ที่ปรึกษาคุณคือใคร

คำเทศนาเรื่อง ที่ปรึกษาคุณคือใคร

          1พกศ.21:1 และอยู่มาภายหลังสิ่งเหล่านี้นาโบทชาวยิสเรเอลมีสวนองุ่นอยู่ในยิสเรเอล ข้างพระราชวังของอาหับพระราชาแห่งสะมาเรีย 2 อาหับตรัสกับนาโบทว่า "จงให้สวนองุ่นของเจ้าแก่เราเถิดเพื่อเราจะได้ทำสวนผัก เพราะอยู่ใกล้วังของเรา เราจะให้สวนองุ่นที่ดีกว่าเพื่อแลกสวนนี้ หรือถ้าเจ้าเห็นชอบ เราจะให้เงินสมกับราคาสวนนั้น" 3 แต่นาโบททูลอาหับว่า "ขอพระเจ้าทรงห้ามข้าพระบาทในการที่จะยกมรดกของบรรพบุรุษให้แก่ฝ่าพระบาท" 4 อาหับก็เสด็จเข้าในวังด้วยอารมณ์ขุ่นมัว และกลัดกลุ้มยิ่งนักด้วยเรื่องที่นาโบทชาวยิสเรเอลทูลตอบพระองค์ เพราะเขาได้กล่าวว่า "ข้าพระบาทจะไม่ให้มรดกแห่งบรรพบุรุษของข้าพระบาทแก่ฝ่าพระบาท" และพระองค์ก็เอนพระกายลงบนพระแท่น ทรงเบือนพระพักตร์ไม่เสวยพระกระยาหาร 5 แต่เยเซเบลมเหสีของพระองค์เข้ามาเฝ้าพระองค์ทูลถามพระองค์ว่า "ไฉนพระจิตของฝ่าพระบาทจึงกลัดกลุ้มไม่เสวยพระกระยาหาร"  6 และพระองค์ตรัสตอบพระนางว่า "เพราะเราได้พูดกับนาโบทชาวยิสเรเอลว่า "จงขายสวนองุ่นของเจ้าให้แก่เรา หรือมิฉะนั้นถ้าเจ้าพอใจ เราจะให้สวนองุ่นอีกแห่งหนึ่งแก่เจ้าเพื่อแลกกัน" และเขาตอบว่า "ข้าพระบาทจะไม่ให้สวนองุ่นของข้าพระบาทแก่ฝ่าพระบาท"

          7 และเยเซเบลมเหสีของพระองค์ทูลพระองค์ว่า "ฝ่าพระบาทเป็นผู้ครอบครองอิสราเอลอยู่หรือเพคะ เชิญเสด็จลุกขึ้นเสวยพระกระยาหารเถิด และให้พระทัยของฝ่าพระบาทร่าเริง หม่อมฉันจะมอบสวนองุ่นของนาโบทชาวยิสเรเอลให้แก่ฝ่าพระบาทเอง" 8 พระนางจึงทรงพระอักษรในพระนามของอาหับ ประทับตราของพระองค์ส่งไปยังผู้ใหญ่และเจ้านายผู้อยู่ในเมืองกับนาโบท 9 พระนางทรงพระอักษรว่า "จงประกาศให้ถืออดอาหาร และตั้งนาโบทไว้ในที่สูงท่ามกลางประชาชน 10 และตั้งคนถ่อยสองคนให้นั่งตรงข้ามกับเขา ให้ฟ้องเขาว่า "เจ้าได้แช่งพระเจ้าและพระราชา" แล้วพาเขาออกไปและเอาหินขว้างเสียให้ตาย" 11 และประชาชนของเมืองนั้น คือผู้ใหญ่และเจ้านายผู้อาศัยอยู่ในเมืองนั้น ได้กระทำตามที่เยเซเบลมีพระอักษรสั่งไปถึงเขา ตามที่ปรากฏในลายพระหัตถ์ซึ่งพระนางทรงมีไปถึงเขานั้น 12 เขาได้ประกาศให้ถืออดอาหาร และได้ตั้งนาโบทไว้ในที่สูงท่ามกลางประชาชน 13 และคนถ่อยสองคนนั้นก็เข้ามา นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา และคนถ่อยนั้นได้ฟ้องนาโบทต่อหน้าประชาชนกล่าวว่า "นาโบทได้แช่งพระเจ้าและพระราชา" เขาทั้งหลายจึงพานาโบทออกไปนอกเมือง และขว้างเขาถึงตายด้วยก้อนหิน 14 แล้วเขาก็ส่งข่าวไปทูลเยเซเบลว่า "นาโบทถูกขว้างด้วยหิน เขาตายแล้ว"

