มีเพื่อให้ ไม่ใช่เพื่ออวด

คำเทศนาเรื่อง มีเพื่อให้ ไม่ใช่เพื่ออวด

         ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่ Technology มีความการพัฒนาไปมาก เราก็จะพบว่าคนไทยมีนิสัยอวดโชว์อวดร่ำอวดรวยผ่านทาง Social Media กันมาก บ้างก็โชว์ Bankบ้างก็โชว์รถ บ้างการโชว์นั่งเครื่องบิน Jet บ้างก็โชว์ท่องเที่ยวต่างประเทศและอื่นๆอีกมากมาย

        จนกระทั่งเรื่องของการโชว์อวดร่ำ อวดรวย อวดความสำเร็จ มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประเพณีไทยไปเรียบร้อยแล้วอย่างอัตโนมัติ และเวลานี้มันก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมคริสเตียนไทยไปเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นเดียวกัน

        การที่คริสเตียนเรานั้นจะรวย คำถาม คือ รวยได้ไหมครับ ?

        การที่คริสเตียนเรานั้นจะมีวัตถุหรือสิ่งของ คำถามคือว่า เรามีวัตถุหรือสิ่งของนั้นได้ไหมครับ ?

        การที่คริสเตียนเรานั้นจะประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจ คำถามคือ เราจะประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจได้ไหม ?

        การที่คริสเตียนรวย การที่คริสเตียนมีวัตถุสิ่งของจำนวนมาก และหรือการที่คริสเตียนเรานั้นประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจ นั้นไม่ได้ถือว่าเป็นความบาป ( ถ้าคุณใช้ความรวย ความมั่งมีและความสำเร็จต่างๆเหล่านั้นไปในทางของพระเจ้า )

        แต่เมื่อใดก็ตามที่คริสเตียนใช้ความร่ำรวย ใช้วัตถุหรือสิ่งของ ใช้ความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือใช้ความสำเร็จในทางธุรกิจไปในทางที่ผิด คือ ผิดไปจากน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นล่ะคือบาป

        หน้าที่ของเด็กคืออะไรครับ ? คือ เรียน แต่เด็กไทยเยอะแยะมากมายที่ไม่สนใจเรียน สนใจอยากมีโทรศัพท์เหมือนเพื่อน สนใจอยากมีมอเตอร์ไซค์ขี่ไปโรงเรียนเหมือนเพื่อน

        สนใจอยากมีเสื้อผ้าอาภรณ์ชนิดแบรนด์เนมใส่เหมือนเพื่อน สนใจอยากกินหรูอยู่สบายเหมือนเพื่อน สนใจอยากมีแฟนเหมือนเพื่อน

        ซึ่งหนทางที่เด็กนักเรียนคนหนึ่งจะมีแบบนี้ได้ ครอบครัวต้อง HI-END คือ ฐานดีบารมีสูง แต่ถ้าครอบครัวของใครก็ตามที่ไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่อยากมีแบบเขา

        เด็กไทยส่วนมากต้องเอาอะไรไปแลกมาถึงจะได้สิ่งต่างๆเหล่านั้นมาครับ ? ใช้เวลาการคืนไปเป็นเด็ก Drink หรือนั่งดื่มเป็นผู้ชายตามผับ ตามบาร์ cocktail lounge เอาความบริสุทธิ์ไปแลกเพื่อให้ได้สิ่งต่างๆเหล่านั้นมา อันนี้เป็นสิ่งที่ผิดจากน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งนั่นหมายความว่าอะไร

        1.เขาสนใจวัตถุสิ่งของ 2) เขาเป็นพวกวัตถุนิยม 3) เขามีชีวิตติดอยู่กับวัตถุสิ่งของ และถ้าคนๆนั้นเป็นยุวชน เป็นเยาวชน และเป็นลูกหลานคริสเตียนเรา นั่นหมายความว่า

        เขาไม่ได้เป็นทาสของพระคริสต์แต่เขาเป็นทาสของสังคม เขาเป็นทาสของมาร 4) ประการที่สำคัญก็คือ เด็กและเยาวชนบางคนมีสิ่งต่างเหล่านี้ไม่ได้มีเพราะเขาชอบ แต่เพื่อประชดรัก         ประชดแฟน ประชดชีวิต ทำไปเพราะแรงแค้น สิ่งต่างๆเหล่านี้แหละที่เป็นความบาป (โปสเตอร์)

