คำเตือนศิษยาภิบาลหนุ่ม

คำเตือนศิษยาภิบาลหนุ่ม

ว่าเขาควรจะปฏิบัติการงานอย่างไร

แบ่งปันโดยพระคริสตธรรมประทีป ปีที่ 6 เล่ม 21 ตุลาคม 1954

๑๑๑๑๑๑๑๑๑      ๑๑๑๑๑๑๑๑๑

  1. จงเป็นคนขยันหมั่นเพียร อย่าอยู่เฉยๆ อย่าทำการงานที่ไม่เป็นสาระ อย่าเสียเวลาหรือใช้เวลาในที่ใดๆมากไปกว่าที่จำเป็นจริงๆ
  2. จงเป็นคนเอาจริงเอาจัง จงยึดมั่นมติที่ว่า “จงเป็นคนบริสุทธิ์เฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า” จงละเว้นเสียซึ่งสิ่งไม่เป็นสาระตลกคะนองและพูดจาหยาบโลน
  3. การสนทนาปราศรัยกับสตรีนั้นจงใช้ความระแสดระวังให้น้อยครั้งที่สุดเฉพาะอย่างยิ่งกับหญิงสาว
  4. อย่าตกลงแต่งงานกับผู้ใด เว้นไว้แต่ได้ปรึกษาหารือกับพวกพี่น้องในพระเยซูคริสต์เสียก่อน
  5. อย่าเชื่อข่าวชั่วของคนอื่น เว้นแต่ท่านได้เห็นด้วยตาของตัวเอง และเมื่อท่านได้ปลงใจเชื่อ ท่านเชื่ออย่างไร หาหนทางแก้ไขช่วยเหลือในทุกสิ่ง ท่านย่อมรู้อยู่แล้วว่า ศาลและผู้พิพากษาย่อมให้ประโยชน์แก่จำเลยเสมอ
  6. อย่ากล่าวร้ายคนอื่นและถ้ากล่าวคำพูดของท่านก็จะกัดกินตัวของท่านเอง เหมือนอย่างกับแผลร้ายในปาก อย่าพูดนินทากับคนอื่น เก็บข้อความไว้ในใจจนกว่าท่านจะได้มีโอกาสพูดกับตัวของคนนั้นเอง
  7. ถ้าเราคิดมิดีมิร้ายแก่คนหนึ่งคนใด จงบอกคนนั้นให้เขาเข้าใจแจ่มแจ้งและรีบทำให้ไวที่สุด ไม่เช่นนั้นมันจะกลัดหนองขึ้นในใจของท่านเอง
  8. อย่ากระดากอายในสิ่งใดๆเลย เว้นไว้แต่ความชั่วความบาป อย่าอายในการงานต่างๆ เช่นการขนฟืน ตักน้ำ ขัดรองเท้า แม้แต่รองเท้าของคนอื่นถ้าท่านมีเวลา
  9. จงเป็นคนตรงต่อเวลา จงทำทุกอย่างตามเวลากำหนด จงรักษาระเบียบและกฎข้อบังคับ ไม่ใช่กลัวคนโกรธ แต่เพราะแก่มโนธรรมของเราเองและคนอื่น
  10. กิจการงานอื่นๆไม่ใช่ธุระของท่าน ธุระของท่าน คือ การช่วยวิญญาณ เพราะฉะนั้นจงกระทำการนี้อย่างขะมักเขม้น อย่าไปหาแต่คนที่ชอบท่าน แต่คนที่ไม่ชอบท่านก็ควรไปหาเขาด้วย เขาผู้ที่ไม่ชอบท่านนั้นแหละเป็นคนที่ต้องการท่านมากที่สุด
  11. อย่าถือว่าการเทศนามากครั้งเป็นการจำเป็นหรือว่ามัววุ่นกับกรรมการนั้น สมาคมนี้ ท่านจงพยายามช่วยวิญญาณให้มากที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้ ช่วยคนบาปให้กลับใจเสียใหม่ได้มากเท่าใดยิ่งดี และจงพยายามช่วยเขาให้เจริญขึ้นในความบริสุทธิ์ เมื่อเขาขาดความบริสุทธิ์แล้วเขาจะเห็นพระเจ้าอย่างไรได้
  12. อย่าทำให้ที่ประชุมพลาดหวังเว้นเสียแต่เกี่ยวกับความเป็นความตายจริงๆ
  13. จงตั้งต้นและจบตามเวลาที่ได้กำหนดไว้
