ยูดาส คนเสียชาติเกิด

       คำเทศนาเรื่อง ยูดาส คนเสียชาติเกิด

                                                              

ในเช้าวันนี้จะอัญเชิญพระคำของพระเจ้า จากพระธรรมมธ. 26 : 47-56 ให้ที่ประชุมเปิดไปที่มธ. 26:47 - 56 และให้ที่ประชุมได้อ่านพร้อมกันด้วยเสียงที่ดังเชิญครับ

และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาที่จะแบ่งปันกับพี่ - น้องในเช้าวันนี้ว่า ยูดาสคนเสียชาติเกิด ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐานครับ

พี่ - น้องที่รักครับ   เมื่อขวบปีที่ผ่านมาสังคมไทยในเวลานั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ มันได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหรือ 2 ขั้วอย่างชัดเจน จริงหรือไม่จริงครับ ? กลุ่มหนึ่งก็คือ กลุ่มที่มีอำนาจของรัฐอยู่ในมือ อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ พวกประชาชน

พวกพี่ - น้อง พธม. ที่ออกมาเดินท้องถนนในเวลานั้น เขาไม่ได้ออกมากล่าวหาผู้มีอำนาจรัฐน๊ะครับพี่ - น้อง แต่พี่ - น้องประชาชนที่ออกมาเดินขบวนบนท้องถนนกลุ่มนี้ได้ออกมาชี้อย่างชัดเจนว่า

ฝ่ายกลุ่มอำนาจรัฐนั้นพยายามที่จะปกป้องพวกล้มล้างสถาบันกษัตริย์ และกำลังขายชาติ ขายแผ่นดินอยู่ในเวลานั้นโดยเฉพาะในกรณีของเขาพระวิหาร

เสียงเรียกร้องของพี่ - น้องประชาชนกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่จะตะโกนขับไล่ให้รัฐบาลชุดนั้นออกไป ๆ ๆ เท่านั้น แต่พวกเขายังมีเสียงตะโกนอื่นๆ ปะปนออกมาด้วย เช่น พวกขายชาติ ขายแผ่นดิน พวกหนักแผ่นดิน พวกเสียชาติเกิด เป็นต้น

พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อผมได้นำเอาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสภาพของสังคมไทยในเวลานั้นหรือในเวลานี้ มากลั่นกรองและใคร่ครวญกับพระคำของพระเจ้า ผมก็พบว่าเหตุการณ์ต่างๆเหล่านั้นมันได้เคยเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะในพระคัมภีร์ใหม่ และบุคคลในพระคัมภีร์ใหม่ที่อาจจะถูกชาวยิว ตะโกนขับไล่เหมือนกับคนไทยในเวลานี้ ว่าเป็นพวก ขายตัว ขายชาติ ขายแผ่นดิน ขายกษัตริย์ อกตัญญู คนเนรคุณ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ คนๆนั้นก็คือ สาวกของพระเยซูคริสต์ ที่มีนามว่า ยูดาสอิสคาริโอท

คำถามที่สำคัญก็คือว่าทำไมพระเยซูคริสต์ซึ่งทรงมีพระปรีชาญาณถึงได้เลือกคนทรยศคนนี้มาเป็นสาวก

บางคนให้คำตอบอย่างนี้ครับว่า ยูดาส ไม่มีสิทธิ์เลือก เขาถูกเลือกมาเพื่อให้ทำหน้าที่ในการขายพระเยซูอย่างเดียว เขาจึงไม่มีทางทำอย่างอื่นได้ เหมือนกับผู้กำกับการแสดงที่เขาได้เลือกตัวแสดงเอาไว้แล้วดังนั้นยูดาสต้องเล่นตามบทที่ได้ถูกวางเอาไว้

พี่ - น้องคิดอย่างไรครับ

พระคำของพระเจ้าใน ปฐก.2:15-17 ตรัสว่า พระเจ้าจึงทรงให้มนุษย์นั้นอยู่ในสวนเอเดนให้ทำและรักษาสวน พระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมดเว้น แต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว ผลของต้นไม้นั้นอย่ากิน เพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่

สุดท้ายแล้วอาดำกับเอวากินผลไม้นั้นไหมครับพี่ - น้อง ? กิน

ซึ่งนั่นหมายความว่า พระเจ้าได้ให้อิสระ ให้เสรีภาพในการตัดสินใจแก่เราว่าเราเลือกที่จะเชื่อฟังหรือไม่เชื่อฟัง

ซึ่งนั่นหมายความว่า พระเจ้าได้ให้อิสระ ให้เสรีภาพในการตัดสินใจแก่เราว่าเราเลือกที่จะทำดีหรือทำชั่ว

