แบ่งปันพระพรผ่านเรื่องราวดีๆ

maw

cr.ภาพจากอินเตอร์เน็ต

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 400 ปี ก่อนคริสตกาลมีนักการฑูตคนหนึ่งชื่อว่า เยี่ยนอิง
เยี่ยนอิงเขารับราชกาลในสมัยของกษัตรย์ ฉี่จิงกง
ครั้งหนึ่งกษัตรย์ฉี่จิงกงได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยี้ยนอิงที่บ้าน
กษัตรย์ฉี่จิงกงเห็นหญิงชรานางหนึ่งในบ้าน
กษัตริย์จึงถามเยี่ยนอิงว่า “หญิงผู้นี้เป็นภรรยาของท่านหรือ ?”
เยี่ยนอิงทูลตอบกษัตริย์ฉี่จิงกวว่า “ใช่” พระองค์เจ้าข้า
กษัตรย์ฉี่จิงกงมองดูหญิงคนนี้อย่างพินิจแล้วตรัสกับ เยี้ยนอิง ว่า
“แก่ก็แก่ ริ้วรอยก็มีเต็มใบหน้า ดูไม่รื่นหูรื่นตาเอาเสียเลย” นางสนมสาวๆสวยๆในวังของเรานั้นก็มีมากมาย เราจะยกให้เจ้าสักคนหนึ่ง เจ้าจะรับไว้ไหม ?
เยี่ยนอิง ถวายบังคมแล้วทูลว่า “เป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นหนุ่ม ข้าพเจ้าไม่ได้หาคู่นอน แต่ข้าพเจ้ามองหาคู่ชีวิต และผู้หญิงคนนี้เมื่อตอนที่เธออยู่ในวัยขบเผาะ เธอสาวและสวย ข้าพเจ้าก็คิดว่าเธอก็ไม่ได้มองหาสามีแต่เธอมองหาผู้นำครอบครัว ด้วยเหตุนี้เธอปรารถนาที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่สามารถเป็นหลักประกันให้กับเธอได้โดยเฉพาะในยามที่เธอหมดสิ้นความสวยแล้ว
กษัตริย์ของข้า “บัดนี้ภรรยาของข้าพระองค์เข้าสู่การสิ้นสุดความสวยและเธอได้แก่เฒ่าแล้ว พระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์ทรยศและทอดทิ้งเธอไปมีคนใหม่อย่างนั้นหรือ ?
กษัตรย์ฉีจี่กง ได้ยินคำนี้จากเยี่ยนอิง และตรัสชมว่า ท่านเป็นขุนนางที่มีใจสัตย์ซื่อโดยแท้ แม้แต่ภรรยาผู้สิ้นความสวยเพราะความแก่เฒ่า ท่านยังไม่อาจทรยศและทอดทิ้งเธอไปได้ อย่างนี้แล้วท่านจะทรยศและทอดทิ้งเราไปได้อย่างไร”
ตั้งแต่นั้นมากษัตรย์ ฉีจี่กง จึงมอบหมายงานแผ่นดินให้อยู่ในมือของ เยี่ยนอิง แต่เพียงผู้เดียว
เจ้าบ่าว-เจ้าสาวและแขกผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่านครับ การแต่งงานไม่ใช่แค่เป็นทองแผ่นเดียวกันเท่ากันนั้น แต่เป็นการเอา 2 ชีวิตมารวมเป็นชีวิตเดียวและเป็นการรวมชีวิตที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันและกันว่า จากวันนี้เป็นต้นไปเราจะดูแลกันจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

###ด้วยรักและปรารถนาดีจาก : ก้องภพ พระคุณอุปถัมภ์

Green City