอาวุธเพียงชิ้นเดียวที่พระเจ้าได้ทรงทิ้งเอาไว้ให้กับผู้เชื่อในเวลานั้น

และผู้เชื่อในยุคแรกก็ได้ใช้อาวุธเพียงชิ้นเดียวนี้แหละ นั่นก็คือการอธิษฐาน ซึ่งเป็นอำนาจที่เหนือธรรมชาติต่อสู้กับอำนาจของ มาร ซาตานและผลของการต่อสู้นี้เราแพ้หรือว่าเราชนะครับพี่ - น้อง ? ( ชนะ ) ด้วยเหตุนี้นี่เองพี่ - น้องที่รัก ที่ทำให้เรานั้นจะต้องมีความเชื่อในฤทธิ์อำนาจหรือพลังของการอธิษฐาน      

            อย่างไรก็ตามพี่ - น้องที่รักครับ ผมพบว่ามีผู้เชื่อหลายคน เมื่ออ่านพระวจนะของพระเจ้ามาถึงตอนนี้แล้ว ต่างก็มักที่จะเกิดคำถามขึ้นมาภายในจิตใจว่าแล้วทำไมผู้เชื่อหรือคริสตจักรในยุคแรก ถึงไม่อธิษฐานเผื่อท่านยากอบด้วยเล่า เพราะกษัตริย์เฮโรดได้ฆ่ายากอบในทันที หรืออาจจะเกิดคำถามหรือความสงสัยขึ้นมาว่า ผู้เชื่อหรือคริสตจักรในยุคแรกได้อธิษฐานเผื่อผู้รับใช้ของพระเจ้าคนนี้ด้วยหรือเปล่า

หรือคงจะไม่ได้อธิษฐานเผื่อท่านยากอบกันหรอกมั้ง เพราะยากอบตายแต่เปโตร รอดเพราะฉะนั้นเขาคงไม่ได้อธิษฐานเผื่อยากอบอย่างแน่นอน นี่คือคำถามของผู้เชื่อหลายต่อหลายคนเมื่อเขาได้อ่านพระวจนะของพระเจ้ามาถึงตอนนี้

            และผมเป็นคนหนึ่งที่ถูกพี่ - น้องสมาชิกในคริสตจักรถามว่าอาจารย์ทำไมยากอบถึงตายแต่เปโตรถึงรอด อันนี้ผมตอบได้เลยว่า “ ผมไม่รู้ ”

หรือบางคนถามผมว่า อาจารย์ทำไม่เราอธิษฐานเผื่อคนนั้นเขาถึงหายโรค แต่เราอธิษฐานเผื่อคนนี้เขากับไม่หายโรค อันนี้ผมก็ตอบได้เช่นกันว่า “ ผมไม่รู้ ” และมนุษย์อย่างผมก็ไม่มีปัญญาพอที่จะรู้ได้ด้วย

พี่ - น้องฟังสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ให้ดีๆ นะครับ   สิ่งที่ผมจะพูดก็คือว่า การที่พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของเรานั้นอย่างไร หรือว่าเมื่อไหร่ หรือว่าจะช้าหรือจะเร็วนั้น ขอให้พี่ - น้องได้รู้และได้เข้าใจเถิดว่า มันเป็นความลึกลับอย่างหนึ่ง

ดังนั้นมนุษย์อย่างพี่ - น้องและผมซึ่งสวย รูปหล่อและหน้าตาดี และรวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกใบนี้ จึงไม่สามารถที่จะค้นหาตอบเกี่ยวกับการที่ พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของเรานั้นอย่างไรหรือว่าเมื่อไหร่...ได้

            เมื่อแบ่งปันมาถึงตรงนี้ ผมก็อดที่จะคิดถึงเรื่องของเรื่องนี้ไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาว่า แม่ของ Saint Augustine ที่มีชื่อว่า โมนิก้า ได้อธิษฐานเผื่อลูกชายของเขาที่ชื่อ Augustine ตั้งแต่เด็กๆ ทั้งนี้เพื่อให้ Augustine นั้นเป็นเด็กที่เชื่อฟังพระเจ้า แต่เมื่อ Augustine เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น พฤติกรรมต่างๆ ของเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ โมนิก้า ก็รู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก เพราะ Augustine ชอบทำตัวเป็นผู้ชายเจ้าสำราญ