          15 พอเยเซเบลทรงทราบว่า นาโบทถูกขว้างด้วยหินตายแล้ว เยเซเบลจึงทูลอาหับว่า "ขอเชิญเสด็จลุกขึ้น ไปยึดสวนของนาโบทชาวยิสเรเอล ซึ่งเขาได้ปฏิเสธไม่ขายให้แก่พระองค์เพราะว่านาโบทไม่อยู่เขาตายเสียแล้ว" 16 และอยู่มาพออาหับทรงทราบว่านาโบทตายแล้ว อาหับก็ทรงลุกขึ้นไปยังสวนองุ่นของนาโบทชาวยิสเรเอล เพื่อยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์

        มีพี่น้องท่านใดทราบไหมครับว่า พระมหากษัตริย์ไทยองค์ปัจจุบันคือ ร.10 ทรงครองราชย์อยู่ในรัชสมัยใด ? กรุงรัตน์โกสินทร์

          ถ้าพี่น้องอ่านในหนังสือ 1พกศ.16 พี่น้องก็จะพบว่า กษัตริย์อาหับ ได้ขึ้นปกครองอิสราเอลต่อจากอม-รีบิดาของตนในรัชสมัยของอาสากษัตริย์แห่งยูดาห์ ชื่อ อาหับ แปลว่า พี่ชายหรือน้องชายของพ่อ ซึ่งนั่นหมายถึง ลุงหรือานั่นเอง

          1 พกษ.16:31 และอยู่มาประหนึ่งว่าการที่พระองค์ดำเนินในบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัทนั้นเป็นสิ่งเล็กน้อย พระองค์ทรงรับเยเซเบลพระราชธิดาของเอ็ทบาอัลพระราชาของชาวไซดอนมาเป็นมเหสี และไปปรนนิบัติพระบาอัล และนมัสการพระนั้น

          พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า กษัตริย์อาหับมีความคิดในทำนองที่ว่า การที่เขาจะแต่งงานกับคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้านั้นมันเป็นบาปที่เล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับบาปที่กษัตริย์เยโรโบอัมนั้นได้กระทำ

          ด้วยเหตุนี้กษัตริย์อาหับจึงเริ่มต้นรัชกาลของพระองค์ด้วยการแต่งงานกับคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าของอิสราเอล นางเป็นชาวไซดอนมีชื่อว่า “เยเซเบล”  ซึ่งนางเยเซเบลนั้นเป็นคนที่นมัสการพระบาอัล ,รูปเคารพ , พระเจว็ดและพระอื่นๆอีกมากมาย

          คำถามคือว่า พี่น้องคิดว่าการที่กษัตริย์อาหับแต่งงานกับคนที่นมัสการพระเทียมเท็จอย่างนางเยเซเบลนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยด้วยไหมครับ ? ไม่เล็กน้อยเลย

          แต่สิ่งที่ไม่เล็กน้อยยิ่งกว่าคือ

                    1 ) การที่กษัตริย์อาหับได้อนุญาตให้นางเยเซเบล นำรูปเคารพเข้ามาในอิสราเอลเพื่อให้คนอิสราเอลได้นมัสการกราบไหว้บูชาด้วยอันนี้เล็กน้อยไหมครับ ?

                    2 ) อิทธิพลของนางเยเซเบลในฐานะภรรยาได้ทำให้กษัตริย์อาหับหันไปนมัสการพระบาอัลเต็มรูปแบบ อันนี้เล็กน้อยไหมครับ

ด้วยเหตุนี้พระคำของพระเจ้าจึงได้บอกกับเรา กำชับกับเราว่าให้เรานั้นสอนลูกสอนหลานว่า อย่าไปเทียมแอกกับคนไม่เชื่อ ต่อให้เชื่อพระเจ้าเหมือนกันก็ยังไม่พอ ต้องรักพระเจ้าด้วย ต้องปรนนิบัติพระเจ้าด้วย

          คำว่า ก็เด็กมันรักกันจะให้ทำอย่างไร ? นั่นคือคำพูดของพี่น้อง ส่วนคำพูดของผม คือ การอ่อนข้อต่อความบาปในวันนี้หมายถึงความพังพินาศในวันพรุ่งนี้และในอนาคตและหรือตลอดชีวิต

