ทศางค์ของพระเจ้า

คำเทศนาเรื่อง ทศางค์ของพระเจ้า

      

ในเช้าวันนี้จะอัญเชิญพระคำของพระเจ้าจากพระธรรม ลก.18:12 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า “ ในสัปดาห์หนึ่งข้าพระองค์ถืออดอาหารสองหน และของสารพัดซึ่งข้าพระองค์หาได้ ข้าพระองค์ได้เอาสิบชักหนึ่งมาถวาย ”และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า “ทศางค์ของพระเจ้า”

พี่น้องที่รักครับ รายได้จากการที่พี่น้องนั้นทำงานได้ รายได้จากการที่พี่น้องประกอบธุรกิจ รายได้จากการประกอบการค้า ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะมีขนาดเล็ก ขนาดกลางหรือว่าขนาดใหญ่ก็ตาม   ที่ถูกต้องแล้วก็คือว่า รายได้ส่วนหนึ่งหรือที่ในปัจจุบันเรียกกันว่า ภาษี เราต้องนำรายได้ไปจ่ายให้กับรัฐ เหตุผลที่เราต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐนั้นเพื่ออะไรครับ ?

1. เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฏเกณฑ์และกฏหมาย

2. เพื่อสำแดงการเป็นพลเมืองดีในแผ่นดินโลก

เช่นกันครับพี่ - น้องที่รัก รายได้จากการทำงาน รายได้จากการประกอบธุรกิจ รายได้จากการประกอบการค้า รายได้ส่วนหนึ่งเราต้องนำมาถวายกับพระเจ้า รายได้ส่วนที่เรานำมาถวายกับพระเจ้านั้นเรียกว่า ทศางค์ แปลว่า สิบชักหนึ่ง

เหตุผลที่เราต้องนำ ทศางค์หรือสิบลด มาถวายให้กับพระเจ้าเพื่ออะไรครับ ?

1. เพื่อปฏิบัติตามกฏเกณฑ์และกฏหมายของพระองค์ ที่ได้ทรงว่าราชการไว้ตั้งแต่หนังสือเลวีนิติ 27 :30 เป็นต้นมา

2. เพื่อสำแดงการเป็นพลเมืองดีของพระเจ้าโดยการเชื่อฟัง(ให้ที่ประชุมเปิดและอ่าน ฉลธ.28:1- 14) และเหตุผลสุดท้ายการที่เรานำสิบลดมาถวายให้กับพระเจ้าเพื่อใครครับ ? เพื่อพระเจ้าหรือเพื่อตัวของเราเอง

พระคำของพระเจ้าในปฐก. 1:1 เราพบว่าพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก

พระคำของพระเจ้าใน สดด. 24 :1 “แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในนั้นเป็นของพระเจ้า ทั่วพิภพกับบรรดาผู้ที่อยู่ในพิภพนั้น พระเจ้าเป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่ง”

พระเจ้าที่เป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่งแล้วพี่น้องคิดว่าพระเจ้าอยากได้ของๆใครหรือพระเจ้าอยากได้ของของพี่น้องอีกไหมครับ ? พระเจ้านอกจากไม่อยากได้ของพี่น้องแล้วพระองค์มีแต่จะให้ พี่น้องเสียด้วยซ้ำไป

ดังนั้นเหตุผลสุดท้ายที่เรานำ สิบลด มาถวายให้กับพระเจ้าเพื่อใครครับ ? เพื่อพระเจ้าหรือว่าเพื่อเราครับ? เพื่อตัวของเราเองนั้นที่จะไม่ขาดพระพร

พระคำของพระเจ้าใน มลค.3 :10 เราพบว่าพระเจ้าได้พูดในเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่า พระคำของพระเจ้าพูดว่า “จงนำทศางค์เต็มขนาดมาไว้ในคลัง”

พระลักษณะของพระเจ้าประการหนึ่งนั่นก็คือ พระเจ้าเป็นความรัก เงื่อนไขของพระองค์คือพระเจ้าหยุดรักคุณไม่ได้