พี่ - น้องที่รักครับ การมีอิสรภาพ มีเสรีภาพ ที่พระเจ้าได้ให้กับมนุษย์ตั้งแต่แรกในตอนสร้างโลกนั้น นับเป็นพระพรอย่างแรกที่พระเจ้าทรงมอบให้แก่มนุษย์ ซึ่งถือว่าพระเจ้าได้ทรงให้เกียรติแก่มนุษย์ เมื่อพระเจ้าทรงให้เกียรติแก่เรา พระองค์ก็จะไม่เชิดเราเหมือนกับหุ่นละครโรงเล็ก

คำถามที่สำคัญก็คือว่า

ทำไมพระเยซูคริสต์ซึ่งทรงมีพระปรีชาญาณถึงได้เลือกคนทรยศคนนี้มาเป็นสาวก ? หลายคนให้คำตอบอย่างนี้ครับว่า พระองค์ทรงเลือกยูดาสอิสคาริโอทมาเป็นสาวกด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะให้ยูดาสนั้นมาขายพระองค์

พี่ - น้องคิดอย่างไรครับ

มีใครสักคนในที่นี้ไหมครับ ที่ตั้งใจจะเกิดมาอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อจะเป็นคนที่ทรยศคน ?

ดังนั้นมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกใบนี้ ไม่มีใครสักคนที่จะเกิดมาเพื่อจะเป็นคนทรยศคนและรวมทั้งยูดาสอิสคาริโอทคนนี้ด้วย

ในขณะเดียวกันยูดาส ก่อนหน้าที่ยูดาสจะถูกเลือกมาเป็น 12 สาวกของพระเยซูคริสต์นั้น ยูดาสอิสคาริโอทเอง เขาก็น่าที่จะเป็นคนที่สัตย์ซื่อหรือเป็นคนที่ใช้ได้มาก่อน

ดังนั้นเมื่อยูดาส ถูกเรียกให้มาเป็น 12 สาวกของพระเยซูคริสต์ สาวกอีก 11 คน ที่เหลือ ก็คงจะลงความเห็นว่า ยูดาสเป็นคนที่ใช้ได้ ยูดาสจึงได้รับมอบหมายให้เป็นเหรัญญิกของทีม

ดังนั้นขอให้พี่ - น้องได้รู้และได้เข้าใจเถิดว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้าไม่ได้เลือกคนทรยศมาเป็นสาวกของพระองค์ แต่เลือกคนบาปและรวมทั้งเลือกพวกเราทั้งหลายที่อยู่ใน ณ. ที่นี้ด้วยให้มาเป็นสาวกของพระองค์

พี่ - น้องที่รักครับ การทำหน้าที่เหรัญญิกหรือเป็นผู้ถือกล่องเก็บเงินของยูดาสในตอนแรกนั้นเป็นไปด้วยดี อีกทั้งยูดาสอิสคาริโอทคนนี้ ก็น่าจะเป็นสาวกที่ยิ่งใหญ่ขององค์พระเยซูคริสต์คนหนึ่งเหมือนอย่าง เปโตร , ยอห์นและยากอบด้วยเหมือนกัน ( ถ้าหากยูดาสเขาทำหน้าที่ๆได้รับมอบหมายนี้อย่างตรงไปตรงมา )

แต่เมื่อเงินในกล่องเก็บเงินเริ่มมากขึ้นๆๆและมากขึ้น พระคำของพระเจ้าใน กจ.1:25 ตรัสว่า ซึ่งได้หลงจากหน้าที่ไปยังที่ของตน พระคัมภีร์ชี้ให้เห็นว่าลักษณะนิสัยของยูดาสเริ่มที่จะแปรเปลี่ยนไป คำว่า แปรเปลี่ยนไปในที่นี้หมายถึง มันค่อยๆเป็นไปอย่างช้าๆทีละเล็ก - ทีละน้อยค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ

พี่ - น้องที่รักครับ คนติดยาเสพติดจะยาอะไรก็ตาม มันติดกันภายในวันเดียวไหมครับ ? มันไม่ได้ติดกันภายในวันเดียว มันค่อยๆติด ติดทีละเล็ก ทีละน้อย

เช่นเดียวกับความบาปชั่วของมนุษย์ มันเริ่มจากจุดเล็กๆ มันเริ่มจากบาปเล็กๆ น้อยๆ บาปน่ารักๆที่เรายอมอ่อนข้อ ที่เรายอมประนีประนอมกับมัน และเมื่อความบาปชั่วนั้นมันสะสมได้ที่แล้ว มนุษย์ก็พร้อมที่จะทำบาปที่ใหญ่กว่านั้นได้

ในขณะเดียวกันเมื่อเรารู้ว่า เราเริ่มที่จะติดยาเสพติดและถ้าในตอนแรกเราคิดจะเลิกยามันเลิกง่ายมั้ยครับพี่ - น้อง ? มันเลิกง่ายเพราะมันเพิ่งเริ่มติด