แล้วพี่น้องคิดว่ากษัตริย์อาหับเริ่มต้นการปกครองประเทศด้วยการแต่งงานกับนางเยเซเบลแบบนี้แล้วประเทศจะว้าวุ่นไหมครับ

          พระคำของพระเจ้าใน 1 พกศ.21 บอกกับเราว่า นาโบทชาวยิสเอเอล นั้นมีที่ดินติดอยู่กับข้างพระราชวัง ซึ่งนาโบทได้ทำสวนองุ่นเอาไว้ กษัตริย์อาหับได้พูดกับนาโบทว่า เขาอยากได้ที่แปลงนี้มาเป็นของตน

          กษัตริย์อาหับจึงมีการพูดคุยกับนาโบทว่า เขาขอแลกได้ไหมโดยกษัตริย์อาหับจะยกที่ดินแปลงที่ใหญ่กว่าเดิมให้กับนาโบทด้วยหรือถ้าจะขายให้กษัตริย์อาหับก็ยินดีที่จะซื้อเอาไว้

          แต่การเจรจาไม่บรรลุผลสำเร็จนาโบทบอกกับกษัตริย์อาหับว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินมรดกตกทอดมันมีคุณค่าทางจิตใจแก่เขามาก เขาไม่แลก เขาไม่ขาย เขาจะขอเก็บเอาไว้แบบนี้

          พี่น้องลองคิดตามผมนะครับว่า ในความเป็นกษัตริย์เมื่อเขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ จริงหรือไม่จริง ? เมื่อเขาอยากได้ที่ดินของนาโบทแต่เขาไม่ได้ พอกษัตริย์อาหับได้ยินได้ฟังแบบนี้ เขากลุ้มใจ เขากินไม่ได้ เขานอนไม่หลับ เขาไม่เสวยพระกายาหาร เขาไม่มีความสุขในชีวิต เขาแสดงอาการเด็ก เขาแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น

พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า นางเยเซเบลนั้นเห็นว่ากษัตริย์อาหับมีความไม่สบายใจ นางจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น กษัตริย์อาหับจึงเล่าให้นางเยเซเบลฟัง เมื่อนางเยเซเบลฟังแล้ว

          7 และเยเซเบลมเหสีของพระองค์ทูลพระองค์ว่า "ฝ่าพระบาทเป็นผู้ครอบครองอิสราเอลอยู่หรือเพคะ เชิญเสด็จลุกขึ้นเสวยพระกระยาหารเถิด และให้พระทัยของฝ่าพระบาทร่าเริง หม่อมฉันจะมอบสวนองุ่นของนาโบทชาวยิสเรเอลให้แก่ฝ่าพระบาทเอง"

          นางเยเซเบลจึงได้บอกกับกษัตริย์อาหับว่า เดี๋ยวนางจะนำที่ดินผืนนี้มามอบให้พระองค์เอง พี่น้องเห็นอะไรไหมครับ ? กษัตริย์อาหับเป็นผู้ชาย แต่การแสดงออกในเรื่องนี้ของกษัตริย์อาหับกับเป็นนิสัยของผู้หญิง ส่วนเยเซเบลเป็นผู้หญิง แต่คำพูดคำจา นิสัยใจคอออกเป็นนิสัยของผู้ชาย

          โลกใบนี้ถูกปกครองโดยซาตาน ซาตานมันกำลังทำให้ผู้คนในโลกใบนี้เกิดความสับสนใน 1) เรื่องเพศสภาพ 2) ความเป็นชายจริงหญิงแท้ แต่พระเจ้าทรงทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนไว้แล้วตั้งแต่สร้างโลก

          และนี่คือสิ่งที่คริสตจักรต้องสอน คือ ความเป็นชายจริงหญิงแท้ เช่น ผู้ชายควรไว้ผมสั้น แข็งนอกอ่อนใน หมายถึงภายนอกดูเข้มแข็ง ภายในอ่อนสุภาพ ให้ความเคารพผู้ใหญ่ ให้เกียรติผู้หญิง , ส่วนผู้หญิงจะต้องไว้ผมยาว จะยืนจะนั่ง จะเดิน จะพูด จะคุยหรือจะรับประทานต้องแบบกุลสตรี อีกทั้งไม่สวมใส่หรือทำอะไรที่เป็นของผู้ชาย เช่น การสักยันต์ เป็นต้น

