คำเทศนาเรื่อง คำสั่งมาพร้อมพระพร
ยชว.1:7-9 เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งเถิด ระวังที่จะกระทำตามธรรมบัญญัติทั้งหมด ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของเราได้บัญชาเจ้าไว้นั้น อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย เพื่อว่าเจ้าจะไปในถิ่นฐานใดเจ้าจะได้รับความสำเร็จอย่างดี 8 อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี 9 เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า"
พี่น้องเคยได้ดูละครไทย ที่ผู้ประพันธ์เขียนบทละครในทำนองที่ว่า ถ้าพระเอกนางเอกได้แต่งงานกันแล้วพวกเขาถึงจะได้รับมรดกตกทอดเอาไว้ครอบครองบ้างไหมครับ ?
มีนักเขียนหรือผู้ประพันธ์ นวนิยาย คนไทยบางท่านได้เขียน นวนิยาย ที่มีเนื้อเรื่องในลักษณะแบบนี้เอาไว้หลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าอะไรครับ ? พวกเขาต้องทำตามคำสั่งนั้นก่อนพวกเขาถึงได้รับมรดกนั้น เด็กรุ่นใหม่ๆอาจจะไม่เคยดู แต่เด็กรุ่นเก่าๆอย่างพวกเราเคยดูละครแนวนี้บ้างไหมครับ ?
จากพระคำของพระเจ้า ที่เราได้อ่านร่วมกันใน ยชว.1:7-9 เราพบอะไร ? เราพบคำสั่งที่จะทำให้คนอิสราเอลและเรานั้นได้รับพระพรจากพระเจ้า
พระพรที่คนอิสราเอลจะได้รับจากพระคำของพระเจ้าในตอนนี้ คือ พระเจ้าทรงสัญญากับพวกเขาว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า
คำถามคือ คำสั่งของพระเจ้าจากพระคำของพระเจ้าในตอนนี้อยู่ที่ไหน ? อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย
มีพี่น้องคริสเตียนเยอะแยะมากมาย รวมถึงมีผู้นำนมัสการหลายคนด้วยเช่นกันที่ชอบนำที่ประชุมด้วยคำพูดที่ว่า “พระเจ้าทรงตรัสกับโยชูวาว่า อย่าครั้นคร้ามหรือกลัวสิ่งใด พระเยโฮวาห์สถิตอยู่กับโมเสสฉันใด พระเยโฮวาห์ก็จะสถิตอยู่กับเจ้าฉันนั้น”
คำถามคือว่า พี่น้องคริสเตียนหรือผู้นำนมัสการพูดถูกต้องไหมครับ ? แต่เขาพูดหมดไหม เขาไม่ได้พูดคำว่า อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย
คำถามคือว่า ธรรมบัญญัติที่พระเจ้าได้ทรงให้ไว้กับโมเสสบนภูเขานั้นมีกี่ข้อครับ ? สลักหรือจารึกเอาไว้บนศิลากี่แผ่นครับ ?
ข้อที่ 1-4 ได้สลักหรือจารึกลงเอาไว้ที่ศิลาแผ่นที่ 1 ซึ่งเป็นเรื่องราวระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
ข้อที่ 5 - 10 ได้สลักหรือจารึกลงเอาไว้ในศิลาแผ่นที่ 2 ซึ่งเป็นเรื่องราวระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน
ซึ่งนั่นหมายความว่า ชนชาติอิสราเอลจะรับเอาศิลาจารึกแผ่นที่ 1 เอาไว้โดยไม่รับเอาศิลาจารึกแผ่นที่ 2 ไว้ได้ไหมครับ ? หรือชนชาติอิสราเอลจะรับเอาศิลาจารึกแผ่นที่ 2 เอาไว้โดยไม่รับเอาศิลาจารึกแผ่นที่ 1 ไว้ได้ไหมครับ ?