        พระคำของพระเจ้าจึงได้กล่าวเตือนเราใน 1 ทมธ.6:7-10 เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกฉันใด เราก็เอาอะไรออกไปจากโลกไม่ได้ฉันนั้น 8 แต่ถ้าเรามีอาหารและเสื้อผ้า ก็ให้เราพอใจด้วยของเหล่านั้นเถิด 9 ส่วนคนเหล่านั้น ที่อยากร่ำรวยก็ตกอยู่ในข่ายของความเย้ายวน และติดบ่วงแร้วและในความปรารถนานานาที่ไร้ความคิดและเป็นภัยแก่ตัว ซึ่งทำให้คนเราต้องถึงความพินาศเสื่อมสูญไป 10 ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นมูลรากแห่งความชั่วทั้งมวล และเพราะความโลภนี่แหละ จึงทำให้บางคนห่างไกลจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์

        การที่คริสเตียนรวย การที่คริสเตียนมีวัตถุสิ่งของจำนวนมาก การที่คริสเตียนประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจ นั้นไม่ได้ถือว่าเป็นความบาป ( ถ้าคุณใช้ไปในทางของพระเจ้า ) แต่เมื่อใดก็ตามที่คริสเตียนใช้ความร่ำรวย ใช้วัตถุหรือสิ่งของ ใช้ความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือใช้ความสำเร็จในทางธุรกิจไปในทางที่ผิด คือ ผิดไปจากน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นล่ะคือบาป

        คนหนุ่ม-คนสาวเยอะแยะมากมายในโลกใบนี้  รวมถึงคนหนุ่ม-คนสาวที่เป็นคริสเตียนด้วยนะครับ ที่ฝันอยากจะเป็นศิลปิน ดารา อยากจะเป็นนักร้อง นักแสดง หลายคนประสบความสำเร็จ และมีชื่อมีเสียง

        คำถามคือว่า ในวงการนี้เขาสอนอะไร ? สอนร้อง สอนเต้น สอน Acting มีการซ้อมหนักในทุกๆวัน สอนที่จะทำอย่างไรให้ตัวเองอยู่ในกระแสของสังคมหรือในโลกของ Social Media สอนในการที่จะพูดเอาใจ Agency หรือ FC

        แต่สิ่งที่เขาไม่ได้สอน คือ ความเข้าใจในศาสตร์และศิลป์ของชีวิต ว่าชีวิตมนุษย์นั้นมันมีขึ้นมีลงเหมือนชิงช้าสวรรค์ พอชีวิตการเป็นศิลปินของเขาขึ้นสูงสุด เขาก็ Happy มีความสุข พอชีวิตการเป็นศิลปินของเขามาถึงจุดที่ตกต่ำที่สุดเขากับ Happy กับมันไม่ได้ กับยอมรับมันไม่ได้

        ด้วยเหตุนี้ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงทั้งในและต่างประเทศหลายคนจึงฆ่าตัวตาย ซึ่งวิญญาณแห่งการฆ่าตัวตายในวงการนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย และวิญญาณแห่งการเบี่ยงเบนทางเพศก็มีอยู่ในวงการนี้ไม่น้อยด้วยเช่นเดียวกัน

        ตอนเข้าวงการไปใหม่ๆจากชายทั้งแท่ง เป็นชาย 50 หญิง 50 และสุดท้ายกลายเป็นหญิงทั้งแท่ง ซึ่งเป็นการผิดเพศสภาพการทรงสร้างของพระเจ้าไหมครับ ? (โปสเตอร์+คลิปเพียว )

        การที่คริสเตียนประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจ นั้นไม่ได้ถือว่าเป็นความบาป แต่ที่เป็นความบาป คือ

        1 ) การรับสภาพไม่ได้เมื่อตอนตกต่ำและคิดที่จะฆ่าตัวตาย 2 ) การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโลก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดไปจากน้ำพระทัยของพระเจ้า

        การที่คริสเตียนรวย การที่คริสเตียนมีวัตถุสิ่งของจำนวนมาก การที่คริสเตียนประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจ นั้นไม่ได้ถือว่าเป็นความบาป ( ถ้าคุณใช้ไปในทางของพระเจ้า ) แต่เมื่อใดก็ตามที่คริสเตียนใช้ความร่ำรวย ใช้วัตถุหรือสิ่งของ ใช้ความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือใช้ความสำเร็จในทางธุรกิจไปในทางที่ผิด คือ ผิดไปจากน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นล่ะคือบาป

        ฟลป.3:19 ปลายทางของคนเหล่านั้นคือความพินาศ พระของเขาคือกระเพาะ เขายกความที่น่าอับอายของเขาขึ้นมาโอ้อวด เขาสนใจในวัตถุทางโลก

        พระคำของพระเจ้าพูดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า การที่คุณมีโดย 1 ) ที่คุณไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนใครก็จริง 2 ) ที่คุณหามันมาได้โดยน้ำพักน้ำแรงก็จริงอยู่ แต่การมีไว้เพื่อคุยโม้โอ้อวด

        การมีไว้เพื่ออวดมั่งอวดมี , การมีไว้เพื่ออวดร่ำอวดรวย ตามหลักการของพระเจ้าแล้วเหล่านี้ คือ เรื่องที่น่าอับอาย เหล่านี้ คือ ความบาป