          กลับมาที่พระคำของพระเจ้า นางเยเซเบลจึงได้บอกกับกษัตริย์อาหับว่า เดี๋ยวนางจะนำที่ดินผืนนี้มามอบให้กับพระองค์เอง

          คำถามคือว่า พี่น้องเห็นอะไรไหมครับ ? แม้ว่าอาหับจะเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลก็จริง แต่อำนาจในการบริหารจัดการประเทศอยู่ในมือของนางเยเซเบล เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพี่น้องคิดว่านางเยเซเบลจะบริหารประเทศในวิถีทางของพระเจ้าไหมครับ

          นางเยเซเบลจึงได้บอกกับกษัตริย์อาหับว่า เดี๋ยวนางจะนำที่ดินผืนนี้มามอบให้กับพระองค์เอง คำถามคือด้วยวิธีไหนครับ ?

          พระคำของพระเจ้าได้มีการบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนในข้อที่ 8-14 ว่านางเยเซเบลได้วางแผนการที่ชั่วร้ายนั่นก็คือ ฆ่านาโบททิ้งเสีย เพื่อจะเอาที่ดินของนาโบทมาให้กับสามีของตน

          สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับพี่น้องอย่างตรงไปตรงมานั่นก็คือว่าการบริหาร การจัดการคริสตจักรไทยในหลายๆแห่งเวลานี้อยู่ในมือของนางเยเซเบล คือ ทำตามวิถีของโลก ทำตามความคิดของตนเอง ไม่ได้ทำตามวีถีของพระเจ้า

          วันที่พี่น้องมีปัญหาพี่น้องปรึกษาใครหรือคุยกับใคร ?

          ใช่พระเจ้าไหม ? ใช่พระคัมภีร์ไหม ? ใช่พี่น้องคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณไหม ? ใช่คนของพระเจ้าไหม ? หรือพี่น้องกำลังปรึกษากับนางเยเซเบลอยู่

          1พกษ.22:34-37 แต่มีชายคนหนึ่งโก่งธนูยิงเดาไป ถูกพระราชาแห่งอิสราเอลเข้าระหว่างเกล็ดเกราะและแผ่นบังพระอุระ พระองค์จึงรับสั่งคนขับรถรบว่า "หันกลับเถอะ พาเราออกจากการรบ เพราะเราบาดเจ็บแล้ว" 35 วันนั้นการรบก็ดุเดือดขึ้น เขาก็หนุนพระราชาไว้ในราชรถให้หันพระพักตร์เข้าสู่ชนซีเรีย จนเวลาเย็นพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ และโลหิตที่บาดแผลก็ไหลออกนองท้องรถรบ 36 ประมาณดวงอาทิตย์ตกก็มีเสียงร้องทั่วกองทัพว่า "ทุกคนจงกลับไปเมืองของตัว และทุกคนจงกลับไปภูมิลำเนาของตัว" 37 ครั้นพระราชาสิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็นำมายังกรุงสะมาเรีย และฝังพระศพพระราชาไว้ในสะมาเรีย

          2 พกษ.9:30-33 เมื่อเยฮูมาถึงเมืองยิสเรเอล เยเซเบลทรงทราบเรื่อง พระนางก็ทรงเขียนตาและแต่งพระเศียรและทรงมองออกไปทางพระแกล 31และเมื่อเยฮูผ่านเข้าประตูวังมาพระนางมีพระเสาวนีย์ว่า "เจ้าผู้ฆ่านายของเจ้า อย่างเจ้าศิมรี มาอย่างสันติหรือ"

          32 แล้วเยฮูแหงนพระพักตร์ทอดพระเนตรที่หน้าต่างตรัสว่า "ใครอยู่ฝ่ายเรา ใครบ้าง" มีขันทีสองสามคนชะโงกหน้าต่างออกมาดูพระองค์ 33 พระองค์ตรัสว่า "โยนนางลงมา" เขาจึงโยนพระนางลงมา และโลหิตของพระนางก็กระเด็นติดผนังกำแพงและติดม้า และพระองค์ทรงม้าย่ำไปบนพระนาง

          พระคัมภีร์ได้มีการบันทึกถึงมรณกรรมของกษัตริย์อาหับเอาไว้ใน 1พกษ.22:34-37 และพระคัมภีร์ได้มีการบันทึกมรณกรรมของนางเยเซเบลเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกันอยู่ใน 2 พกษ.9:30-33 ว่าเขาทั้ง 2 ถูกสังหารตายอย่างน่าสลด