         พระลักษณะของพระเจ้าอีกประการหนึ่งนั่นก็คือ พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งการอำนวยพระพร เงื่อนไขของพระองค์คือพระเจ้าหยุดอวยพรคุณไม่ได้

ดังนั้นการถวายสิบลดของเราเป็นการประกาศว่า พระเจ้านั้นทรงสัตย์ซื่อในการอวยพรชีวิตของเราผ่านธุรกิจการงานของเรา ผ่านบุตรี บุตราของเรา

ดังนั้นการถวายสิบลดของเราเป็นการประกาศว่า พระเจ้านั้นเป็นผู้ประทานทุกสิ่งที่ดีแก่ชีวิตของเรา

ดังนั้นการถวายสิบลดของเราเป็นการประกาศว่า พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อในการจัดเตรียมให้กับเรา

ดังนั้นการถวายสิบลดของเราเป็นการประกาศว่า พระเจ้านั้นทรงสัตย์ซื่อในการเลี้ยงดูเรา

            ดังนั้นการถวายสิบลดจึงไม่ใช่เรื่องทำทานทำกุศลกับพระเจ้า

ดังนั้นการถวายสิบลดจึงไม่ใช่เป็นเรื่องของการทำบุญกับพระเจ้า

            พระคำของพระเจ้าใน สภษ. 3:9 ตรัสดังนี้ว่า “จงถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยทรัพย์สินของตน” ดังนั้นการถวายสิบลดจึงเป็นเรื่องที่ถวายพระเกียรติยศแด่พระเจ้า ดังนั้นเราจึงควรมีท่าทีที่ถูกต้องในการถวาบสิบลดแด่พระเจ้าของเรา

คำถามคือว่าเราควรจะมีท่าทีที่ถูกต้องนี้อย่างไร ?

ประการที่ 1 ให้พระเจ้าก่อนตัวเราเอง

มธ.6 :33 “แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินและความชอบธรรมของพระเจ้าก่อน”

หมายความว่า ให้เราแสวงหากฏเกณฑ์ กฏหมาย หรือ คำสั่งของพระองค์ ที่ว่าราชการเกี่ยวกับในเรื่องนี้ไว้อย่างไร ?

เมื่อพระเจ้าบอกกับเราว่าให้นำ ทศางค์ หรือ สิบลด เต็มขนาดมาไว้ในพระคลัง หรือพระนิเวศน์ของพระองค์ นั่นหมายความว่า ( พี่ - น้องฟังให้ดีๆน๊ะครับ ) นั่นหมายความว่า เราต้องหักสิบลดเพื่อถวายแด่พระเจ้าก่อน แล้วส่วนที่เหลือเราจึงค่อยนำไปใช้

หรือเรานำส่วนที่เราได้รับนำไปใช้ก่อน แล้วค่อยหักสิบลดให้กับพระเจ้าในภายหลัง

ท่าทีอย่างไหน ที่แสดงออกว่าเราแสวงหาแผ่นดินและความชอบธรรมของพระเจ้าก่อน

ให้เราแสวงหาพระเจ้าก่อนตัวเราเองเสมอ ถ้าเราแสวงหาตัวเราเองก่อนพระเจ้า พระเจ้าก็ไม่ได้ว่าอะไรกับเรา แต่ตัวเราเองกำลังมีปัญหากับตัวเราเอง

ประการที่ 2 ให้ด้วยความสัตย์ซื่อ

ใน 1ยน.1 :9 พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ความสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมเป็นพระลักษณะอย่างหนึ่งของพระเจ้า

ใน ปฐก.1 :26 “พระเจ้าจะทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์”

ใน 1 ยน. 3 :2 พระองค์ปรารถนาที่จะให้เราทุกคนเป็นเหมือนพระองค์ในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งความสัตย์ซื่อเที่ยงธรรมด้วย ถ้าเราไม่สัตย์ซื่อในการถวาย สิบลด กับพระเจ้า

