มาแล้วแต่ยังมาไม่ถึง

   คำเทศนาเรื่อง : มาแล้วแต่ยังมาไม่ถึง

      

ข้อพระคัมภีร์ที่จะใช้เป็นกุญแจในการแบ่งปันกับพี่ - น้องในเช้าวันนี้ จะอยู่ในพระธรรม 2 ทมธ. 3:1- 9 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า แต่จงเข้าใจข้อนี้ คือว่าในสมัยจะสิ้นยุคนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา อกตัญญู ไร้ศีลธรรม ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ คนเช่นนั้นท่านอย่าคบ เพราะในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนที่แอบไปตามบ้าน แล้วลวงหญิงที่เบาปัญญาหนาด้วยบาปและหลงใหลไปด้วยตัณหาต่างๆไปเป็นเชลย หญิงพวกนี้จะฟังทุกคนที่พูด แต่ไม่อาจที่จะเข้าถึงหลักแห่งความจริงได้เลย ยันเนสกับยัมเบรส์ได้ต่อต้านโมเสสฉันใด คนเหล่านี้ก็ต่อต้านความจริงฉันนั้น เขาเป็นคนใจทรามและในเรื่องความเชื่อนั้นเขาใช้ไม่ได้เลย แต่เขาจะไปได้กี่น้ำ เพราะความโง่ของเขาจะปรากฏแก่คนทั้งปวง เช่นเดียวกับความโง่ชองชายสองคนนั้น และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า “มาแล้วแต่ยังมาไม่ถึง” ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ใคร่ครวญและพิจารณาถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของเรา ผมพบว่า ในช่วงที่ผมเป็นเด็กนั้น โลกของเราใบนี้ จะเผชิญกับภัยทางธรรมชาติอยู่เพียง 4 ประเภทด้วยกัน ซึ่งได้แก่ อัคคีภัย   อุทกภัย   วาตภัยและภัยจากการสงคราม

อย่างไรก็ตามในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผมพบว่าโลกของเราไม่เพียงแต่จะเผชิญกับภัยทั้ง 4 ประเภท ที่ได้กล่าวมาแล้วเมื่อสักครู่เท่านั้น ในปัจจุบันนี้ โลกของเราต้องเผชิญกับ ภัยจากภาวะโลกร้อน ภัยจากภาวะเศรษฐกิจและรวมทั้งต้องเผชิญกับภัยพิบัติจากการก่อการร้ายจากมนุษย์ เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งในแต่ละครั้งที่เกิดภัยพิบัติต่างๆขึ้นมานั้น มันได้นำมาซึ่งความสูญเสียอย่างที่เราไม่สามารถประเมินค่าของมันได้

ล่าสุดภัยจากวาตภัยหรือภัยจากลมพายุ ได้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐฯ พายุทอร์นาโดจำนวน 25 ลูก ได้เรียงหน้าถล่มรัฐโอคลาโฮมาและรัฐอาร์คันซอ รัฐบาลสหรัฐฯต้องประกาศให้ประชาชนต้องออกจากเมืองเป็นการชั่วคราว

ล่าสุดภัยจากอุทกภัยหรือภัยจากน้ำได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยของเรา คนไทย 23 จังหวัดต้องเผชิญกับความเดือดร้อน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้ชื่อว่าต้องตะบันน้ำกินปีนี้น้ำก็ท่วม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ล่าสุดภัยจากเศรษฐกิจหรือการเงินก็ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมาที่ประเทศสหรัฐฯบริษัทการเงินที่มีชื่อว่า เลห์แมน บราเธอรส์ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินอันดับที่ 4 ของประเทศสหรัฐฯ ต้องขอรับการช่วยเหลือจาก IMF และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบุช ได้ให้สัมภาพกับสำนักข่าว AP ว่า ระบบเศรษฐกิจของโลกกำลังเข้าสู่ทางอันตราย

ล่าสุดภัยจาก การก่อร้าย ซึ่งเกิดขึ้นโดยน้ำมือของมนุษย์ได้เกิดขึ้นที่โรงแรม เมอร์รี่ออท กรุงอิสลามาบัด ประเทศ ปากีสถาน โรงแรมทั้งโรงแรมไม่เหลืออะไรเลย