          พี่น้องที่รักครับ กษัตริย์อาหับจะไม่สูญเสียบัลลังก์ กษัตริย์อาหับจะไม่สูญเสียชีวิต และกษัตริย์อาหับจะไม่สูญเสียโอรส อีก 70 คน ถ้าเขาปรึกษาพระเจ้าหรือปรึกษาคนของพระเจ้า

          เมื่อใดก็ตามที่พี่น้องมีอุปสรรคปัญหาและพี่น้องเลือกที่จะปรึกษากับนางเยเซเบล  1 ) ความสูญเสียจะเกิดขึ้นกับพี่น้องเหมือนกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับกษัตริย์อาหับและครอบครัว      2 ) พี่น้องจะเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งของซาตานและมันจะมีความสุขมากที่ได้ฉีกชีวิตของพี่น้องออกมาเป็นชิ้นๆ

          พี่น้องจำได้ไหมครับว่า เมื่อพระเจ้าทรงสร้างอาดำขึ้นมา พระเจ้าทรงอนุญาตให้เขาอยู่ในสวนเอเดน มากไปกว่านั้นพระเจ้าทรงมอบขอบเขต ความรับผิดชอบและหน้าที่ให้กับอาดำได้ทำด้วยนั่นก็คือ การดูแลสวนของพระเจ้า

           ปฐก.1:26แล้วพระเจ้าตรัสว่า "ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไป และสัตว์ต่างๆที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน" พระคำของพระเจ้าในข้อนี้ บอกกับเราว่า พระเจ้าทรงให้มนุษย์นั้นเป็นผู้ครอบครองและเป็นผู้ปกครองในทุกๆสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา

          ปฐก.3:6 เมื่อหญิงนั้นเห็นว่า ต้นไม้นั้นน่ากิน และน่าดูด้วย ทั้งเป็นต้นไม้ที่มุ่งหมายจะให้เกิดปัญญา จึงเก็บผลไม้นั้นมากิน แล้วส่งให้สามีกินด้วย เขาก็กิน

          เอวาพูดขึ้นว่า ที่รักของฉันลองกินนี่ดูสิ ฉันลองกินดูแล้วมันอร่อยมาก นี่คือเสียงของนางเยเซเบลผ่านทางเอวาและเมื่ออาดำฟังและได้ทำตามเสียงนี้

          “สิทธิอำนาจ” ในการครอบครองและปกครองโลกที่พระเจ้าทรงมอบให้กับอาดำได้ถูกถ่ายโอนไปอยู่ในสิทธิอำนาจของซาตานในทันที ซาตานมันจึงได้ครอบครองและปกครองโลกจากวันนั้นในสวนเอเดนจนมาถึงวันนี้

          เมื่ออาดำฟังและทำตามเสียงของนางเยเซเบลผ่านทางเอวา เสียงนั้นทำให้การตายฝ่ายวิญญาณได้เกิดขึ้น ชีวิตที่เป็นอมตะนิรันดรของอาดำได้หายไปในทันที

วันที่พี่น้องมีปัญหาพี่น้องปรึกษาใครหรือคุยกับใคร ?

          ใช่พระเจ้าไหม ? ใช่พระคัมภีร์ไหม ? ใช่พี่น้องคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณไหม ? ใช่คนของพระเจ้าไหม ? หรือพี่น้องกำลังปรึกษากับนางเยเซเบลอยู่

          แซมสันเป็นชาวอิสราเอลคนสุดท้ายที่ถูกล่าวไว้ในหนังสือผู้วินิจฉัยของคัมภีร์ฮีบรูและเป็นหนึ่งในผู้นำที่ "วินิจฉัย" ชาวอิสราเอลคนสุดท้ายก่อนที่จะมีระบบกษัตริย์ขึ้นมาแทนที่ 

          พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า แซมสันเป็นชาวนาศีร์ และมีความแข็งแกร่งที่สามารถทำลายฝ่ายศัตรูได้ และทำในสิ่งที่ดูเหนือมนุษย์ เช่น การสังหารสิงโตด้วยมือเปล่า และสังหารทหารชาวฟิลิสเตีย ด้วยกระดูกกรามของลา อย่างไรก็ตามถ้าผมยาวของแซมสันถูกตัด การสาบานเป็นนาศีร์จะถูกล้มเลิกและเขาจะสูญเสียความแข็งแกร่งไป

          พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่าแซมซันนั้นมีความชอบผู้หญิงฟิลิสเตีย พ่อแม่ห้ามว่าอย่าไปแต่งกับหญิงที่ไม่เข้าสุหนัต พ่อแม่บอกแซมซันว่าผู้หญิงในหมู่บ้านเรามีเยอะเดี๋ยวจะหาภรรยาให้ แซมซันก็ไม่ฟัง

          การสมรสครั้งแรกมีปัญหา เลิกลากันไปได้พักใหญ่ก็ไปชอบกับผู้หญิงชาวฟิลิสเตียอีกเป็นครั้งที่ 2 นางมีชื่อว่านางเดไลลาห์ ทหารฟิลิสเตียบอกกับเดไลลาห์ว่า ถ้าเจ้าล้วงความลับของแซมซันมาได้พวกเราจะให้แผ่นทองกับเจ้าคนละ 1,100 แผ่น

          เดลิลาห์ คู่รักของแซมซัน จึงพยายามหลอกถามถึงความแข็งแกร่งของแซมซันทุกวัน จนในที่สุดแซมซันก็ยอมบอกความจริงแก่นาง เสียงที่พูดกับแซมซัน คือ เสียงของนางเยเซเบลผ่านนางเดไลลาห์

          โดยเธอสั่งให้ข้ารับใช้ตัดผมในขณะที่เขาหลับและส่งเขาไปให้ชาวฟิลิสเตีย โดยแซมซันเขาถูกควักตาออกแล้วบังคับให้เขาบดเมล็ดพันธุ์ในโรงสีข้าวที่กาซา 

        วันที่พี่น้องมีปัญหาพี่น้องปรึกษาใครหรือพูดคุยกับใคร ?

          ใช่พระเจ้าไหม ? ใช่พระคัมภีร์ไหม ? ใช่พี่น้องคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณไหม ? ใช่คนของพระเจ้าไหม ? หรือพี่น้องกำลังปรึกษากับนางเยเซเบลอยู่

          พี่น้องเคยตั้งขอสังเกตเหมือนผมไหมว่า เมื่อเรามาเชื่อในพระเจ้าพระเยซูคริสต์ น้ำพระทัยของพระเจ้า คือ ปรารถนาที่จะให้ชีวิตของเรานั้นมีความสงบสุขในชีวิต แต่ชีวิตจริงของเรามันกับมีปัญหาไม่แตกต่างอะไรจากคนไม่เชื่อพระเจ้า ทั้งๆที่เราก็มานมัสการพระเจ้าทุกวันอาทิตย์ ขาดโบสถ์น้อยมาก แต่ทำไมเราสูญเสีย เพราะว่าเราฟังเสียงของนางเยเซเบล มากกว่าที่จะฟังเสียงขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ใช่หรือไม่

          พระคัมภีร์บอกกับเราว่าโนอาห์เมื่อมีอายุครบ 500 ปี เขาจึงมีบุตรชื่อ เชม ฮามและยาเฟท พระเจ้าเป็นคนที่เลือกและเรียกให้โนอาห์ต่อเรือ ซึ่งโนอาห์ใช้เวลาในการต่อเรือนาน 100 ปี

          ในช่วงเวลาของการต่อเรือ เพื่อนบ้านของโนอาห์ ถามโนอาห์ทุกวันว่าโนอาห์ต่อเรือทำอะไร ? จะบ้าหรือเปล่าที่ว่าน้ำจะท่วมโลก ? นายน่าเพี้ยนไปแล้ว ? นี่คือเสียงของนางเยเซเบล

          แต่เสียงของนางเยเซเบลที่พูดผ่านเพื่อนบ้านทุกวัน ไม่สามารถทำอะไรโนอาห์ได้เลย เพราะโนอาห์เปิดหูฟังแต่เสียงของพระเจ้ามากกว่าฟังเสียงของนางเยเซเบล

          พระคัมภีร์จึงได้มีการกล่าวถึงโนอาห์ว่า “ พระเจ้าตรัสกับโนอาห์อย่างไรโนอาห์ก็ทำอย่างนั้นทุกประการ ”

          วันที่พี่น้องมีปัญหาพี่น้องปรึกษาใครหรือพูดคุยกับใคร ?

