คุณคือหุ้นส่วนของพระเจ้า

 

   มก.11:11 พระเยซูก็เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม และเข้าไปในบริเวณพระวิหาร เมื่อทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงแล้ว เวลาก็จวนค่ำ จึงเสด็จออกไปยังหมู่บ้านเบธานีกับเหล่าสาวกสิบสองคนนั้น12ครั้นรุ่งขึ้น เมื่อพระองค์กับสาวกออกมาจากหมู่บ้านเบธานีแล้ว พระองค์ก็ทรงหิว13พอทอดพระเนตรเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งแต่ไกลมีใบ จึงเสด็จเข้าไปดูว่าจะมีผลหรือไม่ ครั้นมาถึงต้นนั้นแล้ว ไม่เห็นมีผล มีแต่ใบเท่านั้น เพราะยังไม่ถึงฤดูผลมะเดื่อ14พระองค์จึงตรัสแก่ต้นนั้นว่า "ตั้งแต่นี้ไปจะไม่มีใครได้กินผลจากเจ้าเลย" เหล่าสาวกก็ได้ยินคำซึ่งพระองค์ตรัสนั้น15เมื่อมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ก็เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร แล้วลงมือขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงินกับทั้งคว่ำม้านั่งผู้ขายนกพิราบเสีย16และทรงห้ามมิให้ผู้ใดขนสิ่งใดๆเดินลัดบริเวณพระวิหาร17พระองค์ตรัสสอนเขาว่า "มีพระวจนะเขียนไว้มิใช่หรือว่า นิเวศของเราเขาจะเรียกว่าเป็นนิเวศอธิษฐานสำหรับประชาชาติทั้งหลาย แต่เจ้าทั้งหลายได้กระทำให้เป็น ถ้ำของพวกโจร

   และข้อพระคัมภีร์ที่ผมจะใช้ไขหรือใช้เป็นกุญแจในการแบ่งปันกับพี่น้องในเช้าวันนี้จะอยู่ในข้อที่ 15 ให้เราได้อ่านในข้อที่ 15 นี้ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง

   พี่น้องที่รักครับ วันที่ 1 ต.ค. - 10 พ.ย. ของทุกปีเป็นวันอะไรครับ ? ถืออดอาหาร 40 วัน ซึ่งในช่วงระยะ 2-3 ปีนี้ทางเครือข่ายอธิษฐานอวยพรประเทศไทยไม่ได้มีการผลิตหนังสือหรือคู่มือออกมาแจกจ่ายแต่อย่างใด สาเหตุเพราะปัจจุบันคนหันมาอ่านจากในมือถือกันมากขึ้นและก็คงเกี่ยวข้องกับงบประมาณในการจัดพิมพ์ด้วย

   จากพระคำของพระเจ้าที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

   โดยเฉพาะในข้อที่ 15 เราพบว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงไม่พอพระทัยอีกทั้งพระองค์ทรงสำแดงความโกรธกริ้วน้อยหรือมาก ? การคว่ำโต๊ะคว่ำม้านั่งทำให้เราทราบว่าพระองค์ทรงโกรธกริ้ววอย่างมาก

   สิ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่โดยส่วนมากนั้นจะมีการบันทึกถึงองค์พระเยซูคริสต์เจ้าว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตาความกรุณา ความปราณีเอาไว้อยู่บ่อยครั้ง

   ตย.ยน.14:27เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลายสันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย

   พระคำของพระเจ้าได้บอกกับเราว่าพระองค์เสด็จเข้ามาเพื่อประทานสันติสุขให้กับโลกแต่เมื่อเราอ่านใน มก.11:11-17 โดยเฉพาะในข้อที่ 15 มันดูย้อนแย้งกับ ยน.14;27 ไหมครับ ?