ล่าสุดภัยจาก ภาวะโลกร้อน ก็ได้ทำให้ ปลาวาฬยักษ์ ที่มีชื่อว่า บรูด้า 4 ตัว ความยาวขนาด 8 เมตร ได้ว่ายเข้าใกล้ชายหาดบางแสน ทำให้คนที่มีอาชีพประมง รู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

พี่ - น้องที่รักครับ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาระดับโลกหรือระดับประเทศก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นได้พยายามที่จะหาทางแก้ไข แต่ก็น่าแปลกใจที่แก้ปัญหาอย่างไร ปัญหาเหล่านั้นก็ดูเหมือนว่ายังคงอยู่ ดูหมือนว่าปัญหานั้นก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างเสมอ และที่สำคัญปัญหาเหล่านี้ นับวันยิ่งจะถี่ขึ้นๆ และนับวันจะรุนแรงมากขึ้น และทุกคนที่อยู่ในโลกก็จะหนีไม่พ้นเหตุการณ์เหล่านี้และนี่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ให้เรารู้ว่า เวลาของยุคสุดท้ายได้ใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น

และเมื่อยุคสุดท้ายใกล้จะสิ้นสุดอย่างแท้จริง สิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นโดยพร้อมๆกันทั่วโลก ความโกลาหลครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นทั่วโลก คริสเตียนเราเรียกว่า ความโกลาหลครั้งใหญ่นั้นว่า กลียุคเมื่อสิ้นยุค

พี่ - น้องที่รักครับ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกนี้ หลักๆมีเพียงปัญหาเดียวเท่านั้น แต่จากเพียงปัญหาเดียวเนี่ยแหละ มันได้ก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาอีกเป็นล้านๆปัญหา และปัญหาเดียวที่ว่านี้นั่นก็คือการที่มนุษย์นั้นไม่เชื่อฟังพระเจ้า

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นเป็นความบาป

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นคือการที่มนุษย์ทอดทิ้งพระเจ้า

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นคือการที่มนุษย์ต่อสู้กับพระเจ้า

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นคือการที่มนุษย์ไม่ยำเกรงพระเจ้า

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นคือการที่มนุษย์ได้ปฏิเสธพระเจ้า

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นคือการที่มนุษย์นั้นมีใจที่กบฏต่อพระเจ้า

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นคือการที่มนุษย์วางใจตัวเองมากกว่าพระเจ้า

การที่มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นคือการที่มนุษย์ขาดการถวายเกียรติแด่พระเจ้า

พี่ - น้องที่รักครับ มนุษย์ทั้งในอดีตที่ผ่านมาและมนุษย์ในปัจจุบันนี้ ต่างได้วางใจและพอใจกับสิ่งสารพัดวัตถุ และเข้าใจผิดว่าการที่มนุษย์ได้มีทรัพย์สินเงินทอง ไว้ครอบครองเป็นจำนวนมากนั้นเป็นเครื่องมือชี้วัดความสำเร็จ ท่าทีของมนุษย์เช่นนี้นี่เอง จึงเป็นที่มาของคำว่าสังคมวัตถุนิยม พระคำของพระเจ้าใน ยรม.5:25 และ ยรม.5:30 ตรัสดังนี้ว่า

สิ่งดีๆได้มลายหายไป ยรม.5:25 สิ่งที่ตกตะลึงหวาดเสียวเกิดขึ้นแก่แผ่นดินยรม.5:30 ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นคริสเตียน เราต้องรู้และเราต้องเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่านี่เป็นสัญญาเตือนที่มาจากพระเจ้า อีกทั้งเราต้องรู้ว่าเป็นข้อความเตือนที่พระเจ้าส่งมาถึงพวกเราบางคนหรือทุกคนครับพี่ - น้อง ? เป็นข้อความเตือนที่พระเจ้านั้นส่งมาถึงผู้เชื่อหรือคริสเตียนทุกคนว่าพระองค์นั้นเสด็จมาแล้ว ใกล้แล้ว แต่ยังมาไม่ถึง ( อาเมน )

ดังนั้นในระหว่างที่พระองค์ยังมาไม่ถึง ให้เราอยู่ในท่าทีอะไรครับพี่ - น้อง ? ให้เราอยู่ในท่าทีของการอธิษฐานและให้เราอยู่ในท่าทีในการปรนนิบัติรับใช้พระองค์ร่วมกัน ( เอเมน )