เช่นเดียวกันพี่ - น้องที่รักครับ ถ้ายูดาสเลิกจากพฤติกรรมใหม่คือ การหิวเงินหรือเห็นเงินเป็นพระเจ้า ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ไปสู่พฤติกรรมเดิมที่พระเยซูได้วางเอาไว้ให้กับเขา ยูดาสสามารถที่จะเลิกความบาปชั่วของเขาได้มั้ยครับพี่ - น้อง ? เลิกได้ แต่เขาไม่เลิก

ยูดาสเขาเลิกได้แต่เขาไม่เลิกนั่นก็เท่ากับว่า ยูดาสเปิดโอกาสให้กับการทดลองที่จะเข้ามาในชีวิตของเขา ให้ที่ประชุมอ่าน ยน. 12 : 1 - 8

พี่ - น้องที่รักครับ คำพูดที่ยูดาสได้พูดกับนางมารีย์นั้น ฟังดูแบบผ่านๆก็มีความน่าชมเชยเป็นอย่างมาก แต่แท้ที่จริงแล้วยูดาสได้ซ่อน ความโลภของเขาเอาไว้ในคราบของคนที่ มีใจเมตตาสงสาร ต่อคนยากจน หรืออาจจะจะกล่าวอีกนัยยะหนึ่งก็ได้ว่า ยูดาสได้ซ่อนความโลภของเขาเอาไว้ในคราบของนักบุญนั่นเอง

สมมติว่าถ้านางมารีย์มักดารา ซึ่งเป็นหญิงโสเภณีคนนี้ได้มอบน้ำหอม นาราดา ที่มีราคาแพงสูงถึงสามร้อยเหรียญเดนาริอันให้แก่ยูดาสแล้ว

พี่ - น้องคิดว่าเงินทั้งหมดที่ยูดาสได้มา เขาจะนำไปจ่ายเป็นค่าอาหารเลี้ยงแก่คนยากคนจนมั้ยครับ ? ในข้อที่ 6 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า เขาพูดอย่างนั้นมิใช่เพราะเขาเอาใจใส่คนจน แต่เพราะเขาเป็นหัวขโมย คือ เขาได้ถือกล่องเก็บเงินและได้ยักยอกที่ใส่ไว้นั้นไป ยูดาสเขาจะเก็บเอาไว้เอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เขาจะทำการคอรัปชั่นหรือทุจริตต่อหน้าที่เสียเองยูดาสจึงได้ล้มลงในจุดดีของเขาในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า

พระคำของพระเจ้าจึงได้กล่าวเตือนเราใน1คร.10:12 เหตุฉะนั้นคนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้วก็จงระวังให้ดีกลัวว่าจะล้มลง  

ยูดาสเขาเลิกได้แต่เขาไม่เลิกนั่นก็เท่ากับว่า ยูดาสเป็นผู้เปิดประตูเชิญชวนให้มาร - ซาตานเข้ามาครอบครองในชีวิตของเขา

ซึ่งตรงนี้นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้มาร - ซาตานประกอบกิจภายในจิตใจของเขา

ซึ่งตรงนี้นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ยูดาสได้กลายเป็นคนที่คิดคดทรยศต่อพระเยซู

เพราะฉะนั้นองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ไม่ได้เลือกคนทรยศมาเป็นสาวก แต่คนซึ่งถูกเลือกให้เป็นสาวกต่างหากที่กลับกลายมาเป็นคนทรยศพระเยซู

เมื่อพระเยซูทรงเห็นความชั่วร้ายในชีวิตของยูดาสพระองค์ก็ทรงเริ่มกระตุ้นเตือนยูดาสให้รู้ตัวในทันที ยน.6:70 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า เราเลือกพวกท่านสิบสองคนมิใช่หรือ และคนหนึ่งในพวกท่านเป็นมารร้าย

พี่ - น้องที่รักครับ นี่คือถ้อยคำที่พระเยซูทรงกล่าวกับสาวก แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ นี่คือคำเตือนที่พระเยซูทรงเตือนมาถึงยูดาสนั่นเอง และยูดาสคนนี้ก็รู้อยู่ภายในจิตใจของตนเองเป็นอย่างดีว่า นี่คือคำเตือนอย่างเฉพาะเจาะจงที่มีมาถึงเขา ยูดาสจึงเริ่มเกลียดพระเยซูเหตุเพราะพระเยซูตำหนิเขา

พี่ - น้องเคยถูกตำหนิมั้ยครับ เมื่อตอนผมเป็นผู้เชื่อใหม่ๆ ผมเคยถูกพระเจ้าตำหนิผ่านทางมานาประจำวัน และผมเองก็เคยถูกพระเจ้าตำหนิ ผ่านทางพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ซึ่งเป็นถ้อยคำของพระองค์และรวมทั้งผ่านทางบนธรรมาสน์ด้วย และผมเองก็เคยถูกคุณพ่อฝ่ายวิญญาณของผม ตำหนิ ติเตือนเป็นการส่วนตัวอีกต่างหาก

ถามว่า เมื่อผมมาเป็นผู้รับใช้พระเจ้าหรือมาเป็นศิษยาภิบาลแล้วยังถูกตำหนิอีกมั้ย ?

