ศิลปะของชีวิต

           ฟป.4:11-13 (11) ข้าพเจ้าไม่ได้บ่นถึงเรื่องความขัดสน เพราะข้าพเจ้าจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็เรียนรู้แล้วที่จะพอใจอยู่อย่างนั้น 12 ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน 13 ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า และผมจะให้ชื่อเรื่องของคำเทศนาในเช้าวันนี้ว่า “ศิลปะของชีวิต”

          

      ความงดงามและคุณค่าของสิ่งต่างๆเกิดขึ้นจาก “ศิลปะ”

        Ex.เช่น รูปภาพหรืองานแกะสลักต่างๆจะงดงามและมีคุณค่าได้จะต้องอาศัยช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญการสร้างสรรค์ผลงานนั้นขึ้นมา งานที่ช่างฝีมือที่ชำนาญการสร้างขึ้นมาเราเรียกว่า “ศิลปะ”

  คำถามก็คือว่า แล้วการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรามันจะต้องมีศิลปะด้วยหรือไม่ ?

  พี่น้องคิดว่า บางคนไปกินอาหารตามโรงแรม 5 ดาว เขาไปกินเพราะรสชาติของอาหารจากฝีมือเชฟอย่างเดียวใช่หรือไม่ ?  ก่อนกินอาหารเขาไปชมศิลปะการตกแต่งอาหารด้วย

  พี่น้องคิดว่า บางคนไปดื่มไวน์ ไปดื่มน้ำชา กาแฟ พี่น้องคิดว่าเขาไปดื่มอย่างเดียวใช่หรือไม่ ? เขาไปชมศิลปะการดู ดื่ม อมกลืน ก่อนดื่มไวน์ เขาไปชมศิลปะในการชงชาหรือการชงกาแฟก่อนดื่ม

  อาจจะกล่าวได้ว่า “ศิลปะ” มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์ในทุกๆเรื่องของชีวิตทั้งการกิน การนอน การทำงาน การอยู่ในชุมชน สังคมและประเทศชาติ

จากพระคำของพระเจ้าใน ฟป.4:11-13 ที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

  ประการที่ 1 ไม่บ่นถึงความขัดสน

  สังคมไทยในเวลานี้ นอกจากผู้คนในสังคมจะอยู่สภาวะที่ท้อแท้ สิ้นหวังและหมดกำลังใจเนื่องในโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส CORONA 19 แล้ว เวลานี้สังคมไทยยังเต็มไปด้วยการบ่น

  คำถามคือว่า ? ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสนี้มาหนึ่งปีกว่าๆ มีใครไม่ได้ยินเสียงบ่นนี้บ้าง ? แล้วเขาบ่นกันถึงเรื่องอะไรบ้างครับ ? เรื่องวัคซีน , ความขัดสน , เศรษฐกิจ ฯลฯ

  ดังนั้นการบ่นเป็นศิลปะของการดำเนินชีวิตอย่างหนึ่งคนที่ไม่รู้จักกับพระเจ้า แต่ท่าน อ.เปาโล ได้บอกกับเราผ่าน ฟป.4:11-13 ว่าส่วนคนที่รู้จักกับพระเจ้านั้นควรบ่นหรือไหมครับ ?

  แต่ก่อนที่ท่าน อ.เปาโล จะมาถึงจุดนี้ได้ มาเขียนพระคำของพระเจ้าอย่างนี้ได้ พี่น้องคิดว่าท่าน อ.เปาโล เคยเป็นคนที่บ่นมาก่อนไหมครับ ? ก่อนที่ท่าน อ.เปาโล จะมารับใช้องค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้น ท่าน อ.เปาโล เป็นศิษย์ของท่านกามาลิเอล มาก่อน คนที่จะเป็นศิษย์ของท่านกามาลิเอล ได้นั้นก็ต้องเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาด

  นอกเหนือจากนี้ท่าน อ.เปาโล ยังเป็นคนที่มีฐานะ ท่านเป็นคนที่ทำการค้า การขาย คำถามก็คือว่า พี่น้องคิดว่าคนอย่างท่าน อ.เปาโล ยังจะมีอะไรที่ขาดหรือยังมีอะไรที่จะต้องบ่นอีกไหมในชีวิต

  พี่น้องที่รักครับ คนจนขาดเงิน คนจนบางคนขาดมิตร คนจนบางคนขาดความรู้ คำถามคือว่า คนอย่างท่าน อ.เปาโล ยังจะมีอะไรที่ขาดหรือยังมีอะไรที่จะต้องบ่นอีกไหมในชีวิต ? คำตอบคือ

  ท่าน อ.เปาโล บ่นพวก 12 สาวกและบ่นพวกที่ติดตามองค์พระเยซูคริสต์เจ้าในเวลานั้นว่าเป็นพวกนอกรีต เป็นพวกลบหลู่ดูหมิ่นพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ท่าน อ.เปาโล จึงอยากที่จะจัดการกับพวกสาวกและพวกที่ติดตามองค์พระเยซูคริสต์เจ้าในเวลานั้นให้หมดสิ้นไป

  แต่การที่ท่าน อ.เปาโล บ่นและอยากที่จะจัดการกับพวก 12 สาวกรวมถึงอยากที่จะจัดการกับคนที่ติดตามองค์พระเยซูคริสต์เจ้านั่นเพราะ ท่าน อ.เปาโล ขาดความเข้าใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

แต่เมื่อท่าน อ.เปาโล ได้พบกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าในระหว่างการเดินทางไปดามัสกัสแล้วว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเป็นผู้ใดท่าน อ.เปาโล บ่นอีกไหมครับ ?  