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 1 โยเอล 2 : 28 - 32 ต่อมาภายหลังจะเป็นอย่างนี้ คือเราจะเทพระวิญญาณของเรามาเหนือมนุษย์ทั้งปวง บุตรชายบุตรหญิงของพระเจ้าทั้งหลายจะเผยพระวจนะ คนชราของเจ้าจะฝันและคนหนุ่มของเจ้าจะเห็นนิมิต ในกาลครั้งนั้น เราจะเทพระวิญญาณของเรามาเหนือกระทั่งคนใช้ชายหญิง เราจะสำแดงกลางอัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนดิน เป็นเลือดและไฟและลำควัน ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืด ดวงจันทร์เป็นเลือด ก่อนวันใหญ่ยิ่งและน่าสยดสยองของพระเจ้ามาถึง และอยู่มาจะเป็นอย่างนี้ คือ ผู้ที่ร้องออกออกพระนามของพระเยโฮวาห์จะรอด เพราะจะมีคนรอดพ้นในภูเขาศิโยนและในเยรูซาเล็มตามที่พระเจ้าตรัสไว้ และในพวกคนที่รอดนั้นจะมีบรรดาบุคคลที่พระเจ้าทรงเรียกด้วย

ประการที่ 1 เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้ายแน่นอน

ผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าที่มีชื่อว่า โยเอล ได้พยากรณ์ถึงสภาพการณ์หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดยุคสุดท้ายขึ้นในโลกของเรา ว่ามันจะเกิดขึ้นในลักษณะอย่างนี้ อย่างนี้และอย่างนี้ขึ้นมา และคำพยากรณ์ของผู้เผยพระวจนะโยเอลคนนี้ได้สำเร็จและเป็นจริง

เหตุเพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าได้เสด็จมาเยือนผู้เชื่อทั้งหลายในวัน เพ็นเทคอสต์ ซึ่งพระคัมภีร์ก็ได้มีการบันทึกไว้ใน หนังสือกิจการ 2 ซึ่งนั่นหมายความว่า ยุคสุดท้ายของพระเจ้านั้น ไม่ได้เพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา แต่ยุคสุดท้ายของพระเจ้าได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วัน เพ็นเทคอสต์ วันนั้นเป็นต้นมา

ในขณะเดียวกันพระธรรม 5 ข้อแรกของบทที่ 3 ที่เราได้อ่านร่วมกันนี้ ดูจะสอดรับและสอดคล้องกับสถานการณ์ในยุคสมัยปัจจุบัน รวมทั้งดูจะสอดรับและสอดคล้องกับพฤติกรรมของคนในสังคมที่ไม่มีพระเจ้าเป็นอย่างมาก

จากพระวจนะของพระเจ้าที่ได้กล่าวมาโดยทั้งหมด เราจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เวลานี้เราอยู่ในยุคสุดท้ายหรือไม่ เราอยู่ในยุคสุดท้ายหรือไม่ครับพี่ - น้อง ? เราอยู่ในยุคสุดท้ายของพระเจ้ามาเป็นพันๆปีแล้ว และเวลาที่เหลืออยู่ของโลกใบนี้ นับวันก็จะน้อยลงไปทุกที

และเหตุนี้นี่เองที่เป็นเหตุทำให้อัครสาวกของพระเยซูคริสต์ทั้ง 11 คนและอีก 1 อัครทูตคือ อ. เปาโล ได้เร่งมือที่จะทำพระราชกิจของพระเจ้าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และชื่อของพวกเขาทั้งหลายก็ได้ถูกจารึกเอาไว้เคียงคู่กับองค์พระเยซูคริสต์อย่างเสมอมา

ผมขอบคุณพระเจ้า ที่ปัจจุบันนี้ผู้นำคริสเตียนทั้งในระดับโลกและผู้นำคริสตจักรในระดับประเทศ รวมทั้งผู้เชื่อที่เติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ ทุกคนต่างรีบเร่งปรนนิบัติรับใช้พระเจ้ากันอย่างเอาจริงเอาจังเหมือนกับพวกอัครทูตในยุคแรก ( อาเมน )

ถ้าในยุคสุดท้ายนี้ พี่ - น้องคนใดไม่อยากตกสำรวจรายชื่อหรือต้องการที่จะจารึกชื่อของพี่ - น้องไว้ ให้พี่ - น้องรีบเร่งปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอย่างเอาจริงเอาจังเสียตั้งแต่วันนี้

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่าร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 2 2 ทมธ. 2 - 4 เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา ไร้มนุษย์ธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า

ประการที่ 2 เราพบลักษณะจิตใจของมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุค

พระคัมภีร์บอกกับเราอย่างชัดเจนถึง ลักษณะจิตใจของคนหรือมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุคนี้ คือ เขาจะรักพระเจ้าน้อยลงซึ่งโดยแท้จริงแล้วพระเจ้าต้องการที่จะให้เราทั้งหลายรักพระองค์แบบไหนครับ ?

