ชัยชนะเหนือความเครียด

คำเทศนาเรื่อง ชัยชนะเหนือความเครียด

    

ข้อพระคัมภีร์ที่ผมจะใช้เป็นกุญแจในการแบ่งปันกับพี่ - น้องในเช้าวันนี้จะอยู่ในหนังสือ 1 ทมธ. 6:7 - 11 ให้ที่ประชุมเปิดและอ่านพร้อมๆกัน อย่างช้าๆด้วยเสียงดังเชิญครับ และผมจะให้ชื่อคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า ชัยชนะเหนือความเครียด ให้เราได้ร่วมใจกันอธิษฐาน

พี่ - น้องที่รักครับ เราทุกคนต่างเชื่อตรงกันว่าสถานการณ์ต่างๆที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ระดับโลกหรือสถานการณ์ในระดับประเทศก็ตาม ล้วนแต่เป็นสถานการณ์ที่สื่อให้เราซึ่งเป็นผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าได้เข้าใจว่าพระเยซูได้เสด็จมาแล้ว ใครที่มีความเชื่อเช่นนี้ให้กล่าวคำว่า อาเมน โดยส่วนตัวของผมๆเชื่ออย่างนั้นอย่างสุดหัวใจเพียงแต่พระองค์ยังมาไม่ถึง

เหตุที่ผมเชื่ออย่างนั้นเพราะสถานการณ์ในระดับโลก

ขณะนี้โลกของเรากำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อนและสภาพดินฟ้าอากาศที่มีความแปรปรวนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เรายังพบว่า ทรัพยากรทางธรรมชาติ ของโลกร่อยหรอลงไปทุกที ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต้องพยายามและคิดค้นหาพลังงานต่างๆขึ้นมาทดแทน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดวิกฤตพลังงานขึ้นมาได้

สถานการณ์ในระดับประเทศเป็นอย่างไรบ้างครับ ? ขณะนี้ข้าวของเครื่องใช้มีราคาที่แพงมากและก็จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนด แต่ค่าแรงก็ยังเท่าเดิมอยู่ เราได้รัฐบาลใหม่มาแล้วเดือนกว่าๆเป็นอย่างไรบ้างครับ ทำให้ชีวิตของเรามีหวังมากขึ้นหรือทำให้เราต้องผิดหวังมากไปกว่าเดิม

ใกล้เข้ามาอีกนิดสถานการณ์ในชีวิตของพี่ - น้องเป็นอย่างไร ตอนนี้เด็กหลายคนกำลังปิดเทอม พ่อ - แม่บางคนรู้สึกเครียดไหมครับ ที่ลูกของตัวเองปิดเทอม

ผมเคยถามพ่อ - แม่บางคนนะครับ เขาตอบอย่างนั้นจริงๆว่ารู้สึกเครียด เพราะว่าลูกมันกินมากว่าเดิม

หลายคนเจ็บป่วยนะครับช่วงนี้เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ไปหาหมอทั้งคลินิก ทั้งที่โรงพยาบาล ฉีดยาก็แล้ว กินยาก็แล้ว ก็ยังไม่หายเจ็บ หายไข้สักที หลายคนก็เลยรู้สึกเครียดกับตัวเองก็มี

บางคนปัญหาเก่ายังเคลียร์ไม่จบ ปัญหาใหม่ก็เข้ามาอีกแล้ว ทำให้เครียดมากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้เวลานี้คนเดินเข้าสู่โรงพยาบาลโรคจิตกันมากขึ้น เพื่อรับการบำบัดจิตใจ

อย่าว่าแต่คนเลยครับพี่ - น้อง สุนัขที่ถูกจับขังไว้บางตัวมันก็เครียดนะครับ บางตัวมันเครียดแต่มันแสดงออกก็พอจะเข้าใจ แต่บางตัวมันเครียด มันไม่แสดงออกมาเนี่ยสิน่ากลัว

พอมันออกมาได้เท่านั้นล่ะพี่ - น้องเอ้ย มันก็จะระบายความเครียดด้วยการกัดคน แถมหลังๆมาเนี่ยสุนัขมันเลือกกัดเฉพาะเด็ก แต่บางทีถ้าไม่มีใครให้มันกัดมันก็จะกัดตัวของเจ้าของนั้นแหละ