            วันหนึ่ง โมนิก้า ได้อธิษฐานต่อพระเจ้าว่า ขออย่าให้ลูกชายของเขานั้นได้เดินทางไปกรุงโรม เพราะที่กรุงโรม โมนิก้า เกรงว่าจะยิ่งทำให้ เซนท์ ออกัสติน ฟุ้งเฟ้อมากขึ้น แต่แล้ววันหนึ่ง Saint Augustine ก็ได้มาบอกกับผู้เป็นแม่ว่าเขาจะไปกรุงโรม โมนิก้า จึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากว่าคำอธิษฐานของเขานั้นไม่เป็นผล

แต่ที่กรุงโรมนั้นเองพี่ - น้องที่รัก ทำให้ Augustine ได้พบกับคริสเตียนที่ดีมากคนหนึ่ง ทำให้ Saint Augustine กลับใจใหม่อีกครั้งหนึ่งและได้ถวายตัวเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า เป็นนักปราชญคริสเตียนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

ดังมนุษย์อย่างพี่ - น้องและผมจึงไม่สามารถที่จะตอบคำถามต่างๆ เกี่ยวกับการที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานหรือการที่พระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานนั้นได้

อย่างไรก็ตามขอให้พี่ - น้องได้รู้และได้เข้าใจเถิดว่า ไม่ว่าผลลัพธ์ของการตอบคำอธิษฐานของพระเจ้านั้นจะออกมาเช่นไร

1 ) ไม่ว่าจะถูกฆ่าตายเหมือนยากอบหรือรอดตายอย่างเปโตร แต่สุดท้าย ท้ายสุดนั่นก็คือทุกคนต้องตาย แตกต่างกันตรงที่ใครจะตายช้าหรือตายเร็วและแตกต่างกันตรงที่ตายแล้วใครจะได้ไปสวรรค์หรือไปนรกเท่านั้นเอง

2 ) เรา ซึ่งผมหมายถึงผู้เชื่อนั้น เราจะอยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้าเสมอหรือเราจะอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าเสมอ

เมื่อผมแบ่งปันพระวจนะคำของพระเจ้ามาถึงตรงนี้ และถ้าพี่ - น้องยังตามผมอยู่พี่ - น้องก็พอที่จะเข้าใจได้ว่า อำนาจในโลกนี้มี 2 ขั้วด้วยกัน นั่นก็คือ อำนาจของมาร ซาตานและอำนาจของคริสตจักร อำนาจของมาร ซาตานใช้กษัตริย์เฮโรดเป็นเครื่องมือ ส่วนอำนาจของคริสตจักรนั้นใช้การอธิษฐาน

อย่างไรก็ตามพี่ - น้องที่รักครับ คำอธิษฐานที่พระคัมภีร์ได้มีการบันทึกเอาไว้ในปลายข้อที่ 5 นั้น ทำให้เราทราบว่า นั่นไม่ใช่เป็นการอธิษฐานแบบธรรมดาๆทั่วไปและในกรณีของ อ. เปโตร นั้นก็คงจะอธิษฐานกันแบบธรรมดาๆ ก็คงจะไม่ได้ด้วยเช่นกัน

พระคัมภีร์ได้บันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนว่า คริสตจักรได้อธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยใจที่ร้อนรน คำนี้มีความหมายว่า สมาชิกทุกๆ คนมีความคิดอย่างเดียวกัน และรวมความคิดนั้นเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วนำความคิดหนึ่งเดียวกันนั้นมาถวายแด่พระเจ้า

ถ้าจะเปรียบให้ชัดเจน ก็เปรียบเหมือนกับสายกีตาร์ทุกสาย ที่ต่างถูกขึงตึงเท่ากันหมด เมื่อนักดนตรีดีดสายของกีตาร์มันจึงเกิดอะไรขึ้นครับพี่ - น้อง ? มันจึงเกิดเสียงที่ไพเราะฟังแล้วเสนาะหูขึ้นมาในทันที

คริสตจักรและสมาชิกทุกๆ คนของคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มเวลานั้นก็เช่นกัน พวกเขาได้รวมความคิดให้เหลือเพียงหนึ่งเดียว และถวายความคิดเพียงหนึ่งเดียวนั้นแด่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าดังนั้นพี่ - น้องจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า อ. เปโตร ออกจากคุกมาได้อย่างไร