        นักธุรกิจคนหนึ่งได้พูดเอาไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ว่า “มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเท่าไหร่ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ให้ไปเท่าไหร่”

        2 คร.9:8-9 และพระเจ้าทรงฤทธิ์อาจประทานของดีทุกสิ่งอย่างอุดมแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อให้ท่านมีทุกสิ่งทุกอย่างเพียงพอสำหรับตัวเสมอ ทั้งจะมีสิ่งของบริบูรณ์สำหรับงานที่ดีทุกอย่างด้วย 9 ตามที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้ว่า เขาแจกจ่าย เขาให้แก่คนยากจน ความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่เป็นนิตย์

        พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า มีแล้วไม่ได้แบ่งปันหรือแจกจ่าย , มีแล้วไม่ได้เป็นผู้ให้การช่วยเหลือผู้อื่น สิ่งนี้คือความบาป Jet Lee พูดไว้อย่างไร เราไปดูกันครับ  

        1 คร.7:29-31 พี่น้องทั้งหลายข้าพเจ้าหมายความว่า ยุคนี้ก็สั้นมากแล้ว ตั้งแต่นี้ไปให้คนเหล่านั้นที่มีภรรยาดำเนินชีวิต เหมือนกับไม่มีภรรยา 30 และให้คนที่เศร้าโศกดำเนินชีวิตเหมือนกับมิได้เศร้าโศก และผู้ที่ชื่นชมยินดี ดำเนินชีวิตเหมือนกับมิได้ชื่นชมยินดี และผู้ที่ซื้อก็ให้ดำเนินชีวิต เหมือนกับว่าเขาไม่มีกรรมสิทธิ์เหนืออะไรเลย 31 และคนที่ใช้ของโลกนี้ให้ดำเนินชีวิต เหมือนกับมิได้ใช้อย่างเต็มที่เลย เพราะระบอบของโลกนี้กำลังล่วงไป

        พระคำของพระเจ้าในตอนนี้บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า “อย่าให้เรานั้นยึดติด” หรือ “ให้เราปล่อยวาง” แต่นั่นมิได้หมายความว่า การที่มีครอบครัวแล้วเราไม่ต้องรับผิดชอบกับครอบครัวนะครับ แต่นั่นหมายความว่า คุณจะต้องไม่ตกเป็นทาสของครอบครัว หรือคุณต้องให้พระเจ้าต้องมาก่อนครอบครัวเสมอ

        เพราะฉะนั้นการที่เราจะรวยหรือเราจะมีก็ต้องมีให้เป็นหรือการที่เราจะประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจนั้น เราก็จะต้องทำให้มันถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วย

        คำถามคือว่า เราจะรวยหรือเราจะมีก็ต้องมีให้เป็นอีกทั้งทำให้มันถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยนั้นทำอย่างไร ?

        อฟ.3:20 ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ กระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอหรือคิดได้ ตามฤทธิ์เดชที่ประกอบกิจอยู่ภายในตัวเรา

        ต้องไม่ใช่เราได้รับเกียรติแต่ต้องมุ่งไปเพื่อให้พระเจ้าได้รับเกียรติ เพราะฉะนั้นจะรวยก็ต้องมุ่งไปเพื่อให้พระเจ้าได้รับเกียรติจะทำอะไรต้องมุ่งไปเพื่อให้พระเจ้าได้รับเกียรติ ( เปิดคลิปปุ๊กลุก ) ( Postor Messy )

        คำถามคือว่า เราจะรวยหรือเราจะมีก็ต้องมีให้เป็นอีกทั้งทำให้มันถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยนั้นทำอย่างไร ?

        1คร.9:19-23 เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้ามิได้อยู่ในบังคับของผู้ใด ข้าพเจ้าก็ยังยอมตัวเป็นทาสรับใช้คนทั้งปวง เพื่อจะได้ชนะใจคนมากยิ่งขึ้น 20 ต่อพวกยิวข้าพเจ้าก็เป็นยิว เพื่อจะได้พวกยิว ต่อพวกที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนคนอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ (แต่ตัวข้าพเจ้ามิได้อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ) เพื่อจะได้คนที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัตินั้น 21 ต่อคนที่อยู่นอกธรรมบัญญัติข้าพเจ้าก็เป็นคนนอกธรรมบัญญัติ เพื่อจะได้คนที่อยู่นอกธรรมบัญญัตินั้น แต่ข้าพเจ้ามิได้อยู่นอกพระบัญญัติของพระเจ้า แต่อยู่ใต้พระบัญญัติแห่งพระคริสต์ 22 ต่อคนอ่อนแอข้าพเจ้าก็เป็นคนอ่อนแอเพื่อจะได้คนอ่อนแอ ข้าพเจ้ายอมเป็นคนทุกชนิดต่อคนทั้งปวง เพื่อจะช่วยเขาให้รอดได้บ้างโดยทุกวิถีทาง 23 ข้าพเจ้าทำอย่างนี้ เพราะเห็นแก่ข่าวประเสริฐเพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนในข่าวประเสริฐนั้น