มก12:30 และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่านด้วยสุดความคิดและสุดกำลังของท่าน

พระเจ้าต้องการให้เรารักพระองค์แบบสุดๆ พี่น้องที่รักครับ ? การที่เรารักพระเจ้าแบบสุดๆ นั้นเป็นการนมัสการพระเจ้าอย่างหนึ่ง การที่เรารักพระเจ้าแบบสุดๆอย่างนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องตกเป็นทาสของมาร ซาตาน ที่มันจะไม่ใช้เนื้อหนังของเราให้ทำตามใจของเรา ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าคริสเตียนไม่ได้นมัสการพระเจ้าแบบสุดๆอย่างที่กล่าวมานั่นก็เท่ากับว่าเรากำลังนมัสการใครอยู่ครับ ? เรากำลังนมัสการตัวของเราเอง

และถ้ามนุษย์ลองได้นมัสการตัวเองแทนที่จะนมัสการพระเจ้าเขาก็สามารถที่จะทำบาปชั่วหรือสามารถที่จะทำอย่างอื่นได้โดยไม่ยาก เช่น เขาสามารถที่จะรักความสนุกมากกว่ารักพระเจ้าได้ เขาสามารถที่จะรักเงินทองมากกว่าพระเจ้าได้ เขาสามารถที่จะรักตนเองมากกว่ารักเพื่อนบ้านได้

พระคัมภีร์จึงได้บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า ลักษณะจิตใจของคนหรือมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุคนี้ คือ เขาจะเห็นแก่ตัวเอง รักตัวเอง มากกว่าเพื่อนบ้าน

เวลานี้สังคมไทยเป็นอย่างนี้ไหมครับพี่ - น้อง ? เวลานี้สังคมไทยเป็นอย่างนี้ และเป็นมานานแล้ว และคริสเตียนบางคนเองก็เป็นอย่างนี้กับเขาด้วยเหมือนกัน ซึ่งมันขัดแย้งกับพระวจนะของพระเจ้าที่ได้ทรงตรัสไว้ในพระธรรม มธ.22: 39 จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

พระคัมภีร์บอกกับเราอย่างชัดเจนถึง ลักษณะจิตใจของคนหรือมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุคนี้คือ เขาจะเห็นแก่เงิน รักเงิน เพราะเงินมันมองเห็น แต่พระเจ้านั้นตามันมองไม่เห็น เวลานี้สังคมไทยเป็นอย่างนี้และเป็นมานานแล้ว คริสเตียนบางคนเองก็เป็นอย่างนี้กับเขาด้วยเหมือนกัน ซึ่งมันขัดแย้งกับพระวจนะของพระเจ้าที่ได้ทรงตรัสไว้ในพระธรรม 1 ทมธ. 6:10 ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นมูลรากแห่งความชั่วทั้งมวล แต่ลักษณะจิตใจของคนหรือมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุคนี้     ก็พร้อมที่จะจมปลัก อยู่ในมูลรากแห่งความบาปชั่วนี้

ในครอบครัวของพี่ - น้อง ถ้าลูกลองของพี่ - น้องลองได้นมัสการตัวเองหรือมีตัวเองเป็นศูนย์กลางแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะไม่เชื่อฟังคำของบิดา - มารดา อกตัญญู

ในสังคมไทยของเรา ถ้ามนุษย์ในสังคมลองได้นมัสการตัวเองหรือมีตัวเองเป็นศูนย์กลางแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไร้ศีลธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั่งชั่งใจ ดุร้าย มุทะลุ หัวสูง เกลียดชังความดี

ในสังคมธุรกิจ ถ้ามนุษย์ลองได้นมัสการตัวเองหรือมีตัวเองเป็นศูนย์กลางแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะเป็นคนที่ไร้มนุษย์ธรรม

ในสังคมธุรกิจ ถ้ามนุษย์ลองได้นมัสการตัวเองหรือมีตัวเองเป็นศูนย์กลางแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะเป็นคนทรยศหรือหักหลังคน