คำตอบก็คือว่า ผมยังถูกตำหนิอยู่ เหตุผลที่ผมยังถูกตำหนิอยู่ก็เพราะ

พระเยซูคริสต์ยังสร้างผมไม่เสร็จ เพราะฉะนั้นพี่ - น้องช่วยตำหนิผมในทางบวกเพื่อก่อร่างสร้างผมขึ้นต่อไป

แต่สิ่งที่สำคัญคืออะไรรู้มั้ยครับพี่ - น้อง ?ผมเรียนรู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการถูกตำหนิติเตือนนี้

เพราะการตำหนินี้มันมาจากความรักของพระเจ้า

เพราะการตำหนินี้มันนำมาซึ่งการกระตุ้นให้เราต้องคิด ต้องใคร่ครวญ

เพราะการตำหนินี้มันนำมาซึ่ง การที่เราสำนึกผิด และกลับใจเข้าหาพระเจ้า

เพราะการตำหนินี้มันมาจากความหวังดีของคนที่เติบโตกว่าหรือเป็นผู้ใหญ่กว่าในฝ่ายจิตวิญญาณ

ให้ที่ประชุมเปิดไปที่ 2 ซมอ.12 หัวข้อใหญ่คือหัวข้ออะไรครับ ?

นาธันต่อว่าดาวิด

2 ซมอ.12 ทำให้เราทราบว่าดาวิดกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ถูกนาธัน ซึ่งเป็นผู้เผยพระวจนะในสมัยของท่าน ได้เข้าเฝ้าเพื่ออะไร ? เข้าเฝ้าเพื่อต่อว่าเกี่ยวกับเรื่องที่กษัตริย์ดาวิดได้ส่ง อุรีอาห์ ซึ่งเป็นทหารเอกคนหนึ่งของดาวิดออกไปสู้รบจนถึงตาย

เพื่อที่จะยึด นางบัทเชบา ซึ่งเป็นภรรยาของอุรีอาห์ มาเป็นภรรยาของตน

นาธัน จึงบอกกับดาวิดว่า พระเจ้าจะทรงทำให้ราชบุตรที่เกิดจากนางบัทเชบา เสียชีวิตในวันที่เจ็ด

พระคำของพระเจ้าใน 2 ซมอ.12:13 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า ดาวิดจึงรับสั่งกับนาธันว่า เราได้กระทำบาปต่อพระเจ้าแล้ว ดาวิดทรงซบลงที่พื้นดินสารภาพและขอการชำระบาปนั้นกับพระเจ้า และวิงวอนขอชีวิตของราชบุตรที่จะเกิดกับนางบัทเชบา พระเจ้าจึงเว้นโซโลมอนให้กับดาวิด

ถ้าพี่ - น้องอยากทราบว่ากษัตริย์ดาวิด ได้สารภาพอะไรเอาไว้กับพระเจ้าบ้างและได้ขอการชำระอะไรไว้บ้างจากพระเจ้า พี่ - น้องก็สามารถที่จะดูได้จาก สดด. 51 ทั้งบท เพราะนั่นเป็นถ้อยคำที่ดาวิดได้พูดกับพระเจ้า และพระคัมภีร์ได้มีการบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน

สาวกระดับที่ใกล้ชิดหรือที่เรามักจะเรียกกันว่า สาวกวงในหรือสาวกชั้นในของพระเยซูนั้น มีคนหนึ่งที่ถูกพระเยซูตำหนิติเตือนมากเป็นพิเศษ มากกว่ายูดาสอีกหลายเท่านัก คนนั้นคือใครครับ ? เปโตร

เปโตรเป็นคนหนึ่งที่พระเยซูตำหนิติเตียนเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อเขากลับใจมาหาพระเจ้าและสัญญาว่าจะปรนนิบัติรับใช้พระองค์พระคัมภีร์ได้มีการบันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า เปโตรเป็นรากฐานที่สำคัญ ของแผ่นดินของพระเจ้า

ซึ่งมันตรงกันข้ามกับท่าทีของยูดาส ยูดาสเขากันตัวเองออกจากคำตำหนิของพระเยซู ยูดาสเขาไม่รับคำตำหนิที่หลุดออกมาจากปากของพระเยซู ยูดาสเขาไม่สนใจใยดีกับคำเตือนนั้น

นิสัยของยูดาสจึงเปลี่ยนไป จากขโมยเงินของพระเจ้าเป็นโกงและเริ่มจะทุจริตระดับนโยบาย

เมื่อยูดาสเขากันตัวเองออกจากคำตำหนิของพระเยซู ยูดาสเขาไม่รับคำตำหนิที่หลุดออกมาจากปากของพระเยซู ยูดาสเขาไม่สนใจใยดีกับคำเตือนนั้น