  14. จงให้กิริยาท่าทางของท่านเป็นคนเอาจริงเอาจัง หนักแน่น และเคร่งครัดต่อหน้าที่ประชุม
  15. จงให้หัวข้อเรื่องของท่านเหมาะสำหรับที่ประชุม
  16. จงเลือกข้อพระคัมภีร์ที่แจ่มแจ้งที่สุดที่ท่านจะเลือกได้ อย่าเลือกหัวข้อพระคัมภีร์ที่มีความกำกวม
  17. จงระวังพูดอยู่กับหัวข้อ อย่าพูดนอกเรื่อง เป็นน้ำท่วมทุ่ง แต่มุ่งอยู่กับหัวข้อที่เราได้เลือกไว้แล้วเท่านั้น
  18. เรื่องนิยาย จงพูดให้น้อยที่สุด
  19. ระวังในการใช้คำพูด กิริยา ท่าทางและสำเนียงพูด ควรทำให้เหมาะสมและถูกต้อง
  20. อย่าตลกคะนอง แต่จงแสดงกิริยาสุภาพแก่คนทุกคน
  21. ไม่ว่าไปเทศน์ที่ไหน จงแนะนำเรื่องความสะอาด เพราะถัดลงมาจากความชอบธรรมก็คือความสะอาด พระเจ้าทรงเป็นคลังของคุณงามความดีทุกอย่าง สิ่งใดที่มาจากพระองค์ก็จะนำกลับไปหาพระองค์ พระองค์จะทรงอวยพรผู้ใด พระองค์ก็ทรงอวยพรผู้นั้น สิ่งใดที่ไม่ได้รับพรจากพระองค์ก็ต้องได้รับความสาปแช่งจะช้าหรือไวเท่านั้น พระองค์เจ้าได้ทรงรับสั่งไว้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย ท่านจงฟังคำแต่พระโอษฐ์ของเราและเตือนสติเขาทั้งหลายเพราะเรา” ( ยะเฮ็ศเคล / เอเสเคียล 33 : 7 ) คิดดูให้ดี การนำวิญญาณที่จะได้ผลดีนั้นเราจะต้องมีพระวิญญาณของพระกิตติคุณ คือ มีจิตใจอยากประกาศพระกิตติคุณเพื่อความรอดของคนอื่นจริงๆ และที่เรามีจิตใจอย่างนี้ เราจะต้องมีความรู้สึกแน่นอนในใจของเราเองเสียก่อนว่า พระเจ้าได้ทรงเมตตากรุณาแก่เราแล้วเท่าไหร่ คือมีความรู้สึกจริงๆไม่ใช่สักแต่ว่ารู้สึก และยิ่งกว่านั้นเราก็ต้องรู้แน่นอนใจว่า พระเจ้าได้ทรงเรียกเราให้เข้ามาทำการประกาศพระกิตติคุณนี้จริงๆ มิใช่ทำเพราะหมดหนทาง เมื่อเรามีความรักของพระองค์เต็มอยู่ในหัวใจ จะทุกข์จะยากจะลำบากสักเท่าใด เราก็ทนเอาได้ด้วยความยินดีและยิ่งไปกว่านั้น ความรักอันสมบูรณ์นี้จะอุดหนุนใจ ชูใจให้เราทำการนำวิญญาณ เพื่อความรอดของคนอื่นอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เขาจะกระทำการอย่างตัวเป็นเกลียวและจะทำด้วยสิ้นสุดใจ สิ้นสุดจิต เพื่อนำคนทั้งปวงที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงตายแทนเขาให้ถึงที่ความรอด

กฎสิบอ็ดข้อนี้ เป็นกฎสำหรับผู้ช่วยหรือผู้รั้งตำแหน่งศิษยาภิบาล เป็นกฏเกณฑ์ของคริสตจักรเมธอดิส

นอกจากพระคัมภีร์แล้ว ข้อบังคับเหล่านี้จะเป็นเหมือนโคมสำหรับเท้าและเป็นแสงสว่างสำหรับทางแก่ท่าน ข้าพเจ้าขอแนะนำให้ท่านได้พิจารณาดูด้วยดุลยพินิจและด้วยจิตใจสำหรับการเทศนาข้าพเจ้าขอแนะนำไว้สักเล็กน้อยในที่นี้

๑๑๑๑๑๑๑๑๑      ๑๑๑๑๑๑๑๑๑

Green City