          ใช่พระเจ้าไหม ? ใช่พระคัมภีร์ไหม ? ใช่พี่น้องคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณไหม ? ใช่คนของพระเจ้าไหม ? หรือพี่น้องกำลังปรึกษากับนางเยเซเบลอยู่

          ปฐก.22 บอกกับเราว่า พระเจ้าได้ทรงบัญชาให้อับราฮัมนั้นถวายอิสอัคแก่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ภูเขาโมริยาห์ พระคัมภีร์บอกกับเราอย่างชัดเจนว่า อับราฮัมตื่นแต่เช้ามืดแล้วออกเดินทางไปกับอิสอัคและคนใช้อีก 2 คน

          อับราฮัมไม่บอกเรื่องนี้แก่นางซาราย ไม่พูดอะไรกับคนใช้ ทั้ง 2 คน ตอบคำอิสอัคแบบคำต่อคำ ซึ่งนั่นหมายความว่า อับราฮัมไม่มีพื้นที่มากพอที่จะให้นางเยเซเบลเข้ามาพูดอะไรในชีวิต

ปฐก.22:15-19 พูดถึงพระพรที่อับราฮัมได้รับ 15 ทูตของพระเจ้าเรียกอับราฮัมครั้งที่สองมาจากฟ้าสวรรค์ว่า

          16 "พระเจ้าตรัสว่า เราปฏิญาณในนามของเราว่า เพราะเจ้ากระทำอย่างนี้และมิได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้า 17 เราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ 18 ประชาชาติทั้งหลายทั่วโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า เหตุว่าเจ้าฟังเสียงของเรา" 19 อับราฮัมจึงกลับไปพบคนใช้หนุ่มของท่าน แล้วพากันกลับไปยังเมืองเบเออร์เชบา อับราฮัมก็อาศัยอยู่ที่เบเออร์เชบา

          วันที่พี่น้องมีปัญหาพี่น้องปรึกษาใครหรือพูดคุยกับใคร ?

          ใช่พระเจ้าไหม ? ใช่พระคัมภีร์ไหม ? ใช่พี่น้องคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณไหม ? ใช่คนของพระเจ้าไหม ? หรือพี่น้องกำลังปรึกษากับนางเยเซเบลอยู่

          พวกเราทราบกันเป็นอย่างดีว่า เอซาวกับยาโคบนั้นมีปัญหากัน ยาโคบจึงไปอยู่กับลุงลาบัน จนยาโคบได้ลูกสาวทั้ง 2 คนของลุงลาบันมาเป็นภรรยา

          ต่อมายาโคบกับลาบันมีปัญหากัน ยากโคบจึงอยากกลับไปหาเอซาว แต่ยาโคบก็ยังกลัวอยู่ว่าเอซาวนั้นยังโกรธเขาอยู่รายละเอียดให้พี่น้องไปอ่านเพิ่มเติมนะครับ

          พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า ยาโคบได้ส่งใครต่อใครไปล่วงหน้าหมดแล้ว เหลือเขาเพียงคนเดียวและยาโคบได้ปล้ำสู้กับบุรุษผู้หนึ่งที่เปนีเอล

          บุรุษนั้นบอกกับยาโคบว่าปล่อยเราไปเถิดใกล้จะสว่างแล้ว ยาโคบบอกว่าข้าพเจ้าไม่ยอมให้ท่านไป นอกจากท่านจะอวยพรแก่ข้าพเจ้า

          ยาโคบ มีปัญหาความไม่สบายใจในเรื่องของเอซาว ยาโคบจึงเลือกที่ปรึกษาพูดคุยกับพระเจ้า จนบุรุษนั้นจึงต้องอวยพรให้แก่ยาโคบ

          วันที่พี่น้องมีปัญหาพี่น้องปรึกษาใครหรือพูดคุยกับใคร ? ใช่พระเจ้าไหม ? ใช่พระคัมภีร์ไหม ? ใช่พี่น้องคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณไหม ? ใช่คนของพระเจ้าไหม ? หรือพี่น้องกำลังปรึกษากับนางเยเซเบลอยู่

          ถ้าพี่น้องเรื่องปรึกษานางเยเซเบลพี่น้องจะมีฉากจบของชีวิตที่ไม่สวย แต่ถ้าพี่น้องปรึกษาพระเจ้า คนของพระเจ้า คนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ ฉากจบของชีวิตพี่น้องก็จะสวยงาม ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

 

 

 

Green City