คำถามก็คือว่า คริสเตียน เครียดได้ไหมครับ

คำตอบก็คือคริสเตียนก็เครียดได้เพราะคริสเตียนก็เป็นคนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเครียดได้ แต่เราต้องเข้าใจว่า โดยแท้จริงแล้วพระเจ้าปรารถนาให้เรานั้น ไม่ต้องเครียด

พระคำของพระเจ้าในปฐก.1:26-31 เป็นสิ่งที่ยืนยันกับเราทั้งหลายได้เป็นอย่างดี เมื่อพระองค์ทรงสร้างสิ่งต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระเจ้าอนุญาตให้มนุษย์เป็นผู้ครอบครองในสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างทั้งสิ้นและใน

ปฐก.2:1-3 พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า พระองค์ทรงหยุดพักผ่อน และทรงอำนวยพระพรในวันที่เจ็ดนี้ เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้ไม่เครียดโดยหยุดพักผ่อนร่วมไปกับพระองค์ทั้งในฝ่ายร่างกายและในฝ่ายจิตวิญญาณด้วย แต่ความเครียดได้เข้ามาสู่มนุษย์ เนื่องจากการที่อาดัม - เอวาไม่เชื่อฟังพระเจ้า ดังนั้นมนุษย์ในฝ่ายเนื้อหนังทุกคนจึงไม่สามารถหลบลี้หนีเลี่ยงความเครียดนี้ไปได้

มีโฆษณาชิ้นหนึ่งที่ออกมามาปีที่แล้วว่า เครียดกิน…………….

นั่นเป็นการหลบลี้ หนีเลี่ยง ความเครียด ได้เพียงแค่ชั่วครู่ ชั่วยาม ประเดี๋ยว ประด๋าวเท่านั้น ในขณะเดียวกันเราเองก็ไม่สามารถที่จะให้ความเครียดนี้มาเป็นสิ่งที่ครอบครองจิตใจของเราหรือชีวิตของเราได้ และทำให้เราต้องพ่ายแพ้ไปกับมัน

ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสตเจ้า เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อชัยชนะเหนือโรคความเครียดนี้

ประการที่ 1 อยู่ใน 1ทมธ. 6:7 - 8 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกฉันใด เราก็เอาอะไรออกไปจากโลกไม่ได้ฉันนั้นแต่ถ้าเรามีอาหารและเสื้อผ้าก็ให้เราพอใจด้วยของเหล่านั้นเถิด

ประการที่ 1 คือ ให้เรารู้จักความพอเพียง

พี่ - น้องที่รักครับ ถ้าเรารู้จักพอใจในความเป็นอยู่ของตนและหรือให้เรารู้จักพอใจในฐานะของตนเอง ถ้าเราพูดกับตัวเอง สอนตัวเราเองและเตือนใจตัวเราเองอย่างนี้ทุกๆวัน เราก็จะมีชีวิตอยู่แบบเรียบๆ ง่ายๆ สบาย ๆ แล้วเราจะไม่เครียด

ในทางตรงกันข้ามพี่ - น้องที่รักครับ ถ้าเราไม่ได้พูดกับตัวเอง สอนตัวเราเองหรือเตือนใจตัวเราเองอย่างนี้ทุกวัน แต่เรากับไปดำเนินชีวิตตามวิถีของโลก

ดำเนินชีวิตตามวิถีของโลก ดำเนินอย่างไรครับ ?

ดำเนินชีวิตตามวิถีของโลกคือ ต้องการที่จะสะสมทรัพย์สมบัติในโลกนี้เกินความจำเป็น ซื้อเกินความสามารถของตนเอง กินอยู่อย่างหะรูหะราหรือฟุ่มเฟือย ซื้อตามแรงกระตุ้น Shoping ก่อนผ่อนทีหลังโดยไม่แยกแยะว่าอะไรเป็นสิ่งที่จำเป็น อะไรเป็นสิ่งที่ต้องการ นี่คือการดำเนินชีวิตตามวิถีของโลก

พระคำของพระเจ้าใน 1 ทมธ. 6 : 9 จึงได้เปรียบการดำเนินชีวิตตามวิถีของโลกเอาไว้ว่าเหมือนกับคนที่ติดบ่วง ติดตาข่ายแล้ว

1 ทมธ. 6 :11 แต่ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้าจงหลีกหนีเสียจากสิ่งเหล่านี้

ลก.12:15 จงระวังและเว้นเสียจากการโลภทุกประการ เพราะว่าชีวิตของคนมิได้อยู่ในการที่มีของฟุ่มเฟือย