นี่คือสภาพของสังคมในสมัยจะสิ้นยุคหรือยุคสุดท้าย ที่เราจะต้องเผชิญและเป็นสิ่งที่ผู้เชื่อทุกคนจะต้องฟันฝ่าเพื่อเข้าไปถึงเส้นชัยให้ได้

วิธีที่จะช่วยผู้เชื่อ ในเรื่องนี้นั่นก็คือ รักพระเจ้าอย่างที่พระเจ้าต้องการให้เรารักพระองค์ นั่นแหละดีที่สุด พี่ – น้องรักพระเจ้าไหมครับ ?

ถ้าพี่ - น้องรักพระเจ้าพี่ - น้องต้องไม่ทำบาป เพราะพระเจ้าเกลียดบาป

ถ้าพี่ - น้องรักพระเจ้าพี่ - น้องต้องรักเพื่อนบ้าน และเพื่อนบ้านของพี่ - น้องคือใครครับ ? คือ คนใกล้ตัว พ่อ - แม่ , พี่ - น้อง , ญาติสนิท มิตรสหายของท่าน พ่อผัว แม่ผัว เพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงานของท่าน รวมทั้งคนแปลกหน้าด้วย

ในเช้าวันนี้ ถ้าผู้หญิงคนใดไม่อยากที่จะเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะการเป็นมะเร็งที่เต้านม ในฝ่ายจิตวิญญาณ ผมขอแนะนำท่าน ให้กลับไปแก้ไขความบาป ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งและความขมขื่นใจ ระหว่างท่านกับแม่ของท่านหรือกับพี่สาวน้องสาวของท่านและรวมทั้งกับแม่ผัวของท่าน ให้เรียบร้อยเสียก่อน ก่อนที่ท่านจะไปให้แพทย์ปัจจุบันทำการรักษาท่าน ผมไม่ได้เป็นคนพูดเอง แต่คุณหมอ Henrry Wrigth ผู้อำนวยการ Be in Health พันธกิจสุขภาพดีวิถีเลิศเป็นคนเขียนเอาไว้

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 3 2ทมธ. 3:5 ถือศาสนาแต่เปลือกนอกส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับคนเช่นนั้นท่านอย่าคบ

ประการที่ 3 การถือศาสนาของคนเมื่อจะสิ้นยุค

เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและวัฒนธรรมพยายามที่จะพลักดันศาสนาพุทธให้เป็นศาสนาประจำชาติ แต่เราก็ขอบคุณพระเจ้าที่การผลักดันนั้นไม่สำเร็จ

ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน รวมทั้งเบื้องสูง ก็ออกมาให้สติวกับกลุ่มคนที่พยายามผลักดันในเรื่องนี้ว่า คุณไม่อายบ้างหรือ ที่จะทำในเรื่องนี้ แต่คนไทยยังเล่นหวยแทงเบอร์กันอย่างมอมเมา หรือยังสูบบุหรี่กินเหล้ากินเบียร์ กันอย่างล้างผลาญกันอย่างเนี้ย

พระคัมภีร์บอกกับเราอย่างชัดเจนถึงลักษณะจิตใจของคนหรือมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุคนี้

คือ เขาจะถือศาสนาแต่เปลือกนอก เวลานี้สังคมไทยเป็นอย่างนี้ไหมครับพี่ - น้อง ?

การถือศาสนา ของคนในสมัยจะสิ้นยุค จะมีลักษณะที่เด่นชัด คือ เขาจะถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นที่มันแท้ แก่นที่มันจริงเขาไม่สนใจ เหมือนกับพวกของฟาริสีและธรรมาจารย์ที่มักจะโดนพระเยซูคริสตตำหนิอยู่บ่อยๆ

พี่ - น้องที่รักครับ เปลือก คือสิ่งที่เห็นภายนอก ทำหน้าที่หุ้มห่อแก่น ที่อยู่ภายใน

เปลือกคือ พิธีกรรมทางศาสนาซึ่งมีความสำคัญ แต่มันต้องมากจากแก่นซึ่งเป็นจิตวิญญาณที่อยู่ข้างในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าจึงตรัสไว้ใน

ยน.4:24 พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณและผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง ซึ่งนั่นหมายความว่า พิธีกรรมทางศาสนามันต้องมาจากความรัก ความเชื่อและความศรัทธาอย่างแท้จริง