นิสัยของยูดาสจึงเปลี่ยนไปเริ่มจากขโมยทีละเล็กทีละน้อย เป็นมากขึ้นๆๆ จนกระทั่งขายพระเยซูในที่สุด

เมื่อยูดาสเขากันตัวเองออกจากคำตำหนิของพระเยซู ยูดาสเขาไม่รับคำตำหนิที่หลุดออกมาจากปากของพระเยซู ยูดาสเขาไม่สนใจใยดีกับคำเตือนนั้น

นิสัยของยูดาสจึงเปลี่ยนไปเริ่ม จากคนที่ไม่หิวเงินกลายเป็นคนที่หิวเงิน และหิวมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ไม่ได้เป็นพระเจ้าของเขาอีกต่อไปแล้ว แต่เงินได้กลายเป็นพระเจ้าของยูดาสไปเสียแล้ว

คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า เวลาพี่ - น้องถูกตำหนิผ่านทางมานาประจำวันก็ดี หรือผ่านการอ่านพระคัมภีร์ก็ดี และหรือถูกตำหนิผ่านทางคนของพระเจ้าก็ดี พี่ - น้องเลือกที่จะเป็นอย่างใคร 1. ดาวิด 2. เปโตรหรือท่านเลือกที่จะเป็นอย่างยูดาส

เมื่อยูดาส เขาไม่สนใจและไม่ใส่ใจต่อคำตักเตือน ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าแล้ว

พระคำของพระเจ้าใน มธ. 26 : 15-16 ตรัสว่า ถามว่า ถ้าข้าพเจ้าจะชี้พระองค์ให้ท่านจับท่านทั้งหลายจะให้ข้าพเจ้าเท่าไหร่ ฝ่ายเขาก็ให้เงินแก่ยูดาสสามสิบเหรียญ ตั้งแต่นั้นมายูดาสคอยหาช่องที่จะชี้พระองค์ให้แก่เขา

เมื่อยูดาส เขาไม่สนใจและไม่ใส่ใจต่อคำตักเตือน ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าแล้ว

1 ) มธ. 26:15-16 จึงทำให้เราทราบว่า ยูดาสได้เสพติดยาแห่งความโลภนี้เข้าไปอย่างเต็มขนาดแล้ว

2 ) มธ. 26:15-16 ทำให้เราทราบว่าสิ่งที่ ยูดาสทำนั้น เขาได้คิดเขาได้ไตร่ตรอง และเขาได้คำนวณอย่างดีแล้ว

3) มธ. 26 : 15 -16 ทำให้เราทราบว่า ยูดาส ในเวลานี้ ได้ตกเป็นพันธกรหรือตกเป็นเครื่องไม้ - เครื่องมือและหรือตกเป็นคนงานของมาร - ซาตานแทนการเป็นคนงานของพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว

พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อมาร - ซาตานมันต้องการที่จะจัดการกับเราหรือมันต้องการที่จะทำลายเรา มาร - ซาตานมันไม่ต้องไปหาเครื่องไม้ - เครื่องมือหรืออุปกรณ์อะไรให้มันยุ่งยากวุ่นวาย และมาร - ซาตาน มันก็ไม่ต้องใช้คนที่ต่อต้านพระเยซูคริสต์มาจัดการกับเรา มันใช้อะไรรู้ไหมครับ ? บางทีมาร - ซาตานมันก็ใช้วัตถุดิบที่มันหาได้จากในชีวิตของเรานั่นแหละเพื่อให้เราสวามิภักดิ์กับมัน

หลายคนก่อนมาเชื่อพระเจ้า ไม่เคยปรึกษาหารือกับใคร เป็นคนที่ตัดสินใจเอง พอมาเป็นคริสเตียนก็ไม่เคยที่จะปรึกษาหารือกับใครแม้กระทั่งพระเจ้า มาร - ซาตานมันก็จะใช้สิ่งนี้แหละให้เราสวามิภักดิ์กับมัน

หลายคนก่อนมาเชื่อพระเจ้าเป็นคนไม่เคยฟังใคร พอมาเป็นคริสเตียนก็ไม่ฟังใคร บางคนฟังเหมือนกันแต่ก็ไม่ทำตามพอมาเป็นคริสเตียนก็ฟังเหมือนกันแต่ไม่ทำตาม มาร - ซาตานมันก็จะใช้สิ่งนี้แหละให้เราสวามิภักดิ์กับมัน

หลายคนก่อนมาเชื่อพระเจ้ามีความฝันแบบนี้ อย่างนี้ พอมาเป็นคริสเตียนก็ยังฝันแบบนี้ อย่างนี้ มาร - ซาตานมันก็จะใช้สิ่งนี้แหละให้เราสวามิภักดิ์กับมัน

ชีวิตคริสเตียนของผู้เชื่อเหล่านี้จะไม่นิ่ง เพราะมาร - ซาตานมันจะแทรกความคิดทำให้ชีวิตของเขานั้นมีปัญหาอยู่โดยตลอด