มลค. 3:8 “ จะฉ้อพระเจ้าหรือ แต่เจ้าทั้งหลายได้ฉ้อเรา แต่เจ้ากล่าวว่าเราทั้งหลายฉ้อพระเจ้าอย่างไร ก็ฉ้อในเรื่องทศางค์ และเครื่องบูชานั่นซี ”

                                    ถ้าเราไม่สัตย์ซื่อในการถวาย สิบลด กับพระเจ้า

1. นั่นก็เท่ากับว่าเรากำลังฉ้อโกงพระเจ้า ไม่ได้ฉ้อโกงคริสตจักร

2. นั่นก็เท่ากับว่าเรากำลังขโมยเงินของพระเจ้า ไม่ได้ฉ้อโกงศิษยาภิบาล

แล้วสถานภาพของพระเจ้าเป็นใครครับพี่ - น้อง ?

เป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก เป็นพระเจ้าแห่งสากลจักรวาล

ดังนั้นถ้าเราไม่สัตย์ซื่อในการถวาย สิบลด กับพระเจ้า นั่นก็เท่ากับว่า เรากำลังฉ้อโกงทรัพย์จากเบื้องสูง นั่นเท่ากับว่าเรากำลังละเมิดทรัพย์สินส่วนของพระมหากษัตริย์

3. นั่นก็เท่ากับว่าท่านเจตนาสนับสนุน ให้พระราชกิจการงานของพระเจ้าต้องมีการสดุดหยุดลง จากการฉ้อในเรื่อง ทศางค์ ของเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก

ประการที่ 3 ให้ถวายด้วยความเต็มใจ

2 คร.9 :6 - 7 “ นี่แหละคนที่หว่านเพียงเล็กน้อยก็จะเกี่ยวเก็บได้เพียงเล็กน้อย คนที่หว่านมากก็จะเกี่ยวเก็บได้มาก ทุกคนจงให้ตามที่เขาหมายไว้ในใจ มิใช่ด้วยนึกเสียดาย มิใช่ให้ด้วยการฝืนใจ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี ”

มีชาย 3 คน ต่างคุยกันถึงวิธีการถวาย สิบลด ให้กับพระเจ้า

ชายคนที่ 1 บอกว่าเขาใช้วิธีขีดวงกลม แล้วโยนเงินขึ้นฟ้า ถ้าเงินตกในวงกลมแสดงว่าเงินนั้นเป็นของพระเจ้า ถ้าเงินตกนอกวงกลมแสดงว่าเงินนั้นเป็นของเขา ว่าแล้วเขาก็ขีดวงกลมเล็กๆขึ้นมาวงกลมหนึ่ง แล้วก็โยนเงินขึ้นฟ้าไป ปรากฏว่าไม่มีสักเหรียญที่จะเป็นสิบลด ของพระเจ้า

ชายคนที่ 2 บอกว่าเขาใช้วิธีขีดเส้น แล้วโยนเงินขึ้นฟ้า ถ้าเงินตกข้างซ้ายเป็นของเขา ถ้าเงินตกข้างขวาเป็นของพระเจ้า ว่าแล้วเขาก็ขีดเส้นขึ้นมา แล้วก็โยนเงินขึ้นฟ้าไป ปรากฏ

ว่าไม่มีสักเหรียญที่จะเป็น สิบลด ของพระเจ้า

ชายคนที่ 3 บอกว่าเขาไม่ใช้วิธีขีดเส้นอะไรทั้งนั้น แต่เขาใช้วิธีโยนเงินขึ้นฟ้า ถ้าเป็นเงินของพระเจ้า ก็ให้พระเจ้ารับเอา แต่ถ้าเป็นของเขาก็ให้เงินนั้นตกลงมา

ชายคนไหนครับพี่ - น้องที่ถวาย สิบลด ให้กับพระเจ้าด้วยความเต็มใจ ( ไม่มี )

ให้เราถวาย สิบลด ให้กับพระเจ้าด้วยความเต็มใจ เหมือนกับที่พระเยซูได้สังเกตเห็นการถวายเงินของหญิงม่ายที่ตรงหน้าตู้เก็บเงินถวาย ว่าหญิงม่ายคนนี้ได้นำเหรียญทองแดง 2เหรียญมาถวายด้วยความเต็มที่และด้วยความเต็มใจ และไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องเป็นไปอย่างที่เราคิดว่าจะต้องเป็นไปอย่างนั้น อย่างนี้