แต่ถ้าเรายังไม่รู้จักพอ ยังสนุกสนานกับการดำเนินชีวิตตามวิถีของโลก Shopingก่อนผ่อนทีหลัง กินอยู่อย่างฟุ่มเฟือย ชอบพาตัวเองเข้าไปอยู่ในการเย้ายวน (ตย. โทรศัพท์) แน่นอนเมื่อถึงคราวที่จำเป็นต้องใช้จริงๆแต่เราไม่สามารถที่จะหามาได้

เราก็จะต้องถูกวิถีของโลกนั้นล่ะ ที่จะมากดดันชีวิตของเรา ทำให้เราเกิดความรู้เครียดขึ้นมา ใครเล่นแชร์ ลูกแชร์ เถ้าแชร์ ก็จะมากดดันเรา ใครใช้บัตรเครดิต พนักงานติดตามหนี้ก็จะมาทวงถามเราทั้งแบบสุภาพและทั้งแบบน่าเกลียด

1 ทมธ. 6:9 - 11 ตรัสดังนี้ว่า และในความปรารถนานานาที่ไร้ความคิดและเป็นภัยแก่ตัว ซึ่งทำให้คนเราต้องถึงความพินาศเสื่อมสูญไป ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นมูลรากแห่งความชั่วทั้งมวล และเพราะความโลภนี่แหละจึงทำให้บางคนห่างไกลจากความเชื่อและตรอมตรมด้วยความทุกข์ พระคำของพระเจ้าจึงได้ชี้ให้เราเห็นถึงผลสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นเกิดว่ามีอะไรบ้างความทุกข์ใจ ความตรอมตรม และนำความพินาศหรือภัยพิบัติมาสู่ตัวเองและครอบครัว

เพราะฉะนั้นถ้าพี่ - น้องอยากมีชัยชนะเหนือโรคความเครียดนี้แล้วล่ะก็ให้เรารู้จักพอเพียง อยู่ตามความจำเป็นมิใช่ตามการซึ่งฟุ่มเฟือย แล้วพี่ - น้องจะอยู่ได้อย่างสบายๆ ไม่เครียด เพราะจะไม่มีใครที่จะมาติดตามทวงถามอะไรจากเรา

ในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสตเจ้า เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อชัยชนะเหนือโรคความเครียดนี้

ประการที่ 2 อยู่ใน 1ทมธ. 6:11 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า แต่ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า จงมุ่งมั่นในความชอบธรรมในทางของพระเจ้า ความเชื่อ ความรัก ความอดทนและความอ่อนสุภาพ

ประการที่ 2คือ ให้เรามุ่งมั่นและเรียนที่จะวางใจในทางของพระเจ้า

ให้เรามุ่งมั่นในความเชื่อ มุ่งมั่นในความไว้วางใจในพระเจ้าว่า พระเจ้าจะทรงเป็นผู้เลี้ยงดูเรา และพระเจ้าจะ ประทานสิ่งที่จำเป็นต่างๆให้เพียงพอกับความต้องการ ในชีวิตของเราหรือในครอบครัวของเรา

พระคำของพระเจ้าใน สดด. 125:1 ตรัสดังนี้ว่า บรรดาผู้ที่วางใจในพระเจ้าก็เหมือนภูเขาศิโยนซึ่งไม่หวั่นไหวแต่ดำรงอยู่เป็นนิตย์

ซึ่งนั่นหมายความว่า พระเจ้าปรารถนาให้เรานั้นมีความเชื่อให้เรามีความไว้วางใจในพระองค์อย่างหนักแน่นและมั่นคงว่า พระเจ้าจะเป็นผู้ที่ประทานสิ่งที่จำเป็นต่างๆให้เพียงพอกับความต้องการในชีวิตของเราหรือในครอบครัวของเรา

ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว มันจะเลี้ยงดูคนห้าพันคนให้อิ่มหมีพีมันกันได้อย่างไร แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นและเรียนที่จะมีความเชื่อ มีความไว้วางใจในพระองค์ อย่างหนักแน่นมั่นคงพระเจ้ามีวิธีการที่จะดูแลและเลี้ยงดูชีวิตของเราในแต่ละวัน