สิ่งที่ผมอยากจะหนุนใจพี่ - น้องก็คือว่า ผมอยากที่จะให้บรรยากาศในการอธิษฐานของคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มในเวลานั้น ดำรงอยูท่ามกลางพี่ - น้องสมาชิก คจ.นิมิตใหม่ ที่กำลังเข้ามาบุกเบิกพระราชกิจของพระเจ้าที่ อัมพวา หรือออกไปบุกเบิกที่บางใหญ่ อยู่ในเวลานี้ ด้วยจิตใจที่ร้อนรนและด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ผมอยากให้พี่ - น้องได้มาดูพฤติกรรมของ อ. เปโตร กันสักนิดหนึ่งว่า ก่อนที่พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของคริสตจักรและพี่ - น้องในคริสตจักรนั้น อ. เปโตร อยู่ในอารมณ์ไหน

พระวจนะของพระเจ้าในปลายข้อที่ 6 บอกกับเราว่า เปโตรนอนหลับอยู่ระหว่างทหารสองคน ซึ่งนั่นหมายความว่า อ. เปโตร เขากำลังนอนหลับอย่างสบายๆ ท่ามกลางทหารที่คอยประกบเขาอยู่ถึงสองคน ซึ่งโดยแท้จริงแล้ว กษัตริย์เฮโรด นั้นจะสั่งฆ่าเขาเมื่อไหร่ก็ได้ อาจจะเป็นพรุ่งนี้ในตอนเช้าก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงตัวของ เปโตร เองนั่นแหละที่จะต้องอธิษฐานเผื่อตัวเองด้วยใจที่ร้อนรนแต่นี่ปรากฏว่าเขากับหลับสนิท

สิ่งที่น่าสนใจของบทเรียนนี้อย่างหนึ่งนั่นก็คือเรื่องของท่าที คำถามก็คือว่า ท่าทีของ อ. เปโตร ในตอนนี้ได้สอนอะไรกับเรา ให้ที่ประชุมเปิดไปที่ 1 ปต 5 : 7 และ 1 ปต. 4 : 19 แล้วอ่านพร้อมๆ กันด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

“จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย ” 1 ปต. 5 : 7

“ เหตุฉะนั้นขอให้คนทั้งหลายที่ทนทุกข์ทรมานตามพระประสงค์ของพระเจ้า จงประพฤติชอบและฝากวิญาณจิตของตนไว้กับองค์พระผู้สร้างผู้เที่ยงธรรมนั้นเถิด ” 1 ปต. 4 : 19

ท่าทีของ เปโตร ในตอนนี้สอนเราว่า ชีวิตของท่านเองนั้นได้ดำเนินไปตามอย่างที่ท่านได้สอนผู้เชื่อคนอื่นๆ เอาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งเมื่อแบ่งปันมาถึงตรงนี้พี่ - น้องที่รักครับ ผมก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสังคมไทยและสังคมคริสเตียนของเราในทุกวันนี้ เหตุเพราะสังคมไทยทุกวันนี้มีผู้ที่สอนคนอื่นอยู่เป็นจำนวนมาก

คำถามก็คือว่า จะมีสักกี่คนที่ได้ประพฤติและปฏิบัติตาม ในสิ่งที่ตนเองได้สอนผู้อื่นเอาไว้

คริสเตียนหลายต่อหลายคนเองก็เช่นกันที่อยากจะเป็นผู้ที่สอนคนอื่น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผิดและนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและดีมากๆ ที่เราต่างเสริมสร้างซึ่งกันละกัน แต่คำสอนของคริสเตียนคนนั้นจะขาดน้ำหนักไปในทันที ถ้าคริสเตียนคนนั้นไม่ได้ดำเนินชีวิตของเขาให้เป็นไปตามอย่างที่เขาได้สอนผู้อื่นเอาไว้ โดยเฉพาะชีวิตของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าหรือผู้ที่เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของคริสตจักรฯ

คำถามคือว่า ใครคือผู้รับใช้ของพระเจ้า ? คำตอบก็คือว่า ผู้ที่ได้รับบัพติศมาแล้วทุกคน คือ ผู้รับใช้ของพระเจ้า

เพราะฉะนั้นขอพระเจ้าช่วยเรา ที่ผู้เชื่อทุกๆ คนจะเป็นธรรมิกชนที่พระเจ้าจะทรงโปรดใช้การได้ และเป็นผู้ที่สอนคนหรือเป็นผู้ให้สติให้ปัญญากับคน และหรือเป็นผู้ให้ข้อแนะแนวคิดในการดำเนินชีวิต ทั้งในฝ่ายร่างกายและในฝ่ายจิตวิญญาณต่อผู้อื่น โดยมีชีวิตส่วนตัวดั่งคำสอนนั้นเหมือนดั่งชีวิตของ อ.เปโตร ( อาเมน )

จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

ประการที่ 3        อยู่ในข้อที่ 7 - 11 ให้ที่ประชุมอ่านพร้อมกันด้วยเสียงดังเชิญครับ

เราพบฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระวจนะของพระเจ้าในตอนนี้บอกกับเราอย่างชัดเจนและโดยละเอียดว่า อ. เปโตร นั้นออกมาจากคุกได้อย่างไร

พี่ - น้องที่รักครับ เบื้องหลังของการอธิษฐานนี้ทั้งหมด และดูเหมือนว่าพระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของพี่ - น้องสมาชิกในคริสตจักรแห่งนี้น่าจะอยู่ใน สดด. 133 ให้ที่ประชุมเปิดไปที่ สดด. 133 และอ่านพระวจนะของพระเจ้าในบทนี้พร้อมๆ กันด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

            และนี่คือ ผลลัพธ์แห่งการอธิษฐานด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 1 ) ที่ทำให้ อ. เปโตรพ้นคุกและรอดตาย 2 ) ที่ทำให้แผนงานของกษัริย์เฮโรดนั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนั่นหมายความว่า ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้ทำลายฤทธิ์อำนาจของมารซาตานลงอย่างสิ้นเชิง

และผมมีความเชื่ออย่างมั่นใจว่า ถ้าพี่ - น้องสมาชิกของ คจ. นิมิตใหม่ทุกๆ คนต่างอยู่ในบรรยากาศ   แห่งการอธิษฐานเผื่อพระราชกิจของพระเจ้าที่ อ. บางใหญ่หรือที่ อ. อัมพวา แห่งนี้ด้วยจิตใจที่ร้อนรนและด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างแท้จริง ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นอาจจะเหมือนกับเหตุการณ์ในตอนนี้ก็เป็นได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ฤทธิ์อำนาจของสิ่งที่เคยครอบครองคนที่ อ. บางใหญ่หรือครอบงำคนที่ อ. อัมพวา นี้อยู่จะถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ( อาเมน ) สง่าราศีและพระสิริของพระเจ้า จะเข้ามาแทนที่ฤทธิ์อำนาจเหล่านั้น และผมมีความเชื่อว่าถ้าท่านยังอธิษฐานเผื่อทั้ง 2 แห่งนี้ต่อเนื่องไปด้วยความเข้มข้นและเข้มแข็ง พระเจ้าอาจจะตอบคำอธิษฐานของพี่ - น้อง คจ.นิมิตใหม่ เกินกว่าที่พวกท่านทูลขอจากพระองค์ก็เป็นได้ ขอเชิญผู้ที่เปิดพระคัมภีร์ไวที่สุดเปิดไปที่ อฟซ. 3 : 20 และอ่านให้ที่ประชุมด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

พี่ - น้องที่รักครับ พระวจนะของพระเจ้าในข้อนี้ ได้ยืนยันกับเราอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าสามารถที่จะตอบคำอธิษฐานของพวกเรา เกินกว่าที่เราทูลขอหรือเกินกว่าที่พวกเราจะคาดคิดได้

อย่างไรก็ตามพี่ - น้องที่รักครับ พระวจนะของพระเจ้าใน กจ. 12 : 12 บอกกับว่า เมื่อท่าน อ. เปโตร พ้นจากคุกแล้ว ท่านก็ได้เดินไปยังบ้านของมารีย์แม่ของยอห์นในทันที ซึ่งที่บ้านหลังนั้นก็กำลังมีการอธิษฐานเผื่อท่าน อ. เปโตรกันอยู่พอดี

พอ อ. เปโตร เคาะประตู ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งออกมาดูและเขาจำเสียงนั้นได้ว่าเป็นเสียงของเปโตร แต่เขายังไม่ได้เปิดประตูปล่อยให้ท่าน อ. เปโตร ยืนรออยู่ข้างนอก แต่ได้วิ่งไปบอกพี่ - น้องที่กำลังอธิษฐานกันอยู่ด้วยใจที่ร้อนรน ซึ่งพวกเขาเชื่อไหมครับ ? พวกเขาไม่เชื่อ