   เสด็จมาเพื่อให้สันติสุขที่ไม่เหมือนกับที่โลกนี้ให้ แต่คว่ำโต๊ะ คว่ำเก้าอี้ เรื่องนี้สำแดงถึงการเสด็จมาของพระเจ้าในสภาพกายมนุษย์ 100% สภาพกายมนุษย์ 100% ที่มีอารมณ์ มีความรู้สึก

   เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่บอกว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้าไม่เคยโกรธ อ่านจากพระคำของพระเจ้าในตอนนี้โกรธไหม ? ใครก็ตามที่บอกว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้าไม่เคยบ่น ไม่เคยว่า พี่น้องคิดว่าพระองค์เคยบ่นไหม เคยว่าไหม แต่แค่อย่างละครั้ง เราจึงคิดว่าพระองค์ไม่เคยบ่น ไม่เคยว่า

   คำถามที่น่าสนใจนั่นก็คือว่า ทำไมองค์พระเยซูคริสต์เจ้าถึงโกรธหนักขนาดนั้น พี่น้องคิดว่าถ้าการซื้อการขายเกิดขึ้นที่ตลาด องค์พระเยซูคริสต์เจ้าจะว่าอะไรไหม ? แต่นี่การซื้อการขายเกิดขึ้นในพระนิเวศน์ของพระเจ้า

   ในพระนิเวศน์ของพระเจ้าหรือในพระวิหารของพระเจ้าและหรือในคริสตจักรของพระเจ้านั้นเป็นสถานที่อะไรครับ ? เป็นที่ประทับอยู่ของพระเจ้า เป็นที่ๆมีการทรงสถิตของพระเจ้าอยู่ด้วย เป็นที่ๆมีสิ่งที่เหนือธรรมชาตินั้นอยู่ด้วย ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนที่เดินผ่านไปมาแล้วมาพูดกับผมหรือพูดกับ อ.ดา ในทำนองที่ว่าเข้ามาแล้วรู้สึกสถานที่นี้มีพลังหรือมีอะไรที่มันแปลบปลาบใจ

       

   เมื่อพระนิเวศน์ของพระเจ้าหรือในพระวิหารของพระเจ้าและหรือในคริสตจักรของพระเจ้านั้นเป็นสถานที่อะไรครับ ? เป็นที่ประทับอยู่ของพระเจ้า เป็นที่ๆมีการทรงสถิตของพระเจ้าอยู่ด้วย เป็นที่ๆมีสิ่งที่เหนือธรรมชาตินั้นอยู่ด้วย

   ดังนั้นกิจกรรมที่คนของพระเจ้าควรทำคืออะไร ? ต่อเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้ากิจกรรมที่ผู้เชื่อควรทำคือการนมัสการ อธิษฐานหรือมีการสามัคคีธรรมกับพระเจ้าเท่านั้น พี่น้องเห็นอะไรไหมครับ ? กิจกรรมของผู้เชื่อในสมัยก่อนมีความจำกัด

        เมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขนและผ้าม่านถูกฉีกออกจากบนลงล่าง มีความหมายว่า พระองค์ไม่ได้มาเพื่อยกเลิก แต่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าเสด็จมาเมื่อเพื่อให้เราได้เข้าหาพระองค์ได้ง่ายขึ้น นั่นหมายความว่า ใครอยากอนุรักษ์สิ่งนี้ไว้ได้ไหมครับ ?

       

   การที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าเสด็จมาเมื่อเพื่อให้เราได้เข้าหาพระองค์ได้ง่ายขึ้นนั่นไม่ได้หมายความว่าผู้เชื่อจะทำอะไรก็ได้นะครับ ? แต่นั่นหมายความว่า เราจะต้องมีจิตวินิจฉัยว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ

สูบบุหรี่ กินเหล้าในพระนิเวศน์ของพระเจ้าควรทำหรือไม่ควรทำ พูดคำหยาบโลนเกเร พูดจาสองแง่สามง่าม พูดจาแทะโลมเหมือนหมาหยอกไก่ในพระนิเวศน์ควรทำหรือไม่ควรทำ ฟังเทศนาไปเล่นแชทไปหรือเล่นเกมไปและหรือตอบแชทเพื่อนไป สิ่งนี้ควรทำหรือไม่ควรทำ