ศิษยาภิบาลหลายคนที่รับใช้พระเจ้าอย่างเต็มที่ อย่างเต็มกำลัง และอย่างเต็มความสามารถ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากที่ใดก็ตาม แต่เขาสามารถที่จะรับใช้พระเจ้าได้อย่างสบายๆ และไม่เครียดว่าจะเอาอะไรกิน เอาอะไรดื่ม

ฉลธ. 31:6 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรืออย่างครั้นคร้ามเขาเลยเพราะว่าผู้ที่ไปกับท่าน คือ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย

ฉลธ. 31:8 ผู้ที่ไปข้างหน้า คือ พระเจ้า พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้ท่านล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย อย่ากลัวและอย่าขยาดเลย

เพราะถ้าผู้รับใช้ (ที่พระเจ้าทรงเรียกเขาอย่างแท้จริง) มีความมุ่งมั่นและเรียนที่จะมีความเชื่อ มีความไว้วางใจในพระเจ้าอย่างหนักแน่นมั่นคงพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งให้ผู้รับใช้ของพระองค์ ต้องพบกับความอดอยากหรือต้องพบกับความล้มเหลว

ผู้เชื่อที่มีความเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ แม้ว่าเขาจะมีความขัดสนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต แต่ถ้าเขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจและเรียนที่จะมีความเชื่อ มีความไว้วางใจในพระเจ้าอย่างหนักแน่นมั่นคง เขาจะไม่เครียดและเขาจะไม่กระวนกระวายใจ

พระคำของพระเจ้าใน ฮบ.13 : 5 ตรัสดังนี้ว่า เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย ซึ่งนั่นหมายความว่า พระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งผู้คนของพระองค์หรือประชากรของพระองค์อย่างแน่นอน

เวลานี้ที่มีผู้คนมากมายในสังคม รวมถึงผู้ที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสเจ้าด้วยนะครับ ที่กำลังซีเรียสหรือกำลังเคร่งเครียดกันอยู่ในเวลานี้เพราะอะไรครับ ? เพราะเราไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของการจัดเตรียมตามความจำเป็นของพระเจ้า

มีสมาชิกคนหนึ่งถามศบ. ของตนว่า :อาจารย์ยังใช้มือถือรุ่นนี้อีกหรือ

ศบ. ตอบว่า: ถ้ามีโทรศัพท์อันใหม่โดยผมไม่ต้องเป็นหนี้และทำให้ผมรับใช้พระเจ้าได้มากขึ้นกว่าเก่าผมจะมี

เวลานี้ที่มีผู้คนมากมายในสังคมรวมถึงผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสตเจ้าด้วยนะครับที่กำลังซีเรียสหรือกำลังเคร่งเครียดกันอยู่ในเวลานี้เพราะอะไรครับ ?

เพราะหลายคนติดกับดักของนักวางแผนทางการตลาดหลายคนติดกับดักของนักโฆษณาประชาสัมพันธ์ หลายคนติดกับดักกับกุศโลบายทางการค้า ที่เขาทำออกมาหลอก ออกมาล่อเป็นโปรโมชั่นแต่ละเดือน

กับดักต่างๆเหล่านี้ทำให้ผู้คนในสังคมหลายๆคน รวมถึงผู้ที่เป็นคริสเตียนด้วยนะครับ จึงต้องเคร่งเครียดกันอยู่ในเวลานี้

ถ้าพี่ - น้องอยากมีชัยชนะเหนือโรคความเครียดนี้ให้เรามุ่งมั่นและเรียนที่จะวางใจในทางของพระเจ้า

ผมขอบคุณพระเจ้าเสมอสำหรับชีวิตของคุณสุรินทร์นะครับ เพราะชีวิตของคุณสุรินทร์เป็นชีวิตที่สำแดงออกถึงความมุ่งมั่น ในความเชื่อและความมุ่งมั่นในความไว้วางใจในพระเจ้าอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าจะทรงเป็นผู้เลี้ยงดู และพระเจ้าจะเป็นผู้ประทานสิ่งที่จำเป็นต่างๆ ให้กับเขาและครอบครัวอย่างเพียงพอ

ลำพังเงินเดือนของ สามี - ภรรยาสองคนรวมกัน แค่หมื่นต้นๆ ค่าผ่อนรถไปเดือนละ 4,000 กว่าบาทถามว่า มันจะไปเพียงพออะไรกับ 4 ชีวิต ซึ่งลูกๆก็อยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโตทุกคน แต่ที่คุณสุรินทร์สอบผ่านมาได้ในแต่ละเดือน ในแต่ละปีนั้น