คำว่า อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย มีความหมายว่า ต้องรับธรรมบัญญัติที่จารึกไว้บนศิลานั้นทั้ง 2 แผ่น
เหมือนในเวลานี้ ที่เรามีพระคัมภีร์เดิมและพระคัมภีร์ใหม่ คำถามคือ เราจะเอาแต่พระคัมภีร์เดิมไม่เอาพระคัมภีร์ใหม่ได้ไหมครับ ? หรือจะเอาแต่พระคัมภีร์ใหม่ไม่เอาพระคัมภีร์เดิมได้ไหมครับ ?
คำว่า อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย มีความหมายว่า คริสเตียนต้องรับทั้งพระคัมภีร์เดิมและพระคัมภีร์ใหม่ด้วย
ถ้าชนชาติอิสราเอล หลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัติทั้งทางขวามือและทางซ้ายมือ
คำถามคือว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าจะทรงสถิตกับชนชาติอิสราเอลไหม
ยน 1:1 ในปฐมกาลพระวาทะดำรงอยู่ และพระวาทะทรงสถิตอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า
ถ้าพระเจ้าตรัสอย่างนี้และชนชาติอิสราเอลหลีกเลี่ยงหรือเราหลีกเลี่ยง นั่นก็เท่ากับชนชาติอิสราเอลหรือเราได้ผลักพระเจ้าออกไปจากชีวิต เมื่อชนชาติอิสราเอลหรือเราผลักพระเจ้าออกไปจากชีวิต พระเจ้าจะอยู่ด้วยกับเราไหมครับ ? เพราะฉะนั้นคำสั่งของพระเจ้ามาพร้อมกับพระพรของพระเจ้าเสมอ
อะไรอีกที่เป็นคำสั่งของพระเจ้าที่มาพร้อมกับพระพร โดยแท้จริงแล้วมีตัวอย่างเยอะแยะมากมายนะครับ เช่น
มธ.6:33 แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้
จากพระคำของพระเจ้า ที่เราได้อ่านร่วมกันใน มธ. 6:33 เราพบอะไร ? เราพบคำสั่งที่จะทำให้คนอิสราเอลและเรานั้นได้รับพระพรจากพระเจ้า
พระพรที่คนอิสราเอลจะได้รับจากพระคำของพระเจ้าในตอนนี้ คือ พระเจ้าทรงสัญญากับพวกเขาและเราด้วยว่า แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้
คำถามคือ คำสั่งของพระเจ้าจากพระคำของพระเจ้าในตอนนี้อยู่ที่ไหน ? 1.จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า 2.และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน
จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า หมายความว่า ให้พวกเราพากันย้ายถิ่นฐานทำกินแล้วพากันไปอยู่กินที่ประเทศอิสราเอลกันให้หมดเพราะว่าที่นั่นเป็นประเทศของพระเจ้าใช่อย่างนั้นหรือเปล่า ?
ถ้าอย่างนั้นคำว่า จงแสวงหาแผ่นดินและความชอบธรรมของพระเจ้าก่อน มีความหมายเช่นไร ?
คำว่า ความชอบธรรม คำนี้ พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า มนุษย์เราไม่สามารถที่จะชอบธรรมได้ด้วยตัวของเราเอง แต่มนุษย์จะชอบธรรมได้ด้วยการกลับใจใหม่ด้วยการสารภาพบาปนั้นต่อพระเจ้าและด้วยการบังเกิดใหม่ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้จะต้องล้อไปด้วยกันนะครับ จึงจะนับว่าเรานั้นเป็นผู้ชอบธรรม
คำว่า จงแสงหาแผ่นดินของพระเจ้า คือ 1) ให้พระเจ้าทรงเป็นเอกเป็นหนึ่งในชีวิตของเรา 2 ) ถวายตัวเราให้กับพระเจ้า 3 ) ให้เราแสวงหาสิ่งที่เป็นนิรันดร ไม่ใช่สิ่งที่ชั่วคราว พระเจ้าเป็นสิ่งที่นิรัดรหรือเป็นสิ่งที่ชั่วคราวครับพี่น้อง ?