  ชีวิตที่ได้พบกับพระคริสต์ต้องไม่เหมือนเดิม ก่อนหน้าเคยบ่นเมื่อพบพระคริสต์แล้วต้องไม่บ่น ก่อนหน้าเคยเอาเปรียบเมื่อมาพบกับพระคริสต์แล้วต้องไม่เอาเปรียบ

  การที่เราไม่บ่นถึงความขัดสน ไม่ได้หมายถึงว่า เราไม่ขัดสน

  หรือไม่ขาดแคลนนะครับ แต่ใครก็ตามที่ได้มาพบกับพระคริสต์เจ้าแล้วแม้ว่าเราจะยังขัดสนหรือขาดแคลนอยู่ แต่เราจะไม่บ่น

        ดังนั้นขอให้พี่น้องได้รู้และได้เข้าใจอย่างหนึ่งนั่นก็คือว่าโดยธรรมชาติของมนุษย์เรานั้น เราทุกคนต่างขัดสนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเสมอ แม้แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเองก็ได้ความรัก ความยำเกรงจากมนุษย์เต็ม 100% ไหมครับ ? ถึงกระนั้นพระองค์ก็ไม่บ่น ดังนั้นการไม่บ่นเป็นศิลปะอย่างหนึ่งของการดำเนินชีวิตคริสเตียน

จากพระคำของพระเจ้าใน ฟป.4:11-13 ที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

      ประการที่ 2 เรียนรู้ที่จะพอใจ

  “ศิลปะ” อย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิตคริสเตียนไม่เพียงแต่จะไม่ “บ่น” เท่านั้น จากพระคำของพระเจ้าในข้อนี้ทำให้เราทราบว่า การมีความพึงพอใจในชีวิตก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิตคริสเตียนด้วย

  คำว่า “พอใจ” ไม่ได้หมายถึง การดับไฟแห่งความก้าวหน้าในชีวิต แต่คำว่า “พอใจ” คำนี้หมายถึง การยอมรับความจริง Ex. เช่น มีงานอย่างไรก็พอใจอย่างนั้น , มีกินอย่างไรก็พอใจอย่างนั้น

  ถ้าเรายอมรับความจริงนี้ได้ เราก็สามารถที่จะชื่นชมยินดีได้ในทุกๆสภาวะ ดังนั้นเคล็ดลับความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตคริสเตียนคือ การยอมรับความจริง ประการที่สำคัญนั่นก็คือว่า พระคำของพระเจ้าก็สนับสนุนเราในเรื่องการยอมรับความจริงนี้ด้วย

      อฟ.6:14 เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอว

      ยน.8:32 “และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท"

      อฟ.415 แต่ให้เรายึดความจริงด้วยใจรัก เพื่อจะจำเริญขึ้นทุกอย่างสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะ คือพระคริสต์

  การยอมรับความจริง จะทำให้เราเป็นไท มีความหมายว่า 1 ) ทุกข์ที่มีจะหายไป 2 ) เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราต้องยอมรับมันให้ได้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว การที่เราไม่ยอมรับความจริงว่ามันเกิดขึ้นแล้วเป็นการต่ออายุความทุกข์ให้กับชีวิต

  คนไทยในเวลานี้ มีจำนวนไม่น้อยเลยนะครับพี่น้องที่รักที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป สาเหตุอันเนื่องมาจากติดโควิด-19 แล้วยังทำใจยอมรับไม่ได้ การที่เราไม่ยอมรับความจริงว่ามันเกิดขึ้นแล้วเป็นการต่ออายุความทุกข์ให้กับชีวิตหลายคนคิดฆ่าตัวตายตาม ดังนั้นศิลปะการดำเนินชีวิตของคริสเตียนอย่างหนึ่งนั่นก็คือ การเรียนรู้ที่จะพอใจที่จะอยู่อย่างนั้น

  จากพระคำของพระเจ้าใน ฟป.4:11-13 ที่เราได้อ่านร่วมกันเราพบอะไร ?