เขาคิดว่าหญิงสาวคนนั้น คงจะเห็นทูตสวรรค์ประจำตัวของท่าน อ. เปโตร เสียมากกว่า เมื่อหญิงสาวนั้นบอกไม่ใช่แต่เป็นท่าน อ. เปโตรจริงๆ ถ้าในสมัยนี้เราก็จะต้องพูดว่าเป็นท่าน อ. เปโตร ตัวเป็นๆอะไรประมาณนั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังไม่เชื่อหาว่าหญิงสาวนั้นเป็นบ้าไปแล้ว

ระหว่างนั้นท่าน อ. เปโตร ก็ได้เคาะประตูข้างนอกอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู พวกเขาก็ได้พากันไปเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นท่าน อ. เปโตร พวกเขาก็อัศจรรย์ใจ และเมื่อท่าน อ. เปโตร ได้เล่าให้พวกเขาฟังว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าได้เป็นผู้พาเขาออกจากที่นั่น และนี่คือฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าหรือนี่คือสิ่งที่พระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นผู้กระทำ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมดนั้น ก็เพียงเพื่อที่จะบอกกับพี่ - น้องว่าสิ่งที่แย่ที่สุดในการอธิษฐานนั่นก็คือ การที่เราอธิษฐานแล้วเราไม่เชื่อ เราไม่เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานของพวกเรา

ยรม. 33 : 3พระวจนะของพระเจ้าตรัสว่า “ จงทูลเราและเราจะตอบเจ้า ”ซึ่งนั่นหมายความว่าพระเจ้าตอบเราไหมครับ ?พระเจ้าตอบเราอย่างแน่นอน มีเพียงกรณีเดียวเท่านั้นจริงๆ พี่ - น้องที่รักครับ ที่ท่านอธิษฐานแล้วพระเจ้าไม่ตอบ นั่นก็คือ ท่านไม่ได้ขอในพระนามของพระเยซู นอกเหนือจากนั้นพระเจ้าตอบเราทุกคำอธิษฐาน แต่เรานั่นแหละที่จะเข้าใจในสิ่งที่พระเจ้าตอบเราหรือเปล่า โดยเฉพาะความเข้าใจในมิติของฝ่ายจิตวิญญาณ

อีกประการหนึ่งที่สำคัญนั่นก็คือว่า เมื่อพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเราแล้ว เราทำใจยอมรับในสิ่งที่พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเราได้มากน้อยแค่ไหน อันนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญประการหนึ่ง และพี่ - น้องคิดว่ามีผู้เชื่อบางคนไหมครับ ? ที่ไม่สามารถทำใจที่จะยอมรับในสิ่งที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของพวกเขาได้

มธ. 6 : 8 พระคำของพระเจ้าบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า ในบางกรณีนั้นพระเจ้าได้ทรงตอบคำอธิษฐานของเรานั้นก่อนที่เราจะอธิษฐานด้วยซ้ำไป เช่น ในกรณีของท่าน อ. เปโตร ตอนนี้ด้วยเช่นกัน ที่พระเจ้าได้ทรงตอบคำอธิษฐานของพี่ - น้องในคริสตจักรเยรูซาเล็มก่อนที่พี่ - น้องในคริสตจักรในนั้นจะจบคำอธิษฐานหรือกล่าวคำว่าอาเมนด้วยซ้ำไป ( จริงหรือไม่จริง ) และในบางกรณีนั้น พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของพี่ - น้องในทันที เช่น กล่าวคำว่าอาเมนปุบตอบปับเลยในทันที

อย่างไรก็ตามพี่ - น้องที่รักครับ ผมพบว่าในหลายๆ กรณีหรือในหลายๆ คนนั้น พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของผู้เชื่อคนนั้น ภายหลังจากที่พวกเขาได้จากไปอยู่กับพระเจ้าแล้วก็มี เช่น ในกรณีของ ยอร์ช มูลเลอร์ เป็นต้น ซึ่งผมจะฝากเอาไว้เป็นการบ้านให้พี่ - น้องไปค้นคว้าหาอ่านกันเอาเอง

สรุปพระคำของพระเจ้าในตอนนี้นั่นก็คือ

  1. ฤทธิ์อำนาจของซาตานนั้นมีขีดจำกัด
  2. ฤทธิ์อำนาจของผู้เชื่อมีพลังทำให้เกิดผล
  3. ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้านำมาซึ่งผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ

 

Green City