        ดังนั้นผมขอย้ำกับพี่น้องอีกครั้งหนึ่งว่าการที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าเสด็จมาเมื่อเพื่อให้เราได้เข้าหาพระองค์ได้ง่ายขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้เชื่อจะทำอะไรก็ได้นะครับ อีกทั้งสิ่งที่ผู้เชื่อจะต้องไม่ลืมในสาระสำคัญที่ผู้เชื่อยังคงต้องทำอยู่ในพระนิเวศน์ของพระเจ้า ซึ่งปัจจุบันคือคริสตจักรของพระเจ้านั่นคืออะไร ?  การนมัสการ อธิษฐาน การสามัคคีธรรมกับพระเจ้า

   พระคำของพระเจ้าในพระคัมภีร์เดิมบอกกับเราว่าคนอิสราเอลนั้นมี 12 เผ่า เผ่าที่ถูกเรียกให้มาเป็นคนกลางในการอธิษฐานระหว่างพระเจ้ากับคนอิสราเอลนั่นก็คือคนเผ่า “เลวี” หรือที่เราเรียกว่าเป็นปุโรหิตนั่นเอง

   ฮบ.4:14 เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีมหาปุโรหิตผู้เป็นใหญ่ที่ผ่านฟ้าสวรรค์เข้าไปถึงพระเจ้าแล้วคือพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า ขอให้เราทั้งหลายมั่นคงในพระศาสนาของเรา

   พระคำของพระเจ้าใน ฮบ.4:14 บอกกับเราว่า องค์พระเยซูคริสต์เจ้าถูกเรียกว่าเป็น “ปุโรหิต” ในภาคพันธสัญญาใหม่

   พี่น้องที่รักครับ เมื่อผ้าม่านในพระวิหารถูกฉีกให้ขาดจากบนลงล่างออกจากกันแล้ว คำถามก็คือว่า หน้าที่ในการอธิษฐานต่อพระเจ้าในพระวิหารยังคนเป็นของปุโรหิตต่อไปไหม ?

   ในเวลานี้เราซึ่งเป็นผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ได้ชื่อว่าได้ชื่อว่าเป็นปุโรหิตของพระเจ้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นการนมัสการการอธิษฐานในพระวิหารหรือในคริสตจักรของพระเจ้าจึงเป็นหน้าที่ของผู้เชื่อทุกคน

   สิ่งที่พี่น้องจะต้องเข้าใจนั่นก็คือว่า ในสมัยที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้ายังทรงพระชนม์อยู่สาวกทั้ง 12 คนถูกเรียกให้มาอธิษฐานร่วมกันกับพระองค์

   ต่อมาในภายหลังจากที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าถูกรับเสด็จขึ้นไปอยู่กับพระบิดาบนสวรรค์แล้ว คริสเตียนถูกเรียกให้มาร่วมอธิษฐานกับพระเจ้า 1) ในพระวิหาร ในพระนิเวศน์ ในคริสตจักรของพระองค์ 2) ในที่ๆพระเจ้าประทับอยู่ ในที่พระเจ้าทรงสถิตอยู่และที่นั่นคือที่ไหนครับ ?

   การอธิษฐานที่เราทำ เรากำลังทำผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังร่วมงานกับพระเยซูคริสต์ที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่เบื้องพระหัตถ์ขวาของพระบิดา

   ซึ่งนั่นหมายความว่า การอธิษฐานที่คริสเตียนถูกเรียกและถูกเลือกให้มาร่วมอธิษฐานกับพระเจ้าในพระนิเวศน์ของพระองค์นั้นเรากำลังร่วมงานกับพระเจ้าตรีเอกานุภาพ ยน15:16 ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่านทั้งหลาย ซึ่งนั่นนับว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่พระเจ้าผู้ทรงใหญ่ยิ่งและสูงสุดได้ให้เกียรติในการให้เรานั้นได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนในพันธกิจของพระองค์ แต่ดูเหมือนคริสเตียนไทยไม่ค่อยรู้สึกภาคภูมิใจต่อการทรงเรียกนี้สักเท่าไหร่

