พระเจ้าบังเกิดในคอกสัตว์

คำเทศนาเรื่อง พระเจ้าบังเกิดในคอกสัตว์

         ลก.2:1-7 อยู่มาคราวนั้น มีรับสั่งจากมหาจักรพรรดิซีซาร์ ออกัสตัส ให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน 2 นี่เป็นครั้งแรกที่ได้จดทะเบียนสำมะโนครัว เมื่อคีรินิอัสเป็นเจ้าเมืองซีเรีย 3 คนทั้งปวงต่างคนต่างได้ไปขึ้นทะเบียนยังเมืองของตน 4 ฝ่ายโยเซฟก็ขึ้นไปจากเมืองนาซาเร็ธ แคว้นกาลิลีถึงเมืองของดาวิดชื่อเบธเลเฮมแคว้นยูเดียด้วย เพราะว่าเขาเป็นวงศ์วานและเชื้อสายของดาวิด 5 เขาได้ไปกับมารีย์ที่เขาได้หมั้นไว้แล้ว เพื่อจะขึ้นทะเบียน และนางมีครรภ์ 6 เมื่อเขาทั้งสองยังอยู่ที่นั่น ก็ถึงเวลาที่มารีย์จะประสูติบุตร 7 นางจึงประสูติบุตรชายหัวปี เอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่มีที่ว่างให้เขาในโรงแรม

         ข้อพระคัมภีร์ที่ผมจะใช้เป็นกุญแจในการแบ่งปันกับพี่น้องในเช้าวันนี้จะอยู่ในข้อที่ 7 และ Key Word ที่ผมจะเน้นเป็นพิเศษจะอยู่ตรงคำว่าในรางหญ้า ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

         พวกเราทราบกันเป็นอย่างดีแล้วนะครับว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นทรงเป็นพระเจ้า และพระคำของพระเจ้าในหนังสือ คลส.1:16 ได้บอกกับเราเอาไว้อย่างชัดเจนว่า และพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างในทุกๆสรรพสิ่ง

         คลส.1:16 เพราะว่าในพระองค์สรรพสิ่งได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งในท้องฟ้าและที่แผ่นดินโลก สิ่งซึ่งประจักษ์แก่ตาและซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา ไม่ว่าจะเป็นเทวบัลลังก์ หรือเป็นเทพอาณาจักร หรือเป็นเทพผู้ครองหรือศักดิเทพ สรรพสิ่งทั้งสิ้นถูกสร้างขึ้น โดยพระองค์และเพื่อพระองค์

         พี่น้องเคยแปลกใจไหมครับว่า ทำไมพระเจ้าที่ทรงสร้างทุกๆสรรพสิ่งในโลกใบนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม  ถึงไม่ให้พระบุตรเสด็จเข้ามาในโลกนี้แล้วให้เกิดในสถานที่ๆมันดีกว่านี้หน่อยมิได้หรือ ?

         หรือเราเคยแปลกใจไหมครับว่า ทำไมพระเจ้าถึงส่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในโลกนี้และให้มาบังเกิดในคอกสัตว์ ซึ่งเป็นสถานที่ๆมันต่ำต้อย เหม็นกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยว สกปรก เละเทะ. เปรอะเปื้อน

         คำตอบคือ พระเจ้าผู้ทรงสร้างในทุกๆสรรพสิ่งในโลกใบนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม พระองค์สามารถที่จะหาสถานที่ๆสวยงามให้พระกุมารเยซูคลอดก็ได้แต่พระองค์ไม่ทำและสาเหตุที่พระองค์ไม่ทำ

         ประการที่ 1 การเสด็จมาบังเกิดในคอกสัตว์และบรรทมอยู่ในรางหญ้า สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงพระทัยหรือหัวใจที่กว้างขวางผ่านวิธีการเสด็จเข้ามาในโลกใบนี้ของพระองค์

         ฟป.2:6-8 ผู้ทรงสภาพของพระเจ้า แต่มิได้ทรงถือว่าการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่จะต้องยึดถือ 7 แต่ได้กลับทรงสละและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ 8 และเมื่อทรงปรากฏพระองค์ในสภาพมนุษย์แล้ว พระองค์ก็ทรงถ่อมพระองค์ลงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่กางเขน บอกกับเราว่า อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ของการที่พระกุมารเยซูนั้นจะต้องเสียสละพระองค์ตลอดในการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้