คริสตจักรของพระเจ้าบางที่ บางแห่ง ที่มันแตกแยกกันออกไปบางคริสตจักรนั้นมาร - ซาตานมันไม่ได้ใช้คนข้างนอกโบสถ์นะครับ ที่เป็นตัวทำให้คริสตจักรแตกแยกกัน แต่มันใช้คริสเตียนในโบสถ์เนี่ยแหละ เป็นตัวทำให้เกิดการแตกแยกขึ้นมา

ยิ่งถ้าคริสตจักรไหนพี่ - น้องไม่ได้รับการปลูกฝังให้อยู่บนพื้นฐานของพระวจนะคำของพระเจ้าแล้วคริสตจักรนั้นก็ยิ่งไปกันใหญ่เลย

จากเหตุการณ์นี้ จะเห็นได้ว่ามาร - ซาตาน มันใช้คนในหรือใช้คนใกล้ตัวของพระเยซูให้เป็นพันธกรของมัน เหตุเพราะว่าคนใกล้ตัวของพระเยซูอย่างยูดาสนั้น เขารู้ข่าวความเคลื่อนไหวของพระเยซูเป็นอย่างดี ไม่ว่าพระเยซูคริสต์จะไปทำอะไร ที่ไหน ตอนไหน อย่างไร ยูดาสผู้ทรยศคนนี้เขารับรู้และรับทราบมาโดยตลอด ยูดาสรู้แม้กระทั่งเวลาใดว่าพระองค์จะอยู่ ณ. สถานที่แห่งใด

ถามว่า ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่เศร้าใจขึ้นที่สวนเกทเสมนีนั้น พระเยซูทรงรู้ล่วงหน้าหรือ

ยน.13:10 ผู้ที่อาบน้ำแล้วไม่จำเป็นต้องชำระกายอีก ล้างแต่เท้าเท่านั้น เพราะสะอาดทั้งตัวแล้ว พวกท่านก็สะอาดแล้วแต่ไม่ใช่ทุกคน

ยน.13:18 เรามิได้พูดถึงพวกท่านสิ้นทุกคน เรารู้จักผู้ที่เราได้เลือกไว้แล้ว แต่จะเป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า ผู้ที่รับประทานอาหารของเรา ได้ยกส้นเท้าใส่เรา

มก.14:18 เมื่อกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ พระเยซูจึงตรัสแก่เขาว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะอายัดเราไว้ คือคนหนึ่งที่นั่งรับประทานอาหารอยู่กับเรานี่แหละ

คำตอบก็คือ พระเยซูทรงรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์

คำถามต่อมาถามว่า แล้วทำไมพระเยซูถึงไม่จัดการกับยูดาสในเวลานั้นซึ่งถ้าจะทำก็ทำได้อย่างง่ายได้ แต่พระองค์ไม่คิดจะทำอย่างนั้นกับยูดาส

สิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำนั่นก็คือสิ่งดี 2 อย่าง นั่นก็คือ การให้ขนมปังกับน้ำองุ่นและการชำระเท้าแก่ยูดาส

ซึ่งนั่นหมายความว่า ยูดาส ได้รับพระคุณจากพระเจ้า

ซึ่งหมายถึง การที่พระเยซูคริสต์ได้ให้โอกาสกับยูดาส ในการที่จะกลับใจใหม่แต่เขากลับปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านพ้นไป อย่างไม่สนใจ ใยดี

เช่นเดียวกับผู้เชื่อคริสเตียนบางคนในเวลานี้ ที่มาคริสตจักรของพระเจ้าหรือมาโบสถ์ในวันอาทิตย์ซึ่งได้รับพระคุณของพระเจ้าผ่านทางพี่ - น้องในคริสตจักร แต่เขายังไม่ได้กลับใจใหม่อย่างแท้จริง แถมกับปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านพ้นไปอย่างไม่สนใจใยดี ไม่เห็นพระคุณของพระเจ้าอยู่ในสายตา เพราะฉะนั้นอย่าให้พี่ - น้องมีท่าทีอย่างเดียวกันนี้แบบยูดาสคนเสียชาติเกิดคนนี้

ยูดาส ได้โอกาสในการกลับใจใหม่จากพระเยซู แต่เขากลับปล่อยให้โอกาสนั้น ผ่านไป

ยูดาส นำความไว้ใจที่พระเยซูทรงมอบให้กับเขา ไปบอกกับศัตรูและเป็นผู้นำศัตรูมาที่สวนเกทเสมนี และเป็นผู้นำเสนอวิธีการให้กับศัตรูอีกด้วยว่า ถ้าเขาจุบผู้ใดผู้นั้นแหละคือพระเยซู