แต่ผู้เชื่อส่วนใหญ่กับใช้เวลาและพลังงานทั้งหมดที่พระเจ้าให้กับเราในแต่ละวันไปกับสิ่งที่ชั่วคราวซึ่งเป็นสิ่งที่เสื่อมสลายใช่หรือไม่
เมื่อผู้เชื่อส่วนใหญ่ใช้เวลาและพลังงานทั้งหมดที่พระเจ้าให้กับเราในแต่ละวันไปกับสิ่งที่ชั่วคราว ซึ่งเป็นสิ่งที่เสื่อมสลาย นั่นก็เท่ากับว่าเรากำลังผละพระเจ้าออกไปจากชีวิต
พระพรคือแล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมส่งทั้งปวงให้มันจะเกิดขึ้นในชีวิตของเราได้ไหมครับ ? เป็นผู้เชื่อในพระเจ้า พระเยซูคริสต์ แต่กับผละพระเจ้าออกไปจากชีวิต มันก็ไม่แปลกที่ผู้เชื่อหลายคนจะนั่งเท้าคางและนั่งหน้าย่นแล้วเซ็งกับชีวิต
เพราะพระเจ้าเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงให้กับเราได้ไหม ? เราจึงต้องไปหาเติมจากที่อื่นด้วยการหยิบยืม ทำให้ต้องเป็นหนี้เป็นสิน คริสเตียนจึงไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ( ตย.พี่สาวคุณหมู )
คำว่า แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้ เมื่อคนบาปกลับใจมาเชื่อในพระเจ้า พระเยซูคริสต์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ชอบธรรม แล้วผู้ชอบธรรมคนนั้น 1) ให้พระเจ้าเป็นเอกเป็นหนึ่งในชีวิต 2) เสาะแสวงหาสิ่งที่เป็นนิรันดร
พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมสิ่งที่เป็นพื้นฐานตามความจำเป็นนั้นให้กับเรา ไม่ใช่ตามการฟุ่มเฟือยและหรือไม่ใช่ตามที่ใจเราปรารถนาหรือตามที่ใจเราต้องการ และนี่คือหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงนี้เอาไว้นานแล้วและยังคงทันสมัยอยู่เสมอ คำสอนที่ Life Coach ต่างๆเอามาสอนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนกันอยู่ในเวลานี้ ถ้าพี่น้องฟังให้ดีๆพี่น้องก็จะพบว่าล้วนมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ทั้งสิ้น
แต่มนุษย์ส่วนมากรวมทั้งผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าด้วยอยากที่จะอยู่บนพื้นฐานแห่งการจัดเตรียมของพระเจ้าหรืออยากจะอยู่บนความฟุ่มเฟือยที่โลกจัดเตรียมให้กับเราจริงหรือไม่
มธ. 11:28 บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข
เมื่อพระเจ้าทรงสร้างอาดำขึ้นในสวนเอเดน พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างดี พี่น้องจำได้ไหมในสวนเอเดนนั้นอาดำไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากดูแลสวนของพระเจ้าและสามัคคีธรรมกับพระเจ้า และนั้นคือน้ำพระทัยของพระเจ้า
แต่เมื่อเราไม่ทำตามคำสั่งในเรื่องการถือรักษาวันสะบาโตชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณเราจึง 1) ขาดกำลังเรี่ยวแรง 2 ) โดนมาร ซาตาน วิญญาณชั่วเข้าแทรกแซงได้ง่าย 3) ขาดข้อแนะแนวคิดที่เราจะนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต 4) ขาดพระพร คือ ไม่หายเหนื่อยและอยู่ไม่เป็นสุขสักที
อะไรอีกที่เป็นคำสั่งของพระเจ้าที่มาพร้อมกับพระพร
มธ.28:19-20 เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค"
เราพบคำสั่งที่จะทำให้คนอิสราเอลและผู้เชื่อจะได้รับพระพรจากพระเจ้า พระพรที่คนอิสราเอลและเราจะได้รับจากพระคำของพระเจ้าในตอนนี้ คือ พระเจ้าทรงสัญญาว่า เราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค
คำสั่งของพระเจ้าจากพระคำในข้อนี้อยู่ตรงไหนครับ ?
เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้
พี่น้องจะต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า การที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเสด็จเข้ามาในโลกนี้เพื่ออะไรครับ ?