         การรับใช้เป็นเรื่องที่ดีครับ เมื่อเราได้รับพระคุณของพระเจ้าแล้วเราควรที่จะรับใช้ “รอดเพื่อที่จะรับใช้” ไม่ใช่ได้รับความรอดแล้วรอคอยวันตายเพื่อที่จะแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้าเท่านั้น

         แต่ผู้เชื่อหลายคนในเวลานี้อยากที่จะรับใช้พระเจ้าอย่างมีเกียรติ , มียศ , มีตำแหน่ง , จึงขวนขวายให้ได้มาซึ่งคำว่า อาจารย์ , ศิษยาภิบาล , ศาสนาจารน์หรือด๊อกเตอร์กิตติมศักดิ์ เหล่านี้เป็นต้น บอกกับคนข้างซ้ายข้างขวามว่าเราจะไม่เป็นแบบนั้น

         พระเจ้าผู้ทรงสร้างในทุกๆสรรพสิ่งในโลกใบนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม พระองค์สามารถที่จะหาสถานที่ๆสวยงามให้พระกุมารเยซูคลอดก็ได้แต่พระองค์ไม่ทำและสาเหตุที่พระองค์ไม่ทำ

         ประการที่ 2 การเสด็จมาบังเกิดในคอกสัตว์และบรรทมอยู่ในรางหญ้า สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความรักที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีต่อมนุษย์ทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะเป็นใครก็ตาม

         พี่น้องลองคิดดูนะครับว่า ถ้าองค์พระเยซูคริสต์เจ้าเสด็จเข้ามาในโลกใบนี้เพื่อคนยิวเท่านั้นหรือเพื่อคนที่ฐานะดี บารมีสูงเท่านั้น พี่น้องคิดว่าคนเลี้ยงแกะเมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่านมาจะมีโอกาสได้มาเข้ามาเฝ้าพระกุมารเยซูไหมครับ ?

         กจ.10;34 ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่า พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด

         1คร.1:26-29 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลายจงพิจารณาดูว่า พวกท่านที่พระเจ้าได้ทรงเรียกมานั้นเป็นคนพวกไหน มีน้อยคนที่โลกนิยมว่ามีปัญญา มีน้อยคนที่มีอำนาจ มีน้อยคนที่มีตระกูลสูง 27 แต่พระเจ้าได้ทรงเลือกคนที่โลกถือว่าโง่เขลา เพื่อทำให้คนมีปัญญาอับอาย และได้ทรงเลือกคนที่โลกถือว่าอ่อนแอ เพื่อทำให้คนที่แข็งแรงอับอาย 28 พระเจ้าได้ทรงเลือกสิ่งที่โลกถือว่าต่ำต้อยและดูหมิ่น และเห็นว่าไร้สาระ เพื่อทำลายสิ่งซึ่งโลกเห็นว่าสำคัญ 29 เพื่อมิให้มนุษย์สักคนหนึ่งอวดต่อพระเจ้าได้

          แต่ด้วยการที่พระกุมารเยซูทรงเสด็จเข้ามาในโลกใบนี้และด้วยวิธีการแบบนี้ ทำให้คนเลี้ยงแกะหรือคนที่มีวรรณะต่ำต้อยที่สุดสามารถที่จะเข้ามาหาพระกุมารเยซูได้ง่ายไหมครับพี่น้อง ?

         หลายคนอยากรับใช้พระเจ้าแต่ขอเลือกคริสตจักรที่ทีสมาชิกที่ฐานดีบารมีสูงเพื่อเขาและครอบครัวจะมีชีวิตคสามเป็นอยู่ที่สบายลูกมีโอกาสไป Summer ในต่างประเทศ เหล่านี้เป็นต้น

         พระเจ้าผู้ทรงสร้างในทุกๆสรรพสิ่งในโลกใบนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม พระองค์สามารถที่จะหาสถานที่ๆสวยงามให้พระกุมารเยซูคลอดก็ได้แต่พระองค์ไม่ทำและสาเหตุที่พระองค์ไม่ทำ