พิธีกรรมทางศาสนามันไม่ได้มาจากการที่เราต้องการที่จะได้ความขลัง

พิธีกรรมทางศาสนามันไม่ได้มาจากการที่เราต้องการที่จะร่ำจะรวยหรือมั่งมีศรีสุข

พิธีกรรมทางศาสนามันไม่ได้มาจากการที่เราไปร่วมแต่กายและนั่งพูด นั่งคุยกัน แต่ฝ่ายจิตวิญญาณแล้วยังแวะไปเที่ยวโลตัสแม่กลองอยู่

พิธีกรรมทางศาสนามันไม่ได้มาจาก การที่เราได้หว่านหรือได้บริจาคออกไปแล้วๆเราต้องปรากฏชื่อปรากฏเสียงเหมือนกับคนในยุคนี้

ปัจจุบันนี้การประกอบศาสนกิจของคนในยุค IT หรือในยุคโลกาภิวัฒน์หรือในสมัยจะสิ้นยุคนั้น เขามักจะสนใจที่เปลือกนอก คือ ทำให้มันผ่านๆไปและก็ถือว่าได้ทำแล้ว

ถ้าพี่ - น้องได้อ่านพระธรรมกิจกรรม พี่น้องก็จะพบว่าปลายเรื่องของพระธรรม กิจการบทที่ 4   และต้นเรื่องของกิจการบทที่ 5 ทำให้เราทราบว่าผู้เชื่อในยุคของอัครทูตนั้นเขาได้พร้อมใจกัน ที่จะขายทุกสิ่งที่เขามีและนำมากองรวมกันไว้เป็นของกลางที่แทบเท้าของอัครทูตเพื่อนำมาใช้ในงานของพระเจ้า

สามี ภรรยาซึ่งเป็นผู้เชื่อที่มีชื่อว่าอานาเนียกับสัปฟีรา ก็ได้สัญญาที่จะถวายเพื่องานของพระเจ้าด้วย แต่เมื่อเขาได้ขายที่ดินได้เรียบร้อยแล้ว เขานำทั้งหมดหรือเพียงแค่บางส่วนที่เขาขายได้มาวางไว้ที่เท้าของอัครทูตครับพี่ - น้อง ? เพียงแค่บางส่วนถือว่าให้มันผ่านๆไป

ทั้งๆที่เขาได้เห็นในสิ่งที่พระเยซูทำ ทั้งๆที่เขาได้ยินในสิ่งที่อัครทูตได้แบ่งปันว่าพระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย แต่เขาก็ยังกล้าที่จะมุสาต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า

พระคัมภีร์จึงได้มีการบันทึกถึงสามี ภรรยาคู่นี้ไว้ว่าอย่างไรครับ ? เขาก็ล้มลงตาย ตายทั้งผัว ตายทั้งเมีย

ดังนั้นขออย่าให้เราถือศาสนาอย่างอานาเนียกับสัปฟีรา เพื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะไม่ฟ้องผิดกับเรา

ดังนั้นขออย่าให้เราถือศาสนา อย่างพวกฟาริสีกับธรรมจารย์ เพื่อที่พระเยซูจะได้ไม่ตำหนิเราว่าเอาศาสนาเพียงแค่เปลือกนอก

ดังนั้นขออย่าให้เราถือศาสนา มาคริสตจักรเพียงแค่มากินข้าวฟรีที่โบสถ์ หรือมาเพื่อหวังประโยชน์ หรือหวังการสงเคราะห์ช่วยเหลือ แต่ให้เรามาคริสตจักร เพราะว่าเรารักพระเจ้า เพราะว่าคำสอนของพระองค์นั้น เป็นสติ เป็นปัญญา เป็นความสว่างและเป็นข้อแนะแนวคิดในการดำเนินชีวิตดีๆให้กับเรา

จากพระวจนะคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร

ประการที่ 4 2 ทมธ. 3 6 - 9 เพราะในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนที่แอบไปตามบ้าน แล้วลวงหญิงที่เบาปัญญาด้วยความบาป และหลงใหลไปด้วยตัณหาต่างๆไปเป็นเชลย หญิงพวกนี้จึงฟังทุกคนที่พูด แต่ไม่อาจที่จะเข้าใจถึงหลักแห่งความจริงได้เลย ยันเนสกับยัมเบรส์ได้ต่อต้านโมเสสฉันใด คนเหล่านี้ก็ต่อต้านความจริงฉันนั้น เขาเป็นคนใจทราม และในเรื่องความเชื่อนั้นเขาใช้ไม่ได้เลย แต่เขาจะไปได้ไม่กี่น้ำ เพราะความโง่ของเขาจะปรากฏแก่คนทั้งปวง เช่นเดียวกับความโง่ของชายสองคนนั้น