        พระคำของพระเจ้าได้พูดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ท่าน อ.เปาโล ไม่ได้เป็นทาสใครเลย แต่ท่านยอม (ยอม) คือ เต็มใจ ทำตัวเป็นทาสสมัคร (ทาสสมัคร) คือ ทำมากกว่าที่ขอ ทำให้มากกว่าที่คิด เพื่อสำแดงความรักของพระเจ้าต่อคนทั้งปวง เพื่อข่าวประเสริฐของพระเจ้า เพื่อนำคนทั้งปวงมาถึงความรอด (คลิปคุณกอบชัย)

        อ.ดา ก็เป็นคนหนึ่งที่ทำแบบเดียวกับท่าน อ.เปาโล ซึ่งตอนที่ อ.ดา ยังอยู่ผมก็จะเห็นได้ว่าคนนั้นคนนี้มาหาโดยตลอดแทบจะทุกวันด้วยซ้ำ บางทีไปตั้งแต่เช้ากลับมามืดค่ำก็มี

        ผมจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วพี่อ้วนกับพี่เหว่ยเสร็จภารกิจจากงานภายในคริสตจักรฯแล้วก็จะไปนั่งพูดคุยนั่งคุยกับปุ๋ย กับจี้ กับอ่ำ นอกจากความเป็นญาติแล้ว ก็เพื่อสำแดงความรักของพระเจ้าต่อทั้ง 3 คน เพื่อข่าวประเสริฐของพระเจ้า เพื่อนำทั้ง 3 คนมาทางความรอด

        เพราะฉะนั้น การที่เราจะรวยต้องรวยให้เป็น  การที่เราจะมี ก็ต้องมีให้เป็น การที่เราจะประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือในทางธุรกิจนั้นเราก็จะต้องทำให้ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วย

        ผมจะจบคำเทศนาในเช้าวันนี้ด้วยการให้เรามาดูรูปนี้ด้วยกัน ( K.ดาวิด ) และให้เราได้อ่านพระคำของพระเจ้าใน 1 คร.15:10 แต่ว่าข้าพเจ้าเป็นอยู่อย่างที่เป็นอยู่นี้ ก็เนื่องด้วยพระคุณของพระเจ้า และพระคุณของพระองค์ซึ่งได้ทรงประทานแก่ข้าพเจ้านั้น มิได้ไร้ประโยชน์ ตรงกันข้าม ข้าพเจ้ากลับทำงานมากกว่าพวกเขาเสียอีก มิใช่ตัวข้าพเจ้าเองทำ พระคุณของพระเจ้าซึ่งดำรงอยู่กับข้าพเจ้าต่างหากที่ทำ

      พี่น้องที่รักครับ ความร่ำรวยที่มี ความมั่งคั่งที่มี และทุกๆความสำเร็จที่ได้รับในตำแหน่งหน้าที่การงานหรือทางธุรกิจ ในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อเราต้องตระหนักอยู่เสมอว่า

ทุกอย่างล้วนเป็นมาจาก พระคุณของพระเจ้าทั้งสิ้น นี่คือ คนที่รวยเป็น มีเป็น ประสบความสำเร็จเป็น

        ผมเห็นผู้เชื่อหลายคนพอเริ่มที่จะมี พอเริ่มที่จะมั่งคั่ง พอเริ่มที่จะสำเร็จเพียงแค่บันไดขั้นแรกยังไม่ไปถึงบันไดขั้นที่ 7 ก็เริ่มหลงลืมพระเจ้า เหยียบย่ำวันสะบาโต เริ่มหยิ่งผยองล่ะ เริ่มไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ล่ะ เริ่มไหว้ไม่เป็นล่ะ

        เราก็จะเริ่มเห็นชีวิตของคนเหล่านี้อีกแบบหนึ่ง คือ เริ่มมีมั่งไม่มีมั่ง ความมั่งคั่งที่มีเริ่มร่อยหรอ ตำแหน่งหน้าที่การงานหรือธุรกิจที่มีเริ่มจะไม่เสถียรล่ะ ต่อให้มีว่าชื่อ นายเสถียร นามสกุล เต็มเปี่ยมพระพร ก็ตาม

        เพราะฉะนั้นคริสเตียนประสบความสำเร็จได้  รวยได้ มีได้ มั่งคั่งได้ แต่รวยให้เป็น มีให้เป็น ประสบความสำเร็จให้เป็นโดยเฉพาะให้ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วย

Green City