         ประการที่ 3 การเสด็จมาบังเกิดในคอกสัตว์และบรรทมอยู่ในรางหญ้า สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการที่พระเจ้าปรารถนาที่จะทรงร่วมทั้งทุกข์และสุขกับมนุษย์ตั้งแต่เริ่มแรก

         เพราะฉะนั้นในความเชื่อซึ่งเป็นหลักข้อเชื่อของคริสเตียนด้วยนะครับ คือ เราต้องเชื่อว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้าเสด็จเข้ามาในโลกนี้โดยรับสภาพกาย มนุษย์ 100 %

         ฮบ.4:15 เพราะว่า เรามิได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ได้ทรงถูกทดลองใจเหมือนอย่างเราทุกประการ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป

         คำว่าเหมือน อย่างเราทุกประการ ในที่นี้คือ เมื่อมนุษย์ต้องเจอกับปัญหาอะไรก็ตาม พี่น้องคิดว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเจอแบบเดียวกันกับที่มนุษย์เจอไหมครับ ?

         พระองค์ทรงมีอาชีพแบบเดียวกันกับมนุษย์ คือ เป็นช่างไม้ทรงยากจน ทรงเหน็ดเหนื่อยไหมครับ ? เดินประกาศเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าทั่วประเทศอิสราเอลเลย ทรงกริ้วไหมครับ ทรงหิวกระหาย ทรงถูกการทดลอง ทรงถูกเข้าใจผิด ทรงถูกปฎิเสธหรือไม่เป็นที่ยอมรับจากคนยิวด้วยกัน ทรงถูกทรยศหักหลัง ทรงใช้คำพูดที่แรงด้วยไหมครับ ? เพราะฉะนั้นเมื่อมนุษย์ต้องเจอกับปัญหาอะไรก็ตามองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเจอแบบเดียวกันกับที่มนุษย์เจอทุกประการ

         พระเจ้าผู้ทรงสร้างในทุกๆสรรพสิ่งในโลกใบนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม พระองค์สามารถที่จะหาสถานที่ๆสวยงามให้พระกุมารเยซูคลอดก็ได้แต่พระองค์ไม่ทำและสาเหตุที่พระองค์ไม่ทำ

         ประการที่ 4 การเสด็จมาบังเกิดในคอกสัตว์และบรรทมอยู่ในรางหญ้า สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตคริสเตียน คำถามคือว่า คุณภาพชีวิตของคริสเตียนคืออะไรครับ ?

         ยน.4:34 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "อาหารของเราคือการกระทำตามพระทัยของพระองค์ ผู้ทรงใช้เรามา และทำให้งานของพระองค์สำเร็จ

         พระคำของพระเจ้าใน ยน.4:34 ได้บอกกับเราอย่างชัดเจนถึงคุณภาพชีวิตของคริสเตียน นั่นก็คือ การเชื่อฟังและทำตาม ทำตามใครครับ ? ผู้ทรงใช้เรามาและทำให้งานของพระองค์สำเร็จ

         พวกฟาริสี ธรรมจารย์ พวกรับบี สะดูสี คนยิวเหล่านี้เป็นคนที่มีชาติตระกูล , เป็นคนที่มีฐานะดี , เป็นคนที่มีบารมีสูงนะครับ พวกเขาไม่ได้คลอดในคอกสัตว์และไม่ได้นอนในรางหญ้าเหมือนกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้านะครับ

         ว่าไปแล้วคนยิวในสมัยขององค์พระเยซูคริสต์ก็เปรียบเหมือนกับ HI-SO บ้านเราในตอนนี้ที่มักจบจากเมืองนอกกันมา ฐานะทางบ้านดี บารมีสูงส่ง แต่เสียสละเพื่อคนอื่นไหมครับ ? ปรนนิบัติคนอื่นไหมครับ ? แถมยังอภิสิทธิ์ชนอีกต่างหาก

         กลับมาที่คนของพระเจ้ากันบ้าง เวลานี้คุณภาพชีวิตการเป็นคริสเตียนอขงเรา คือ การเชื่อฟังและทำตามที่พระเจ้าได้ทรงตรัสสั่งเราเอาไว้เป็นอย่างไรบ้าง ? ยังดีอยู่ไหม ? เรายังทำตามที่พระเจ้าตรัสสั่งเราเอาไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์อย่างสัตย์ซื่อเพื่อให้แผนการณ์ของพระเจ้าสำเร็จแบบเดียวกันกับพระเยซูใช่หรือไม่ ?