ประการที่ 4 พฤติกรรมการเผยแพร่ศาสนาของคนเมื่อสิ้นยุค

พระคัมภีร์บอกกับเราอย่างชัดเจนถึง ลักษณะจิตใจของคนหรือมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุคนี้ คือ จะมีผู้เผยแพร่และมีวิธีการเผยแพร่ศาสนา ในรูปแบบต่างๆกันออกไป ซึ่งในแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป

อพยพ 7 - 9 ทำให้เราทราบว่า ในสมัยของโมเสสนั้น เมื่อโมเสสทำการอัศจรรย์สิ่งใด นักวิทยากลคนของฟาโรห์ก็สามารถที่จะเลียนแบบทำได้หมด เมื่อโมเสสทิ้งไม้เท้าแล้วไม้เท้ากลายเป็นงู นักวิทยากลของฟาโรห์ก็ทิ้งไม้เท้า ไม้เท้าก็กลายเป็นงูเช่นกัน เมื่อโมเสสทำน้ำให้กลายเป็นเลือด เขาก็ทำได้เหมือนอย่างที่โมเสสทำ

เมื่อโมเสสทำให้เกิดกบขึ้นเต็มเมือง คนทั้งสองก็ทำได้อีก แต่เมื่อพอมาถึงภัยพิบัตริ้น เมื่อโมเสสบอกอาโรนให้เอาไม้เท้าตีฝุ่นให้เกิดริ้น นักวิทยากลทั้งสองก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่านั่นเป็นของปลอม

ในสมัยของ อัครฑูตเปาโล ก็เช่นกัน ที่ อ.เปาโล จะต้องพบกับพฤติกรรมการเผยแพร่ศาสนาของคนเหล่านี้ในรูปแบบต่างๆด้วยเช่นกัน ในสมัยของ อ.เปาโล นั้น ผู้ชายจะออกไปทำงานนอกบ้าน ในบ้านจะคงเหลือไว้แต่สตรีพวกเผยแพร่คำสอนเท็จนี้ ก็จะเข้ามาเผยแพร่ภายในบ้าน

เทศนาเรื่องพระกิตติคุณโดยไม่พูดถึงเรื่องบาป เทศนาเรื่องสวรรค์แต่ไม่พูดถึงเรื่องนรก สอนพระวจนะโดยใช้หลักปราชญา ใช้ความคิดและคำพูดของตัวเอง มากกว่าใช้พระวจนะของพระเจ้า เมื่อพระเจ้าส่งปัญหาเข้ามาทดสอบ ผู้ที่ได้รับคำสอนเหล่านั้น ก็ไม่สามารถที่จะผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ เพราะมันไม่มีพระพระคำของพระเจ้าเข้าไปในชีวิตของพวกเขาเลย

อ. เปาโล จึงได้กล่าว กับทิโมธีว่า คนเช่นนั้นท่านอย่าคบ   เพราะถ้าทิโมธีคบกันคนพวกนี้แล้ว ทิโมธีอาจจะต้องติดเชื้อโรคร้ายนี้ อ.เปาโล กล่าวกับทิโมธีว่า ต้องไม่ยอมให้กระแสสังคมพัดพาเขาไป อ.เปาโล กล่าวกับทิโมธีว่า เขาต้องยืนหยัดอย่างกล้าหาญ และปฏิบัติการทวนกระแสค่านิยมของสังคม

กับมาในยุคของเรา ในสมัยของเรา พี่ - น้องคิดว่าในสมัยของเรานั้นมีผู้เผยแพร่ศาสนาอย่างนี้อยู่ในสังคมไทยไหมครับ ? ในส่วนของศาสนาพุทธกับศาสนาอิสลามนั้นผมขออนุญาตที่จะผ่านไป จะขอแบ่งปันในส่วนของศาสนาคริสตเท่านั้น