       ประการที่ 3 เรียนรู้ที่จะเผชิญกับทุกสภาพของชีวิต

  “ศิลปะ” ในการดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้าในข้อนี้นั่นก็คือ การรู้จักเผชิญ การรู้จักเผชิญ คือ การรู้เขา รู้เรา การยืดหยุ่น , การปรับตัว

  “ซุนวู”นักปราชญ์คนสำคัญของจีนในช่วงประมาณ 600 ปี ก่อนคริสตกาล ได้กล่าวเอาไว้ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ซึ่งนั่นหมายความว่าอะไร ? ซึ่งนั่นหมายความว่า ในการทำศึกสงคราม

  เวลานี้นอกจากพวกเราทั้งหลายจะอยู่ในสงครามฝ่ายวิญญาณแล้ว พวกเรายังอยู่ในสงครามของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Corona -19 และพวกเรายังอยู่ในสงครามเศรษฐกิจอีกด้วย

    รู้จักเขาอย่างเดียวได้ไหมครับ ? ต้องรู้จักเราด้วย

    รู้จักเราอย่างเดียวได้ไหมครับ ? ต้องรู้จักเขาด้วย

    รู้จักเรา หมายความว่า เราต้องรู้ว่า เรามีดีอะไร เราเก่งอะไร เราถนัดอะไร เรามีจุดแข็งหรือจุดอ่อนและหรือจุดด้อยตรงไหน

    รู้จักเขา เขาในที่นี้คือใคร ? 1) ศัตรู , ซาตาน , การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 , สภาพเศรษฐกิจ

    รู้จักเขา เขาในที่นี้หมายถึง 2 ) ปัญหา อุปสรรค ความทุกข์ยากลำบากที่ผ่านเข้ามาในชีวิตในเวลานี้ เราจะเรียนรู้ในการที่จะปรับตัวเองในการที่จะเผชิญหน้ากับมันได้อย่างไร

  ท่าน อ.เปาโล บอกกับเราว่า การยืดหยุ่น , การปรับตัว , การกล้าเผชิญ เป็น “ศิลปะ” อย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิตของผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า เวลานี้ถ้าพวกเราปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เราก็สามารถที่จะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในเวลานี้ได้

  ท่าน อ.เปาโล ก่อนหน้าที่จะมาปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า ท่านเป็นคนที่เคยกินหรูอยู่สบายมาก่อน แต่พอพระวิญญาณของพระเจ้าทรงเรียกท่าน อ.เปาโล

  พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า ชีวิตของท่าน อ.เปาโล อยู่ยากล่ะ ท่านมีชีวิตที่ถูกคนยิวด้วยกันเองคอยตามล่า ตามฆ่า ท่านถูกเฆี่ยน ถูกโบย ท่านถูกจองจำอยู่ในคุกหลายต่อหลายครั้ง ท่านต้องหนีหัวซุกหัวซุนก็หลายรอบ อีกทั้งไม่เป็นที่ไว้วางใจของอัครสาวกรุ่นแรก

  แต่ท่าน อ.เปาโล ก็เรียนรู้ในการที่จะกล้าเผชิญ ยืดหยุ่น , ปรับตัว “ศิลปะ” ในการดำเนินชีวิตที่ท่าน อ.เปาโล มีทำให้ท่าน อ.เปาโล ผ่านมันมาได้ ท่าน อ.เปาโล จึงเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ท่าน อ.เปาโล ได้ตั้งคริสตจักรตั้งแต่กรุงเยรูซาเล็มจรดกรุงโรม ถ้าเราปรับตัวได้เราก็สามารถที่จะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในเวลานี้ได้

  เด็กสมัยก่อนกับเด็กสมัยปัจจุบัน น้ำอดน้ำทนต่างกันมาก สมัยที่ผมเป็นเด็กที่บ้านมาพัดลมอยู่แค่ 2 ตัวกับสมาชิกในครอบครัว 8 คน คือ พ่อ แม่ พี่ 4 คน น้อง 1 คน ช่วงเวลาที่ร้อนต้องเอาพัดออกมาพัด ทีวีมีเครื่องเดียวแต่ต้องแย่งกันดูเป็นสิบคนแต่เขาก็อยู่กันมาได้

  ต่างจากเด็กรุ่นปัจจุบัน หลายคนติดแอร์ขาดแอร์ไม่ได้ เปิดแอร์ได้ป่ะ ขาดมือถือไม่ได้ ขาดมือถือเมื่อไหร่จะเป็นจะตายให้ได้นั่นเป็นเพราะเขาไม่รู้จักการปรับตัว

  เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามี นศ.ระดับชนะเลิศเหรียญทอง ชั้นปีที่ 3 สาขาเศรษฐศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระโดดตึกชั้น 33 ลงมาเสียชีวิตเพราะเจ้าของคอนโดให้เก็บของออกจากคอนโด เนื่องจากทางบ้านไม่สามารถหาเงินมาชำระค่าเช่าได้

  ซึ่งนั่นหมายความ เขาเผชิญกับความจริงไม่ได้ ปรับตัวไม่ได้ ยืดหยุ่นไม่เป็น ซึ่งถ้าเราปรับตัวไม่ได้เราก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในเวลานี้ได้ แต่ถ้าเราปรับตัวได้เราก็สามารถที่  จะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในเวลานี้ได้

  ดังนั้นเราต้องมีแนวความคิดที่ถูกต้อง แนวความคิดที่ถูกต้องมีอยู่ในพระวจนะของพระเจ้า เราต้องนำศิลปะของพระเจ้าเหล่านี้มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของเรา

Green City