พี่ - น้องที่รักครับ เมื่อเราให้พระเจ้าก่อนตัวเราเอง เมื่อเราให้พระเจ้าด้วยความสัตย์ซื่อ เมื่อเราให้พระเจ้าด้วยความยินดีและเต็มใจ

พระพรจากการถวาย สิบลด ให้แด่พระเจ้านั้นจะเทลงมาเหนือครอบครัวของเรา เหนือชีวิตของเรา เหนือบุตร บุตราของเรา อย่างแน่นอน

สภษ.3:9“แล้วยุ้งของเจ้าจะเต็มด้วยความอุดมและบ่อเก็บของเจ้าจะล้นด้วยเหล้าองุ่น”มลค. 3 :10 “พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จงนำทศางค์เต็มขนาด มาไว้ในคลังเพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศน์ของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ดูทีหรือว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่”

มลค. 3: 11 เราจะขนาบตัวที่ทำลายให้แก่เจ้า เพื่อว่ามันจะไม่ทำลายผลแห่งพื้นดินของเจ้าและผลองุ่นในไร่นาของเจ้าจะไม่ร่วง พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ” ( 2 ครั้ง )

            เราจะขนาบตัวที่ทำลายให้แก่เจ้า พี่ - น้องเข้าความหมายนี้มั้ยครับ

1. ความหมายก็คือว่า ถ้าเราสัตย์ซื่อในการถวาย สิบลด กับพระเจ้า พระองค์จะทรงดูแลพืชผลไร่นาของเรา พวกตัวเพี้ยะ พวกสัตว์ พวกแมลง ที่บินออกมาหากิน คราวละเป็นล้านๆตัว และพร้อมที่จะจัดการพืชผลไร่นาของเรา ให้พังพินาศไปภายในชั่วพริบตาเป็นร้อยๆ พันๆไร่ ถ้าเราสัตย์ซื่อในการถวาย สิบลด กับพระเจ้า พระองค์ก็จะทรงดูแลธุรกิจ การงานของเรา

ความหมายก็คือว่า ถ้าเราสัตย์ซื่อในการถวาย สิบลด กับพระเจ้า พระองค์ก็จะปกป้องเรา

และก็จะจัดการกับศัตรูของเราด้วยพระองค์เอง

อ.อุดม เคยเป็นพยานให้ฟังว่า ตอนที่ อ.อุดมเป็นผู้ใหญ่บ้าน ลูกชายของอาจารย์ชอบไปแกล้งลูกชาวบ้าน และก็มีลูกบ้านมาแจ้งความลูกของอาจารย์ อาจารย์ก็บอกกับลูกบ้านว่า “ ถ้าไอ้แก่นมันทำอะไรไม่ดี ให้มาบอกผมน๊ะ ผมจะจัดการมันเอง แต่ถ้ามันทำไม่ดีและใครแตะต้องมัน ก็ต้องเจอกับผม”

เช่นกันพี่ - น้องที่รัก ถ้าเราสัตย์ซื่อในการถวาย สิบลด กับพระเจ้า ถ้าศัตรูของเราจะแตะต้องเรา พระองค์ก็จะตรัสภายในจิตใจของศัตรูเราว่า อย่าน๊ะ ถ้าแตะต้องเขาเจอกับเราแน่

เมื่อเราให้พระเจ้าก่อนตัวเราเอง ให้พระเจ้าด้วยความสัตย์ซื่อ ให้พระเจ้าด้วยความยินดีและเต็มใจ พระเจ้าจะประทานสิ่งที่จำเป็นให้กับเราอย่างเพียงพอ

ให้เรามีพระเยซูคริสต์อยู่ในชีวิตของเรา เพราะถ้าเรามีพระคริสต์เรามีทุกสิ่ง พระองค์จึงสำคัญกว่าทรัพย์สินเงินทอง

                                   

Green City