ยน.3:16 เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร
มธ.18:14 อย่างนั้นแหละ พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ไม่ทรงปรารถนาให้ผู้เล็กน้อยเหล่านี้สักคนหนึ่งพินาศไปเลย
เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก “โลก” คำนี้หมายถึง มนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมาจากฝีพระหัตถ์ของพระองค์หรือสร้างขึ้นมากับมือ
อีกทั้งได้ระบายลมปราณของพระองค์ลงไป มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิตด้วยเหตุนี้เองพระเจ้าจึงไม่อยากเห็นสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาต้องพินาศไป แม้ว่ามนุษย์คนนั้นจะเป็นเพียงแค่คนเล็กน้อยหรือคนที่ต่ำต้อยที่สุดก็ตาม
คำถาม ภายในร่างกายของมนุษย์ หัวใจ นั้นสำคัญไหมครับ นี่คือ “หัวใจ” ของการเสด็จเข้ามาทำพันธกิจขององค์พระเยซูคริสต์ในโลกใบนี้
ถ้าเราทำสิ่งที่เป็น “หัวใจ” ของพระบิดา นั่นคือ จับคนบาปขึ้นสู่สวรรค์ พระบิดาก็จะทำในสิ่งที่เป็น “หัวใจ” ของเราด้วยเช่นกัน นี่คือ ความหมายของคำว่า เราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป
เมื่อพี่น้องอ่านพระคำของพระเจ้า พี่น้องเคยตั้งคำถามกลับบ้างไหมครับว่า ทำไมองค์พระเยซูคริสต์เจ้าอธิษฐานขออะไรต่อพระบิดา องค์พระเยซูคริสต์เจ้าถึงได้คำตอบหมดทุกอย่าง
คำตอบคือ ในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า พระบิดา ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าตลอดระยะเวลา 3 ปี ในแผ่นดินโลกนี้ ไม่มีสักวัน ที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าจะไม่ประกาศหรือเป็นพยานเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าหรืออาณาจักรของพระองค์เลย
ซึ่งนั่นหมายความว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงทำในสิ่งที่เป็นหัวใจของพระบิดาที่พระองค์ทรงใช้พระบุตรมา พระบิดาจึงสถิตอยู่กับพระบุตรตลอดเวลาเสมอ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกที่เมื่อพระบุตรทูลขออะไรจากพระบิดา พระบิดาก็จะทรงประทานสิ่งนั้นให้
คำถามก็คือว่า เมื่อพระเจ้าสั่งให้ผู้เชื่อทำในเรื่องนี้แล้ว แล้วเราไม่ทำ นั่นก็เท่ากับว่า เราได้ผลักพระเจ้าออกไปจากชีวิตของเรา
พี่น้องยังจำคำเทศนาเรื่อง พระพรกับคำโปรดปราน ได้ไหมครับ ? พระพรสามัญหรือพระพรพื้นฐาน , พระพรซ้อนพระพรหรือพระพรพิเศษ , พระพรแห่งความโปรดปราน
ความโปรดปราน คือ อะไร ? คือ ถูกใจใครบางคนเป็นพิเศษ
เมื่อพระเจ้าสั่งให้ผู้เชื่อทำในเรื่องนี้แล้ว แล้วเราไม่ทำ นั่นก็เท่ากับว่า เราได้ผลักพระเจ้าออกไปจากชีวิตของเรา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าจะไม่ได้สถิตหรืออยู่ด้วยกับเรานะครับ
พระเจ้ายังสถิตและอยู่ด้วยกับเราแต่เป็นการสถิตแบบสามัญ แต่การทรงสถิตที่เต็มไปด้วยการปกคลุมอย่างหนาแน่นแบบอธิษฐานทูลขอสิ่งใดจะได้สิ่งนั้นจะมีให้กับ ผู้ที่พระองค์ทรงโปรดปรานและผู้ที่พระองค์ทรงโปรดปรานก็คือผู้ที่ทำในสิ่งที่เป็นหัวใจของพระบิดาเท่านั้น