พี่ - น้องที่รักครับ ผมเชื่อว่าในชีวิตของพระเยซูเจ้านั้น ไม่มีอะไรที่จะทำร้ายจิตใจของพระเยซูได้มากกว่า ภาพที่พระเยซูได้เห็นถึงคนๆหนึ่ง ที่ได้รับโอกาสที่ดีที่คนอื่นไม่เคยได้รับจากพระเยซูแต่ในเวลานี้เขากลับมาเป็นผู้ทรยศพระองค์

เมื่อพระเยซูต้องเผชิญหน้ากับยูดาส แทนที่พระเยซูจะเรียกยูดาสว่า ไอ้คนทรยศ ไอ้คนสารเลว ไอ้คนขายชาติ ไอ้คนขายกษัตริย์ พระเยซูทรงเรียกยูดาส อย่างนั้นไหมครับ

พระคำของพระเจ้าใน มธ.26:50 ตรัสดังนี้ว่า พระเยซูได้ตรัสกับเขาว่า สหายเอ๋ยมาที่นี่ทำไม พระเยซูทรงมองที่ตาของยูดาส แล้วทรงเรียกยูดาสว่า เพื่อน แล้วพระเยซูถามยูดาสว่า มาที่นี่ทำไม

พี่ - น้องที่รักครับ นี่คือความรักครั้งสุดท้ายที่พระเยซูทรงแสดงออกมายังยูดาส เพื่อจะนำเขาให้กลับใจใหม่

หลายคนบอกว่า ความรักของพระเยซูที่มีต่อยูดาสในครั้งนี้ล้มเหลว

พี่ - น้องคิดอย่างไรครับ ? ใครคิดว่าล้มเหลวยกมือ ใครคิดว่าไม่ล้มเหลวยกมือ

พี่ - น้องฟังให้ดีๆ น๊ะครับ พระเจ้าทรงสร้างเราขึ้นมาพระเจ้าทรงให้เกียรติแก่เรา ไม่ใช่สร้างเราขึ้นมาเพื่อให้เราอยู่ภายใต้อาณัติของพระองค์

ดังนั้นพระเยซูไม่ห้ามใจของเราถ้าเราไม่ต้องการที่จะกลับใจใหม่พระองค์ก็ไม่ฝืนใจของเรา

พระคำของพระเจ้าใน รม. 1:24 ตรัสดังนี้ว่า เหตุฉะนั้น พระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาให้ประพฤติอุลามากตามตัณหาราคะในใจของเขา ให้เขากระทำสิ่งซึ่งน่าอัปยศทางกายต่อกัน ในพระธรรมโรม 1 นั้นมี 3 ครั้ง ที่พระคำของพระเจ้าตรัสว่า ทรงปล่อยเขาไป

พ่อ - แม่ในฝ่ายโลกหลายต่อหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ ถ้าลูกของเขามันดื้อด้าน พูดก็ไม่เชื่อฟัง มันสุดที่จะเลวหรือเหลือว่าขอจริงๆ

พี่ - น้องทราบมั้ยครับว่า พ่อ - แม่บางคนนั้นไม่เอาลูกไว้สืบสกุลนะครับ

ฆ่าได้ฆ่า ยอมติดคุกเองเลย พ่อ - แม่แบบนี้มีไหมครับพี่ - น้อง ?

พ่อ - แม่ บางคนก็ตัดหางปล่อยวัด บางคนนิสัยเสียที่บ้านแต่เอามาดัดสันดานกันที่โบสถ์

พ่อ - แม่บางคน ถ้าลูกไปทำผิดอะไรมาก็ให้ตำรวจจัดการไปได้เลย พ่อ - แม่ แบบนี้มีไหมครับพี่ - น้อง ? เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไรครับ

เพราะลูกมันตัดสินใจไม่ยอมเชื่อไม่ยอมฟังพ่อ - แม่ คนที่เป็นพ่อ - แม่ก็อืมระอา ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ทำอย่างเมื่อสักครู่เนี่ยแหละครับ  

พี่ - น้องฟังให้ดีๆนะครับ พระเยซูคริสต์ไม่ได้ทิ้งยูดาสนะครับ และพระองค์ก็จะไม่ละทิ้งใครทั้งนั้น แต่เมื่อยูดาสได้ตัดสินใจอย่างชัดเจนที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า

ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าก็ยอมที่จะให้ยูดาสตัดสินใจอย่างที่เขาอยากตัดสินใจ เช่นเดียวกันพี่ - น้องที่รักครับ พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา แต่เรานั่นแหละที่เป็นคนทอดทิ้งพระเจ้า

ผู้เชื่อหลายต่อหลายคน ก็เป็นเหมือนกับยูดาสนั่นแหละ ที่อยากจะเดินในทางที่ตัวเองอยากเดิน พระเจ้าจะว่าอย่างไร พระเจ้าจะเอาด้วยหรือไม่เอาด้วย กูไม่สน ดังนั้นพระเจ้าก็ยอมที่จะให้เราเดินในทางที่เราอยากเดิน