ในส่วนของศาสนาคริสตที่มีการเผยแพร่ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องอยู่ในเวลานี้และเป็นสิ่งที่ผู้นำคริสเตียนต้องคอยเฝ้าระวังอยู่โดยตลอด ได้แก่ พวกลัทธิมอร์มอน Jesus Only พวกพยานพระเยโฮวาห์ และ ชิลเดรน ออฟ ก็อด มาหะนาอิม เป็นต้น

กลุ่มพวกนี้มาจากต่างประเทศและมักจะฝังตัวอยู่ตามจังหวัดใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ อุดร ขอนแก่นและอีกหลายจังหวัด อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มของคนไทย ซึ่งมีการเผยแพร่ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องอยู่ในเวลานี้ ได้แก่ กลุ่มองุ่นสด กลุ่มธิดาศิโยน กลุ่มนายมานะ เป็นต้น คนพวกนี้ดูบุคลิกภายนอกแล้วเหมือนกับเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐของพระเจ้าอย่างแท้จริง ฟังคำสอนแล้วก็ดูเหมือนจะคล้ายๆกัน

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่อันตรายมากถ้าพี่ - น้องเป็นผู้เชื่อ แต่ขาดพี่เลี้ยงที่จะคอยดูแลชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่อันตรายมากถ้าพี่ - น้องเป็นคริสเตียน แต่ชอบไปโบสถ์นั้นที่ ไปโบสถ์นี้ทีไม่ผูกพันตัวและไม่ยอมถูกสร้าง ซึ่งแน่นอนก็คงไม่มีศิษยาภิบาลหรือผู้นำคริสตจักรคนใดที่อยากจะลงไปใช้เวลาด้วย นอกเสียจากศิษยาภิบาลหรือผู้นำคริสตจักรคนนั้นเขารักคุณอย่างสุดหัวใจจริงๆ

ดังนั้นผู้เชื่อหรือคริสเตียนพวกนี้แหละครับ ที่มาร ซาตานมันชอบเพราะรสมันนุ่ม เคี้ยวมันและกินอร่อย

ดังนั้นผู้เชื่อหรือคริสเตียนพวกนี้แหละครับ ที่พวกผู้เผยแพร่เท็จมันชอบเพราะหลอกง่ายดี และคนกลุ่มไหนพี่ - น้องรู้ไหมครับ ที่มาร ซาตาน มันจะใช้ผู้เผยแพร่เท็จไปหาก่อนเป็นกลุ่มแรก ?

ที่สวนเอเดนงูมันไปหาใครก่อนครับพี่ - น้อง ผู้หญิงจะเป็นกลุ่มแรกที่พวกผู้เผยแพร่เท็จจะไปหาเป็นกลุ่มแรก เพราะอะไรครับ ? เพราะมันต้องการที่จะหาลูกค้าที่ต้องการคำสอนที่เหมาะกับปัญหาของเขา

ผู้เผยแพร่ชนิดนี้จะใช้เล่ห์เพทุบาย จะใช้วิธีการที่ไม่จริงใจ มีความคิดแอบแฝงในการรับใช้เพื่อที่จะได้เขาไปเป็นพวก และค่อยๆที่จะเข้าไปควบคุมชีวิต ค่อยๆที่จะเข้าไปคุมการตัดสินใจ ค่อยๆที่จะเข้าไปคุมกระเป๋า

ที่สำคัญคนพวกนี้ไม่เคยยากจนลงแต่ร่ำรวยขึ้น ส่วนคนที่ติดตามพวกเขากับยากจนลง ผมไม่รู้บางศาสนานั้นมีแบบนี้หรือเปล่า ถ้ามีก็อาจจะกล่าวอีกนัยยะหนึ่งก็ได้ว่าคนพวกนี้กระทำการเผยแพร่ศาสนาเพื่อหากินกับศาสนา

ถ้าพี่ - น้องได้อ่านคำอุปมาของพระเยซู เกี่ยวกับเรื่องข้าวสาลีกับข้าวละมานของพระเยซู เราก็จะพบว่ากับคนพวกนี้เราไม่ต้องไปทำอะไร เพราะในที่สุดการพิพากษาของพระเจ้านั้นจะตกลงมาบนเขาทั้งหลาย    

เหตุเพราะความจริงและลักษณะที่แท้จริงจะถูกเปิดเผยออกให้ทุกคนได้เห็น และนี้เป็นสภาพสังคมที่คนของพระเจ้าจะต้องรู้และเข้าใจและฝ่ามันไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้ อาเมน ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

Green City