ในฐานะศิษยาภิบาลผมมีความเชื่ออย่างสุดใจเลยว่าเพราะชีวิตของเขามุ่งมั่นและเรียนที่จะไว้วางใจในทางของพระเจ้าชีวิตของสุรินทร์จึงไม่ขาดในสิ่งที่จำเป็น

และอีกเหตุผลหนึ่งพี่ - น้องอยากทราบไหมครับว่า ทำไมคุณสุรินทร์ถึงไม่ขาดในสิ่งที่จำเป็น เพราะคุณสุรินทร์ได้ให้สิ่งที่เขามีนั้นปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า

ในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสตเจ้า เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อชัยชนะเหนือโรคความเครียดนี้

ประการที่ 3 อยู่ใน สดด. 62 : 8 พระคำของพระเจ้าตรัสว่า ความช่วยกู้และเกียรติของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้า ศิลาอันทรงมหิทฤทธิ์และที่ลี้ภัยของข้าพเจ้าคือพระเจ้า

ประการที่ 3 คือ จงระบายความในใจทุกอย่างต่อพระเจ้า

มีบุคคลได้กล่าวไว้ดังนี้ว่า เรื่องของคนให้พูดกับพระเจ้า เรื่องของพระเจ้าให้พูดกับคน แล้วเรื่องของเราล่ะจะให้พูดกับใคร เรื่องของเราก็จะต้องพูดกับพระเจ้าเช่นกัน

ไม่ว่าพี่ - น้อง จะมีความเครียดมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าพี่ - น้อง จะมีความเครียดเกี่ยวกับเรื่องอะไร สิ่งที่พี่ - น้องเครียดอยู่ไม่ว่ามันจะใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ให้พี่ - น้องพูดคุยกับพระเจ้า ระบายความทุกข์ ความระทมใจหรือความโศกเศร้าเสียใจนั้นให้กับพระเจ้าฟัง ไหนๆก็บอกกับพระเจ้าแล้วก็ให้เราได้บอกความเครียด ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราให้แก่พระองค์ฟังอย่างโดยละเอียด

พี่ - น้องยังจำเรื่องราวของนางฮันนาห์ได้ใช่ไหมครับ ? พระคำของพระเจ้าในหนงัสือ 1 ซมอ. 1:1-27 ทำให้เราทราบว่า มีชายคนหนึ่งชื่อ เอลคานาห์ ชายคนนี้มีภรรยา 2 คน

คนหนึ่งชื่อ นางฮันนาห์ อีกคนหนึ่งชื่อนางเปนินนาห์ ทุกๆปีครอบครัวนี้ต้องออกจากเมืองของตนเพื่อไปนมัสการพระเจ้าที่เมือง ชิโลห์ ระหว่างการเดินทางเพื่อไปนมัสการพระเจ้าที่เมือง ชิโลห์ นั้น นางฮันนาห์ มักจะถูก นางเปนินนาห์ ถือโอกาสแอบแซวหรือเยาะเย้ยและหรือถูกถากถางอยู่ตลอดเวลา เหตุเพราะ นางฮันนาห์ ไม่สามารถที่จะมีบุตรให้กับ เอลคานาห์ ได้

ท่านคิดว่า นางฮันนาห์ เครียดไหมครับ ในการเดินทางไปนมัสการพระเจ้า

ท่านคิดว่า นางฮันนาห์ เครียดไหมครับ ที่จะต้องเดินทางร่วมไปกับผู้ที่จะคอยหาโอกาสประสงค์ร้ายต่อนางตลอดเวลาเสมอ

ท่านคิดว่า นางฮันนาห์ เครียดมากไหมครับ ที่จะต้องร่วม สำรับ อาหารเดียวกันกับคนที่ไม่ยอมวางมือในการกระแนะกระแหนเธอ ผมคิดว่าเธอคงกินข้าวไม่ลงอย่างแน่นอน

ท่านคิดว่า นางฮันนาห์ ต้องน้ำตาตกในไหมครับที่จะต้องพักและอาศัยอยู่ในเต้นเดียวกับภรรยาอีกคนหนึ่งของสามี