มีผู้รับใช้ของพระเจ้าหลายคนรวมทั้งศิษยาภิบาลอาวุโสของเราด้วย ที่ต้องปล่อยให้พี่ - น้องสมาชิกเดินในทางที่พี่ - น้องสมาชิกอยากเดินทั้งๆที่เราก็รู้ว่าหนทางที่พี่ - น้องสมาชิกจะเดินนั้นจะเป็นหรือจะจบอย่างไร

1.แต่เราก็ต้อง ปล่อยเขาไป ไม่ใช่ไปที่ชอบๆ นะครับ แต่เราต้องปล่อยเขาไปในที่ๆเขาอยากจะไป

2.แต่เราก็ต้อง ปล่อยเขาไป ไปทำในสิ่งที่เขาอยากทำหรือทำตามที่ใจของเขาปรารถนา

เช่นเดียวกับยูดาสอิสคาริโอท ที่เขาเองนั้นมีสิทธิ์ที่จะรับความรักครั้งสุดท้ายของพระเยซูหรือเลือกที่จะปฏิเสธความรักครั้งสุดท้ายที่พระเยซูทรงหยิบยื่นให้กับเขา

ในที่สุดเราก็พบว่ายูดาสเขาเลือก ที่จะปฏิเสธความรักครั้งสุดท้ายของพระเยซู ด้วยการจุบพระเยซู พระเยซูจึงตรัสถามกับยูดาสว่า ยูดาสคุณจะขายบุตรมนุษย์ด้วยการจุบหรือ ซึ่งยูดาสนั้นเขายังไม่ได้มีโอกาสที่จะตอบคำถามนี้แก่พระเยซู เพราะพลันใดนั้นเอง พวกทหารของโรมันก็พากันกรูเข้าไปจับพระเยซู เหตุการณ์ 12 ชั่วโมงสุดท้ายซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมากที่สุดก็ได้เกิดขึ้นที่สวนเกทเสมนี

เมื่อยูดาสเขาได้เห็นถึงผลลัพธ์ ในสิ่งที่เขาได้กระทำต่อพระเยซูต่อหน้าต่อตาของเขาแล้ว รวมทั้งเขาได้เห็นถึงผลลัพธ์ในสิ่งที่เขาได้รับด้วยตัวของเขาเอง นั่นก็คือ การที่เขาถูกประณามหยามเหยีดว่าเป็นไอ้คนเลว ไอ้คนขายชาติ ไอ้คนทรยศ ไอ้คนเสียชาติเกิด           ยูดาสเขาจึงอยากที่จะแก้ไขในสิ่งที่เขาได้ทำ ยูดาสเขาจึงแก้ไขปัญหา นี้ด้วยการเอาเงินที่ได้มานั้นไปคืนให้กับพวกปุโรหิตย์ แต่พวกปุโรหิตย์รับคืนไหมครับ ?ไม่รับคืน ยูดาสจึงทิ้งเงิน 30 เหรียญเดนาริอันไว้ที่บนพื้นในพระวิหาร อาการของยูดาสในตอนนี้ คือ อาการของคนที่เงินไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย

และในเวลาที่มืดสนิท ซึ่งมันไม่ใช่เพียงแค่ท้องฟ้าเท่านั้นที่มืดสนิทเท่านั้น แต่มีจิตใจของใครคนหนึ่งได้มืดสนิทตามไปด้วย และคนๆนั้นก็คือ ยูดาสอิสคาริโอทนั่นเอง หนทางสุดท้ายที่ยูดาสคนที่ปฏิเสธพระเยซูเลือกนั่นก็คือ การแขวนคอตายซึ่งถ้าพระเยซูทรงอยู่ด้วยกับเขาในเวลานี้ พระเยซูก็ไม่สามารถที่จะช่วยเขาได้เพราะเขาเลือกที่จะเดินในทางของเขาเอง

สรุปพระวจนะของพระเจ้าในเช้าวันนี้คือ

1) ให้เราตระหนักว่าพระเจ้าเรียกเราเพื่อปรนนิบัติรับใช้พระองค์

2) อย่าหลงไปจากหน้าที่ๆพระเจ้าได้ทรงมอบหมายให้กับเรา ไปกับงานในฝ่ายโลกจนเกินไป ซึ่งเป็นการเพิ่มเมล็ดแห่งความบาปของยูดาสในชีวิตของเรา

3) ไวต่อกิจการของมาร - ซาตานถ้าพี่ - น้องช้าพี่ - น้องจะตกเป็นเครื่องมือของมัน

4) ไวต่อการสารภาพความบาปผิดนั้นและรีบกลับใจมาหาพระเจ้า

5) เรียนรู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการถูกตำหนิ ติเตียน

6) ใส่ใจในพระคุณ ความรัก ของพระเจ้า

7) เดินในทางของพระเจ้ามากกว่าที่จะเดินในทางของตนเอง  

Green City