   คำถามคือว่า อาจารย์รู้ได้อย่างไร ? ดูจากศุกร์อธิษฐาน ดูจากอธิษฐานตอนเช้า ดูได้จากการที่คริสตจักรเชิญพี่น้องมาร่วมอธิษฐาน ดูได้จากการที่ผู้นำ ศิษยาภิบาลยังต้องคอยกระตุ้น คอยหนุนใจพี่น้องให้เข้ามาอธิษฐานอยู่ตลอด นี่คือหลักฐาน แท้จริงแล้วมันต้องออกมาจากหัวใจรักที่เรามีต่อพระเจ้า

   เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาเพียงคนเดียว แต่อาดำเป็นเพียงคนเดียวที่พระเจ้าทรงเลือกที่จะทรงเรียกและเลือกขึ้นมาให้เป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์ ดังนั้นขอให้พี่น้องได้รู้และได้เข้าใจว่าการจะเป็นหุ้นส่วนกับพระเจ้าไม่ใช่ใครจะมาเข้าหุ้นก็ได้

   สิ่งที่คริสเตียนส่วนมากมักจะเข้าใจไม่ถูกต้องนั่นก็คือว่า พระเจ้าให้อาดำ-เอวา อยู่ในสวนเอเดนก็เพื่อเป็นคนงานหรือเป็นคนที่ดูแลสวนของพระเจ้า

   ใน 6 วันในการทรงเนรมิตสร้างของพระเจ้า พระเจ้าทรงตรัสว่า “ดียิ่งนัก” คำถามคือว่า “ดียิ่งนัก” แล้วทำไม่ถึงต้องหาคนมาพรวนดินใส่ปุ๋ย

   ดังนั้นพี่น้องคนใดก็ตามที่เคยรับคำสอนอย่างนี้เข้ามาในชีวิต กรุณาจินตนาการตามผมว่าตอนนี้ พี่น้องกำลังขยำกระดาษแผ่นหนึ่งแล้วให้ท่านโยนทิ้งมันไปแล้วรับคำสอนที่ถูกต้องนี้เข้าไป

   ปฐก.2:15 พระเจ้าจึงทรงให้มนุษย์นั้นอยู่ในสวนเอเดน ให้ทำและรักษาสวน นมัสการอธิษฐานปกป้องสวนของพระเจ้า

   และถ้าเราได้อ่านต่อไปพระคัมภีร์ก็บอกกับเราว่า อาดำ-เอวาก็ไม่สามารถที่จะปกป้องสวนของพระเจ้าเอาไว้ได้ ปล่อยให้ซาตานเข้าไปในสวนของพระเจ้าได้ พระเจ้าจึงโกรธและกริ้วมาก

   กลับมาที่ ลก.11:11-15 สาเหตุที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงโกรธและกริ้วมากถึงขนาดล้มโต๊ะ ล้มเก้าอี้ เพราะคนของพระเจ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่สำคัญที่สุด มิหนำซ้ำพวกเขากับทำให้พระนิเวศน์ของพระเจ้าเป็นเหมือนซ่องโจร และนี่คือเหตุผลที่พอจะทำให้พี่น้องได้เข้าใจนะครับว่า ทำไมองค์พระเยซูคริสต์เจ้าจึงทรงโกรธและกริ้วมาก

   แน่นอพี่น้องที่รักครับ ถึงแม้ว่าเราพวกเราทุกคนจะไม่ได้ทำให้พระนิเวศน์ของพระเจ้าเป็นเหมือนกับ “ซ่องโจร”เหมือนพระคำในตอนนี้ แต่สิ่งหนึ่งเราปฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือว่า

   เราไม่ได้ตระหนักถึงการทรงเรียกให้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าในชีวิต เราไม่ได้ตระหนักถึงการที่พระเจ้านั้นเรียกและเลือกให้เราเข้ามาเป็นหุ้นส่วนของพระองค์ แน่นอนพระเจ้าจะทรงไม่คว่ำโต๊ะ คว่ำเก้าอี้เรา แต่เราจะขาดพระพรจากการที่เราไม่ได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนของพระองค์ทั้งในเวลานี้และในโลกแห่งนิรันดรกาล

   เพราะฉะนั้นขอหนุนใจให้เรากลับมาสู่แผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าและพี่น้องจะไม่ขาดพระพรที่พี่น้องควรจะได้รับ...อาเมน

Green City