พระคำของพระเจ้าใน 1 ซมอ. 1:10-11 ตรัสดังนี้ว่า นางเป็นทุกข์ร้อนใจมากอธิษฐานต่อพระเจ้าและร้องไห้คร่ำครวญ นางก็นบไว้ว่า ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา ถ้าพระองค์จะทอดพระเนตรความทุกข์ใจของผู้รับใช้ของพระองค์จริงๆ และยังระลึกถึงข้าพระองค์และยังไม่ลืมผู้รับใช้ของพระองค์ แต่จะทรงประทานบุตรชายแก่ผู้รับใช้ของพระองค์สักคนหนึ่ง แล้วข้าพระองค์จะถวายเขาไว้แด่พระเจ้าตลอดชีวิตของเขา และมีดโกนจะไม่แตะต้องศีรษะของเขาเลย

มนุษย์พอเวลาเครียดเป็นอย่างไรครับ ? ก็มักจะหาที่ระบาย

วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการระบายก็เพื่อให้ผู้ระบายนั้นได้พูดๆ ๆ และก็พูด เพื่อจะได้หายเครียด อีกทั้งไม่ได้หวังคำตอบ หวังแต่ว่าจะมีใครสักคนที่เห็นด้วยประเภท จริงเหรอ ฉันว่าแล้ว คิดไม่มีผิดเลยจริง

แต่เหตุและผลที่นางฮันนาห์นำขึ้นมาพูด   อาจจะเพื่อต้องการระบายความเครียดอันนี้ก็ประการหนึ่งแต่พระคำของพระเจ้าในข้อที่ 27-28 ตรัสว่า

ดิฉันอธิษฐานขอเด็กคนนี้และพระเจ้าประทานคำทูลขอเด็กคนนี้เพราะฉะนั้นดิฉันจึงให้ยืมเขาไว้แต่พระเจ้าตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ดิฉันจึงให้ยืมเขาไว้แด่พระเจ้าและเขาก็นมัสการพระเจ้าที่นั่น

เหตุที่นางฮันนาห์นำเรื่องการไม่มีบุตร ขึ้นมาระบายความเครียดกับพระเจ้าอันนี้ก็ประการหนึ่งแต่น่าจะเป็นเหตุผลรองลงไปแล้ว เพราะในข้อที่ 27-28 ที่นางได้ระบายออกมานั้นน่าจะเป็นเหตุผลหลักเพราะนางฮันนาห์หวังที่จะได้รับคำตอบจากพระเจ้าด้วย

พี่ - น้องที่รักครับ พระเจ้าไม่เพียงแต่จะให้พี่ - น้อง ได้ผ่อนคลายกับพระองค์เพียงแค่พูดระบายทุกข์เท่านั้น แต่พระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานของพี่ - น้องด้วย

คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า ทำไม ทำไมและทำไม พระเจ้าถึงตอบคำถามของ นางฮันนาห์เพราะสิ่งที่ นางฮันนาห์ขอกับพระเจ้านั้นมีเหตุมีผล เพราะสิ่งที่นางขอนั้นเพื่อใครครับเพื่อพระราชกิจของพระเจ้า

ดังนั้นถ้าพี่ - น้องมีความเครียด ขอให้พี่ - น้องระบายความทุกข์นั้นแก่พระเจ้า ถ้าพี่ - น้องเครียดเกี่ยวกับเรื่องบ้าน ระบายกับพระเจ้าแล้วอธิษฐานกับพระเจ้าว่าจะถวายบ้านนี้ให้เป็นกลุ่มเซลล์ เพื่อเสริมสร้างพี่ - น้องให้เติบโตในทางของพระเจ้า พี่ - น้องจะหายเครียดแน่นอน

ถ้าพี่ - น้องมีความเครียด เกี่ยวกับเรื่องของลูกจะถวายบุตรชายหรือบุตรหญิงคนนี้ให้เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า พี่ - น้องจะหายเครียดแน่นอน และถ้าพี่ - น้องอยากมีชัยชนะเหนือโรคความเครียดนี้ ให้เราระบายความในใจทุกๆอย่างต่อพระเจ้า

สรุปพระคำของพระเจ้าในเช้าวันนี้

1. ให้เรารู้จักพอเพียง

2. ให้เรามุ่งมั่นและเรียนที่จะวางใจในทางของพระเจ้า

3. จงระบายความในใจทุกอย่างต่อพระเจ้า

แล้วพี่ - น้องจะมีชัยชนะเหนือโรคความเครียดนี้อย่างแน่นอน

Green City