         พระเจ้าผู้ทรงสร้างในทุกๆสรรพสิ่งในโลกใบนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม พระองค์สามารถที่จะหาสถานที่ๆสวยงามให้พระกุมารเยซูคลอดก็ได้แต่พระองค์ไม่ทำและสาเหตุที่พระองค์ไม่ทำ

         ประการที่ 5 ยน.1:29 วันรุ่งขึ้นยอห์นเห็นพระเยซูกำลังเสด็จมาทางท่าน ท่านจึงกล่าวว่า "จงดูพระเมษโปดก {คำศัพท์แปลว่า ลูกแกะ} ของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย

         พระคำของพระเจ้าได้บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า พระองค์ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า คำถาม คือ แกะต้องคลอดที่ไหนครับในบ้านหรือโรงพยาบาลสัตว์และหรือว่าคลอดในคอกครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นการเสด็จมาบังเกิดหรือคลอดในคอกสัตว์และบรรทมอยู่ในรางหญ้านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

         1คร.5:7 จงชำระเชื้อเก่าเสีย เพื่อท่านจะได้เป็นแป้งดิบก้อนใหม่ เหมือนขนมปังไร้เชื้อ เพราะพระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเราได้ถูกฆ่าบูชาเสียแล้ว

         คำ​ว่า “ปัสกา” มา​จาก​คำ​ฮีบรู​ที่​มี​ความ​หมาย​ว่า “เว้น​ผ่าน” มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ตอน​ที่​พระเจ้า​ไว้​ชีวิต​ชาว​อิสราเอล​และ​ประหาร​ชีวิต​ลูก​ชาย​คน​โต​ทุก​คน​ของ​ชาว​อียิปต์ (อพยพ 12:27; 13:15) ก่อน​ที่​พระเจ้า​จะ​นำ​ภัย​พิบัติ​นี้​มา

         พระเจ้าทรงตรัสกับ​ชาว​อิสราเอล​ว่าให้​เอา​เลือด​ของ​ลูก​แกะ​หรือ​ลูก​แพะ​มา​ประพรม​ที่​เสา​ประตู​บ้าน​ทั้ง​สอง​ข้าง​และ​ที่​คาน​ประตู (อพยพ 12:21, 22) เมื่อ​พระเจ้า​เห็น​เลือด​ที่​เป็น​เครื่องหมาย​บน​เสา​ประตู​และ​ที่​คาน​ประตู พระองค์​จะ “เว้น​ผ่าน” บ้าน​หลัง​นั้น​ไป และ​ไว้​ชีวิต​ลูก​ชาย​คน​โต​ของ​บ้าน​นั้น—อพยพ 12:7, 13

         เพราะฉะนั้นการเสด็จมาของพระกุมารเยซูจึงเล็งถึง แกะ ที่จะต้องถูกนำมาเป็นเครื่องไถ่บูชาถวายแด่พระเจ้า ซึ่งสิ่งนี้เป็นแผนการไถ่และเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าและพระกุมารเยซูทรงยอมรับแผนการไถ่และน้ำพระทัยของพระเจ้านี้ด้วยความยินดีและเต็มใจ

         คำถามคือว่า 1. พี่น้องเคยรับรู้แผนการของพระเจ้าในชีวิตของพี่น้องบ้างไหม ? 2. ถ้าพี่น้องรับรู้แผนการของพระเจ้าในชีวิตของพี่น้องแล้ว 3. พี่น้องมีท่าทีในยอมรับแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยความยินดีและเต็มใจแบบเดียวกับพระกุมารเยซูหรือไม่ ?

         พี่น้องอาจจะไม่ต้องถึงขนาดยอมถูกตรึงบนไม้กางเขนแบบเดียวกับพระกุมารเยซูก็ได้ แต่ขอให้พี่น้องได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพระองค์ผ่านทางคริสตจักรของพระองค์ได้หรือไม่ ? ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

 

 

Green City